‘เอกา โกลบอล’ ผู้นำเทรนด์บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร มองธุรกิจอาหารไทยในยุคโควิด-19 อนาคตไกล สนับสนุนผู้ประกอบการปรับตัว ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องความสะอาดความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ขณะภาครัฐวางบทบาทให้ไทยเป็นครัวของโลก คาดธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ฟังก์ชั่นนัล ฟูดส์ และออร์แกนิก ฟูดส์ มาแรง พร้อมเดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย ปรับตัวรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยน เลือกใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ ช่วยยืดอายุอาหาร นำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในเรื่องอาหารที่ให้ความสำคัญกับอาหารการกินมากขึ้น และให้ความสำคัญกับความสะอาดความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ผู้ประกอบการอาหารหันมาให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเร่งนำเอาเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอาหารให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภค ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกันต้องมองถึงตลาดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (SME) จำเป็นจะต้องปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภควิถีชีวิตรูปแบบใหม่ หรือ นิวนอร์มอล (New Normal) ซึ่งในเวลานี้ได้กลายมาเป็นวิถีชีวิตปกติ หรือ นาวนอร์มอล (Now Normal) แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสะอาด ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานหลัก จำเป็นต้องใส่ใจความสะอาดทุกขึ้นตอน ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการหลังบ้าน การบรรจุอาหารลงในกล่อง หรือ แม้แต่การแต่งกายของพนักงาน การสวมใส่ถุงมือ และหน้ากากอนามัย รวมถึงพนักงานส่งอาหาร ต้องดูแลความสะอาดร่างกายเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคโควิด-19 ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และให้ความสำคัญกับคุณค่าและประโยชน์ของสารอาหาร จะเป็นโอกาสของธุรกิจอาหารในกลุ่มออร์แกนิก ฟูดส์ (Organic Foods) หรือ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่ใช้สารพิษ ยาฆ่าแมลง และสารเคมี และกลุ่มฟังก์ชั่นนัล ฟูดส์ (Functional Foods) หรือ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงในการส่งเสริมสุขภาพด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมจากคุณประโยชน์ทางโภชนาการของอาหารทั่วไป โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มที่เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และกลุ่มที่ช่วยย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
“อ้างอิงข้อมูลจาก Euromonitor ระบุข้อมูลผลสำรวจธุรกิจฟังก์ชั่นนัล ฟูดส์ ในไทยมีขนาดตลาดประมาณ 68,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตขึ้น 5% ในปี 2564 ส่วนธุรกิจออร์แกนิก ฟูดส์ มีขนาดตลาดประมาณ 560 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2564” นายชัยวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยาวนาน นับเวลามากกว่า 2 ปี ยังส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีความเคยชินกับการสั่งอาหารผ่านทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าโควิด-19 จะจบลง แต่เชื่อว่าการสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่ จะยังคงดำเนินต่อไป และยอดคำสั่งซื้อมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงอย่างแน่นอน ซึ่งมองเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ โดยการแข่งขันหลังโควิด-19 การขายออนไลน์ หรือ การส่งอาหารให้ลูกค้าผ่านเดลิเวอรี่ จะกลายเป็นช่องทางสำคัญต่อไป
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การที่ภาครัฐยังคงสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารและวางบทบาทให้ไทย เป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) ด้วยเป้าหมาย GDP อุตสาหกรรมอาหารของไทย จะแตะระดับ 1.35 ล้านล้านบาท ภายในปี 2569 แน่นอนว่าในอนาคตจะมีผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ รวมทั้งคู่แข่งรายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเลือกนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ช่วยยืดอายุอาหาร และเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อปิดจุดอ่อน (Pain Point) ของธุรกิจ โดยเฉพาะจุดอ่อนเรื่องอายุการจัดเก็บอาหารที่สั้น
ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้สนใจนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เอกา โกลบอล ได้นำเอานวัตกรรมบรรจุแบบดัดแปรบรรยากาศ Modified Atmosphere Packaging Process หรือ MAP มาปรับใช้ให้กับเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ประกอบการอาหารได้ทดลองใช้ ภายใต้โครงการทดสอบการจัดเก็บอาหารกับบรรจุภัณฑ์อาหารวิถีใหม่ โดยเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถส่งผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าทดสอบ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถาม โทร.038-574-187 หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eka-global.com