การเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง นับเป็นหัวใจหลักของไมเนอร์ โฮเทลส์ โดยวิธีการตั้งรับพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์นี้เอง ทำให้ไมเนอร์ โฮเทลส์ ที่มีโรงแรมในเครือกว่า 530 โรงแรม คาดหวังที่จะมีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน ซึ่ง SiteMinder สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวนั้นได้ด้วย Multi-Property
ในปี 2019 ไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งใน 25 เครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลลัพธ์อันเนื่องมาจากความมุ่งมั่นบ่มเพาะความเชี่ยวชาญและการขยายเครือข่ายโรงแรมแม้ในพื้นที่ที่ยังไม่เคยดำเนินธุรกิจมาก่อน ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์อย่าง SiteMinder ที่ร่วมธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน ในการสร้างความยืดหยุ่นและพร้อมปรับเปลี่ยนเข้ากับทุกสถานการณ์เพื่อรองรับความต้องการของแขกผู้เข้าพักเป็นอันดับแรก ซึ่งกลายมาเป็นแนวทางที่สร้างความสำเร็จให้กับไมเนอร์ ในช่วงที่ผ่านมา
คุณ Kannaphon Phienlumleart ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดจำหน่ายห้องพักกล่าวว่า “สิ่งที่เรามองหาจากแพลตฟอร์มคือ ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่เปิดโอกาสให้เรา สามารถเลือก ‘สั่งงานจากส่วนกลางในครั้งเดียว’ หรือ ‘สั่งงานแยกในแต่ละส่วน’ ตามแต่สถานการณ์ รวมถึงการทำรีพอร์ทของแต่ละโรงแรมผ่านส่วนกลาง และยังสามารถตั้งค่าการสั่งงานจากส่วนกลางหรือสลับตั้งค่าผ่านระบบของแต่ละโรงแรมได้ โดยความยืดหยุ่นดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เราสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่ ซึ่งสิ่งนี้ สามารถสะท้อนตัวตนของบริษัทเราได้เป็นอย่างดี”
Minor และ SiteMinder ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2013 แต่การเปิดตัวของ Multi-Property ของ SiteMinder ในครั้งนี้ ช่วยให้เครือโรงแรมสามารถรวมการทำงานต่างๆ เข้าสู่ศูนย์กลางได้ทันท่วงทีโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน
วิเคราะห์จุดเด่นของ SiteMinder Multi-Property
Multi-Property ของ SiteMinder ไม่เพียงแค่ช่วยลดความซับซ้อนแต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมที่ดูแลด้านรายได้ ด้วยการเปิดโอกาสให้กลุ่มและเครือโรงแรมจัดการและจัดสรรราคาห้องพักของตนได้จากส่วนกลาง
คุณ Marcos Cadena รองประธานฝ่ายการตลาดดิจิทัล, การจัดจำหน่าย CRM ลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายหุ้นส่วน และหัวหน้าฝ่ายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้กล่าวว่าเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้เครือโรงแรมสามารถกำหนดนโยบายและควบคุมกลไกต่างๆ ผ่านระบบศูนย์กลางจากประเทศไทย เนื่องจากสามารถวิเคราะห์และเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นของทุกโรงแรมในเครือได้ครบบนแพลตฟอร์มเดียว
คุณ Marcos ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าเทคโนโลยีดังกล่าวได้ช่วยประหยัดเวลาให้กับบริษัทอย่างมหาศาล จากปกติที่ประมาณการว่าต้องใช้คนเพิ่มถึง 10 คนในการดูแลงานดังกล่าวให้ทั่วถึงหากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่กระทบต่อกำไรของบริษัท
นอกจากนั้น เขายังชี้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายดายของของ Multi-Property ที่ส่งผลให้การฝึกอบรมสมาชิกใหม่ในทีม ให้สามารถร่วมงานเริ่มต้นทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น
“สิ่งที่ทำให้เราประทับใจใน SiteMinder มาตลอด คือประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมเสมอมา ซึ่งบางครั้ง ปัจจัยนี้มีความสำคัญสำหรับเรามากกว่าปัจจัยทางด้านราคา เพราะเราได้ตระหนักว่า หากประสบการณ์ของผู้ใช้งานไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ คนก็จะเลิกใช้ผลิตภัณฑ์นั้นไป ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะมีราคาถูกหรือแพงเพียงใดก็ตาม”
คุณ Kannaphon เน้นย้ำด้วยว่าเทคโนโลยีดังกล่าว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่งานส่วนใหญ่ ถูกกระจายความรับผิดชอบไปยังแต่ละส่วน โดยสามารถเปลี่ยนมาใช้งาน Multi-Property เพื่อให้การทำงานทุกวันง่ายดายยิ่งขึ้นแทน
“โรงแรมแต่ละแห่งในเครือของเรานสามารถจัดการบริหารงานในแต่ละวันได้ด้วยตนเอง แต่ก็เป็นข้อดีขององค์กรเช่นกันหากเราสามารถกำหนดโปรโมชั่นให้กับทุกโรงแรมในเครือได้ในเวลาเดียวกัน โดยเราสามารถเลือกสั่งการบางฟังก์ชั่นได้เองจากส่วนกลางของบริษัท ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้กับเรา”
คุณ Kannaphon ยังเน้นถึงความสำคัญของการตรวจสภาพความสมบูรณ์ ผ่าน Multi-Property ที่อำนวยความสะดวกให้ทีมงานสามารถตรวจสอบสถานะของการเชื่อมต่อในแต่ละช่องทาง ณ เวลานั้นๆ สำหรับโรงแรมแต่ละแห่งในเครือได้
ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ
ไมเนอร์วางแผนที่จะเปิดตัวโรงแรมอีกกว่า 17 แห่งในปีนี้ ซึ่ง คุณ Marcos และ คุณ Kannaphon เชื่อว่า Multi-Property จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การจัดตั้งโรงแรมใหม่ รวมไปถึงการฝึกอบรมพนักงานใหม่เป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งความรวดเร็วในการเปิดตัวสู่ตลาดของแต่ละโรงแรมใหม่ในเครือเพิ่มขึ้นนี้ ช่วยให้ไมเนอร์ สามารถลดอัตราการจ้างบุคลากรรวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆเกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี คุณ Marcos กล่าวเสริมว่าไมเนอร์ คือบริษัทที่ผลักดันด้วยความสำเร็จอย่างแท้จริง”
“หากเราไม่มีเทคโนโลยีที่เราใช้งานอยู่ในทุกวันนี้ ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถคงอัตรากำไรที่เราตั้งเป้าเอาไว้ได้ บริษัทของเราเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ซึ่งเรื่องของงบกำไรขาดทุนถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องจับตาอยู่เสมอ และถ้าหากเครื่องมือที่เราใช้ไม่สามารถตอบโจทย์ด้านดังกล่าว เราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนไปใช้ตัวช่วยอื่นแทน”
คุณ Marcos ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นในเรื่องการประหยัดเวลา เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ ตัวอย่างเช่นในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ทรัพยากรกำลังขาดแคลน แต่คุณ Marcos ยกตัวอย่างให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ จากทีมงานของคุณ Kannaphon ที่มีเพียง 3 ทีมในประเทศไทย แต่ดูแลโรงแรมทั้งสิ้นกว่า 80 แห่ง
“เราสามารถจัดการหลายโครงการได้จากที่เดียว โดยการใช้กำลังคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นี่นับเป็นข้อพิสูจน์ด้านประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มจากSiteMinder ได้เป็นอย่างดี เราสามารถลดต้นทุนและเพิ่มกำลังการขยายธุรกิจ เพื่อให้ต้นทุนรวมของโรงแรมเรานั้นต่ำที่สุด ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเราอย่างมากโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ทำให้เราต้องมีการปรับลดจำนวนพนักงานลง เทคโนโลยีนี้นี่ช่วยให้เราสามารถจัดการงานต่างๆ ที่เราไม่สามารถทำได้มาก่อน เรียกได้ว่าระบบการจัดการใหม่ของ SiteMinder นี้ เปิดตัวในเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาต่อไปข้างหน้าได้ แม้ในขณะที่ตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงไป”
นอกจากนั้น คุณ Marcos ยังตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและขีดความสามารถในการทำกำไรให้กับโรงแรม มักช่วยสร้างประโยชน์ได้มากกว่านวัตกรรมแบบก้าวกระโดดแต่ใช้เวลานานเกินไป
การทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานที่ช่วยสร้างผลลัพธ์ที่เหนือกว่า
Multi-Property ไม่เพียงช่วยเพิ่มกำไรทางธุรกิจ แต่ยังช่วยให้พนักงานของ ไมเนอร์สามารถทำงานประสานกันได้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น
โดยคุณ Kannaphon และ คุณ Marcos ตั้งเป้าที่จะเห็นการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายการตลาด ฝ่ายการจัดจำหน่ายห้องพัก และฝ่ายจัดการรายได้ ผ่านการใช้งานเทคโนโลยีนี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างผลประกอบการที่น่าประทับใจสำหรับเจ้าของโรงแรม โดยการทำงานที่มีการประสานระหว่างฝ่ายนี้ ส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้นจากกลยุทธ์การตั้งราคาที่มีประสิทธิภาพและการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นจากส่วนกลางที่ทำได้ได้อย่างต่อเนื่อง แม่นยำและทันท่วงที
เกี่ยวกับ SiteMinder
ในยุคที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงตัวเลือกได้หลากหลายช่องทาง SiteMinder ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจโรงแรมเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและการเติบโตของธุรกิจ SiteMinder ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มตัวกลางเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแก่ธุรกิจโรงแรม และเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีที่ทันสมัยแต่สามารถใช้งานง่ายเพื่อช่วยให้ธุรกิจโรงแรมสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในทุกที่และทุกการเดินทาง ซึ่งบทบาทอันสำคัญนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ SiteMinder ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมกว่า 35,000 แห่ง ใน 160 ประเทศทั่วโลก มีการสำรองห้องพักมากกว่าหนึ่งร้อยล้านครั้ง สร้างรายได้ให้ธุรกิจโรงแรมในแต่ละปีมากกว่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ www.siteminder.com