บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (“VGI”) ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (“O2O”) โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ แจ้งผลการดำเนินงานปี 2563/64 ส่งมอบผลงานที่แข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทายจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปีที่ผ่าน โดย VGI และกลุ่มบริษัทฯ ยังคงสามารถผลักดันผลการดำเนินงานที่โดดเด่นทำกำไรสุทธิ 980 ล้านบาท ผ่านความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ Offline-to-Online (“O2O”) โซลูชั่นส์ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและช่วยกระจายความเสี่ยงจากการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ฝ่าทุกวิกฤตไปได้
คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยผลกระทบที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่ทั่วโลกต้องเจอกับวิกฤตการณ์ความรุนแรงอย่างมาก รวมถึงประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการล็อคดาวน์ต่างๆ ที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง และเกิดความเสียหายต่อภาคธุรกิจและประชาชน ทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 2,480 ล้านบาท ลดลง 38.0% YoY โดยธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 1,540 ล้านบาท และธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้ 940 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯ สามารถจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นโดยยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นด้วยผลกำไรสุทธิในปี 2563/64 อยู่ที่ 980 ล้านบาท สำหรับทิศทางดำเนินงานและพัฒนาการสำคัญของกลุ่มบริษัท ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน แม้ในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาแคมเปญด้านการตลาดและปรับปรุงสื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจบริการชำระเงิน VGI ได้ขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์อย่างต่อเนื่องผ่านกลุ่มแรบบิทที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชั่นส์ที่เข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดิจิทัลและส่งเสริมการเติบโตให้แก่กลุ่มบริษัทฯ โดยมีพัฒนาการของจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบัน Rabbit card มีจำนวน 14.2 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 9.0% จาก 13 ล้านใบ และ Rabbit LinePay มีจำนวนทั้งสิ้น 8.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 11.8% YoY จาก 7.3 ล้านราย ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ผ่านมา VGI เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้การโฆษณาเกี่ยวกับการ IPO ของ KEX มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการใช้สื่อโฆษณาของกลุ่มบริษัทฯ ในทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการส่งสินค้าตัวอย่างและการให้บริการโฆษณาผ่าน Parcel Sticker มากกว่า 1.6 ล้านชิ้น การให้บริการโฆษณาบนรถขนส่งพัสดุของ Kerry จำนวนกว่า 700 คัน รวมถึงการเปิดตัวร้านให้บริการจัดส่งพัสดุ (Parcel Shop) บน 4 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส นอกจากนี้เรายังแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกันที่เรียกว่า ‘Driver Handover’
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยได้มีการหดตัวอย่างรุนแรงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ต่างๆ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากแรงสนับสนุนด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของของภาครัฐ รวมถึงแผนการกระจายวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ตลอดทั้งปีนี้ VGI จึงได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในอยู่ที่ 3,800 – 4,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 50% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในช่วง 20 – 25%
ทั้งนี้ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 รอบใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน 2564 บริษัทฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงสร้างเสถียรภาพทางการเงินและเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทฯ เพื่อสร้างความพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า VGI จะสามารถมอบประโยชน์สูงสุดผ่านผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง และแม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2563/64 ที่ 0.041 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติม