vivo เปิดตัว X60 Pro 5G ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดนิยามใหม่การถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน ด้วยกล้องที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ในราคา 24,999 บาท

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัว X60 Pro 5G สมาร์ตโฟนแฟล็กชิปรุ่นล่าสุดจากตระกูล X Series อย่างเป็นทางการ ภายใต้สโลแกน ‘Photography, Redefined’ ในงาน vivo X60 Pro 5G Exclusive Online Launch เปิดนิยามใหม่ของการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน และนับเป็นครั้งแรกที่ vivo ร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) ด้านการถ่ายภาพเพื่อส่งมอบประสบการณ์ระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคชาวไทย ผสานกับการออกแบบตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ vivo ช่วยให้ผู้ใช้งานเต็มอิ่มกับประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนแบบเหนือชั้นกว่าที่เคย เตรียมพร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ ราคา 24,999 บาท

ปฏิวัติวงการถ่ายภาพร่วมกับ ‘ZEISS’ พาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลก

ถือเป็นครั้งแรกที่ vivo ร่วมมือกับแบรนด์ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับตำนาน ในการพัฒนาวิศวกรรมด้านการถ่ายภาพ โดยสมาร์ตโฟน X60 Pro 5G รวมเอานวัตกรรมสุดล้ำจาก vivo ที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นหลัก ผสานกับความสามารถของ ZEISS ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพด้วยมือถือ จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นการรวมเอา เลนส์แบบออปติคัล (optical lenses) เซนเซอร์ อัลกอริธึมประมวลผลภาพ และฟีเจอร์การถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานเต็มที่ไปกับเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพในสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว

Spark Ni รองประธานอาวุโสและผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ vivo กล่าวว่า “vivo รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุด โดยได้ดึงเอาความสามารถของแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์ระดับตำนานกว่า 175 ปี อย่าง ZEISS มาสู่มือผู้บริโภค และแน่นอนว่าสมาร์ตโฟนได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน เป็นตัวช่วยบันทึกช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิต ทำให้การถ่ายภาพบนมือถือกลายเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์การใช้งาน ซึ่งเราร่วมมือกับ ZEISS เพื่อส่งมอบความคมชัด และคุณภาพของภาพที่เหนือชั้นมาอยู่ในสมาร์ตโฟนของ vivo”

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 เลนส์ ทั้ง เลนส์หลักความละเอียด 48MP เลนส์มุมกว้างความละเอียด 13MP และเลนส์ถ่ายภาพบุคคล 13MP รวมทั้ง กล้องหน้าความละเอียด 32MP โดยตำแหน่งบริเวณโมดูลของเลนส์หลักจะมีโลโก้ของ ZEISS และ ZEISS Vario-Tessar[1] จัดวางไว้อย่างสวยงาม เสริมภาพลักษณ์ความเป็นสมาร์ตโฟนสำหรับถ่ายภาพระดับมืออาชีพ และถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายบุคคลแบบมือโปรกับฟีเจอร์ ZEISS Biotar Portrait Style ช่วยสร้างภาพ Bokeh ที่สวยงาม ทำให้จุดศูนย์รวมของการถ่ายภาพบุคคลนั้นคมชัดและสมจริงมากขึ้น

ส่งมอบฟีเจอร์กล้องคุณภาพที่เหนือกว่าสู่มือผู้บริโภค

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เหนือชั้น ทั้ง Pixel Shift Ultra HD Imaging ทำให้ภาพคมชัดกว่าที่เคยกับระบบถ่ายภาพซ้อน 8 ชั้น เก็บครบทุกรายละเอียด ชัดเจนในทุกพิกเซลอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งภาพสถาปัตยกรรม ทิวทัศน์ หรือภาพอื่น ๆ พร้อมกับระบบกันสั่นที่อัปเกรดไปอีกขั้นกับ Gimbal Stabilization 2.0 ระบบกันภาพสั่นไหวแบบสี่แกน และกล้องหลักเซ็นเซอร์ IMX598 รูรับแสง f/1.48 ช่วยล็อกตำแหน่งจุดโฟกัส หักล้างความสั่นไหว ทำให้ภาพถ่ายไม่สูญเสียรายละเอียด รวมทั้ง VIS 5-Axis Video Stabilization ป้องกันการถ่ายวิดีโอที่สั่นไหวเต็มรูปแบบจากทุกมุม ช่วยให้ถ่ายวิดีโอกีฬาเอ็กซ์ตรีมสนุกยิ่งขึ้น

ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีถ่ายภาพตอนกลางคืน Extreme Night Vision 2.0 พร้อมเก็บทุกความทรงจำใน ยามราตรีให้คมชัดด้วยนวัตกรรมอัลกอริธึม AI ช่วยลดนอยส์ (Noise) ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับสภาพแวดล้อมที่แสงน้อยมาก เพื่อให้สามารถถ่ายภาพค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมแม้ในคืนที่มืดสนิท รวมทั้ง Superb Night Camera 2.0 ที่จะช่วยให้สร้างเฉดสีกลางคืนที่หลากหลายได้ ในการแตะเพียงครั้งเดียว และเลนส์มุมกว้างมาพร้อมกับ vivo Super Night ช่วยให้ถ่ายภาพกลางคืนได้กว้างมากขึ้น ถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนโดยใช้เอฟเฟกต์ HDR ในโหมดพาโนรามา สามารถถ่ายภาพในสภาพแสง backlight และ low-light ได้อย่างยอดเยี่ยม และนอกจากนี้ยังมีเลนส์ Portrait ระดับมืออาชีพด้วยทางยาวโฟกัส 50 มม. อีกด้วย

vivo X60 Pro 5G อัดแน่นไปด้วยสุดยอดฟีเจอร์การถ่ายภาพและวิดีโอ ทั้งฟีเจอร์ Cinematic Master มอบประสบการณ์การบันทึกโมเมนต์ที่แสนพิเศษให้เป็นดั่งภาพยนตร์ระดับโลก ด้วยภาพการบันทึกวิดีโอในอัตราส่วนขนาดกว้าง 2.35: 1 พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงแบบ 3-Mic Spatial Audio Recording การซูมเสียงที่ชาญฉลาดและการติดตามทิศทางเสียงด้วยการตั้งค่าไมโครโฟนสามตัวใน X60 Pro 5G และในขณะเดียวกันยังมีซอฟต์แวร์ช่วยลดเสียงรบกวน เสียงลม ระหว่างการบันทึกวิดีโอ เพื่อให้ได้เสียงของผู้พูดชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเป็นผู้กำกับมืออาชีพที่ไม่พลาดกับทุกเหตุการณ์ได้ง่าย ๆ ผ่านฟีเจอร์ที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลายเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น HDR Super Night Portrait โหมดถ่ายบุคคลตอนกลางคืน Ultra-Wide Night Mode โหมดถ่ายมุมกว้างพิเศษตอนกลางคืน Super Pano โหมดซูเปอร์พาโนรามา เก็บความทรงจำในมุมกว้างยิ่งกว่าเดิม Pro Sports Mode ที่ใช้อัลกอริธึมการตรวจจับการเคลื่อนไหวทำงานร่วมกับ Object Autofocus และ EFB Autofocus เพื่อให้ถ่ายภาพการเคลื่อนไหวได้อย่างไร้ที่ติ และ Kids Snapshot[2] ถ่ายภาพเด็ก ๆ บันทึกความสวยงามและคงความไร้เดียงสาไว้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้ง Multi-Style Portrait ถ่ายบุคคลหลากหลายสไตล์ตามใจผู้ใช้งาน และโหมด Long-Exposure Mode ช่วยให้การถ่ายภาพเปิดรับแสงนานยิ่งขึ้นในฉากต่าง ๆ เช่น การพ่นหมอกควันหรือดอกไม้ไฟ สามารถถ่ายทอดงานศิลปะให้เป็นจริงได้ ด้วยการถ่ายภาพระดับมืออาชีพของการเคลื่อนไหวและเส้นแสง

โดยภายในงานเปิดตัว ยังได้รับเกียรติจาก พจน์ – พรพจน์ กาญจนหัตถกิจ ช่างภาพมือโปรแนวหน้าของเมืองไทยจาก Sixtysix Visual มาร่วมแชร์ประสบการณ์และความประทับใจกับที่สุดของเทคโนโลยีที่ vivo ร่วมพัฒนากับ ZEISS บนสมาร์ตโฟน X60 Pro 5G ว่า “รู้สึกว่าเป็นการ Co-Engineered ที่ยอดเยี่ยมมาก เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเลนส์ ZEISS นั้น เป็นเลนส์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมอันดับต้น ๆ ของโลกจากเยอรมัน ยิ่งมาอยู่ในโทรศัพท์มือถือที่มีคุณภาพมากขนาดนี้ ยิ่งช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพได้เหมือนระดับมืออาชีพเลย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เป็นอีกช่วงเวลาที่ให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างจากช่วงเวลาอื่น ๆ แล้วก็มีเสน่ห์มาก แต่อาจจะถ่ายภาพได้ลำบากเพราะความมืด แต่บน vivo X60 Pro 5เขาจะมี Night Mode ที่ช่วยให้การถ่ายภาพตอนกลางคืนให้สวยยิ่งขึ้น ซึ่งผมก็ได้ลองถ่ายภาพวิวในโหมด Long Exposure และ Panorama Night Mode ด้วย ความรู้สึกเหมือนถ่ายด้วยกล้องโปร ประทับใจมากครับ”

เต็มที่กับขุมพลังและประสิทธิภาพระดับแฟล็กชิป

vivo X60 Pro 5G อัดแน่นด้วยพลังงาน การเชื่อมต่อ และความรวดเร็ว สามารถตอบสนองผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม กับขุมพลังโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 870 พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G แบบไม่สะดุด ประสานกับการทำงานที่เหนือขั้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ด้วยประสิทธิภาพ CPU และ GPU ที่เพิ่มขึ้น 10%[3] ให้การใช้งานสมาร์ตโฟนลื่นไหลในทุก ๆ วัน และเต็มอิ่มกับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ X60 Pro 5G ยังมาพร้อมกับ UFS 3.1 สามารถรับชมภาพยนตร์ วิดีโออย่างไม่มีสะดุด รวมทั้งอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูงพิเศษได้อย่างรวดเร็ว

เต็มที่ไปกับความลื่นไหลขั้นสุดกับหน้าจอใหม่ที่อัตรารีเฟรชเรตเพิ่มขึ้นเป็น 120Hz ให้ภาพมีความละเอียดและคมชัดมากขึ้น พร้อมอัตราการตอบสนองอัปเกรดเป็น 240Hz ให้หน้าจอสัมผัสตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม มอบประสบการณ์ในการเล่นเกมและรับชมคอนเทนต์ที่ดียิ่งขึ้น บนหน้าจอกว้างสุดขอบความละเอียดแบบ AMOLED พร้อมการันตีความคมชัดด้วยการรับรอง HDR10+ มอบคุณภาพวิดีโอที่น่าทึ่ง และยังได้รับการรับรอง SGS Eye Care Display และ SGS Seamless เปิดโลกทัศน์ใหม่ เพลิดเพลินกับการใช้หน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนและสบายตา นอกจากนี้ยังได้การรับรองคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ให้เต็มอิ่มไปกับภาพและเสียงด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับ แบตเตอรี่ขนาด 4200mAh รองรับ FlashCharge 33W ให้ผู้ใช้งานได้เต็มที่กับกิจกรรมยาวนานตลอดทั้งวัน พร้อม RAM 12GB ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Extended RAM เพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น (12GB + 3GB RAM) สามารถใช้แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ ROM 256GB[4] เก็บข้อมูลได้อย่างจุใจ ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐานของ Android 11[5]

หรูหราสะกดใจ ล้ำสมัยไปกับดีไซน์บางเฉียบ

นอกจากความสามารถที่ทรงพลังและล้ำสมัยแล้ว vivo X60 Pro 5G ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเบาสะดวกต่อการพกพา กับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 6.56 นิ้ว[6] FHD+ 3D Flexible ความละเอียด 2376×1080 พิกเซล แบบ Ultra O Screen ทำให้การใช้งานเด่นเต็มตา เห็นคมชัดทุกรายละเอียด พร้อมด้วยกล้องหน้าแบบ Punch Hole ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 3.96 มม. บนกรอบหน้าจอบางพิเศษแบบ Ultra-narrow Bezels สานต่อดีไซน์เรียบหรูจาก vivo X50 Series ด้วยมุมโค้งมนที่เรียวยาว บางเบาตอบรับฝ่ามือ สะกดทุกสายตายิ่งขึ้นจากการตกแต่งด้วย Choker ด้านบน มอบความรู้สึกและสัมผัสที่เต็มไปด้วยความงดงามที่ประณีตและซับซ้อนในรายละเอียด

กล้องหลังใน vivo X60 Pro 5G จัดวางกล้องแบบมีมิติด้วยดีไซน์แบบ New Dual-Tone Step ไล่สีสันสองโทนสีที่สวยงามลงตัว องค์ประกอบของกล้องด้านหลังมีการจัดเรียงในระนาบเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความเรียบง่ายและสง่างามน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน พร้อมรวบรวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพชั้นยอดในระดับ professional-grade ผ่านการร่วมมือพัฒนาที่แข็งแกร่งกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์คุณภาพสูงระดับโลกจากเยอรมัน

ด้วยความบางเพียงแค่ 7.69 มม. และน้ำหนักเพียง 179 กรัม[7] ตัวเครื่องมีมุมโค้ง 3D หรูหรา กระชับฝ่ามือ จึงให้ความรู้สึกที่บางเบา พกพาง่าย พร้อมเติมเสน่ห์และความสดใสในทุกช่วงเวลาของชีวิตด้วย 2 สีใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ฤดูร้อน ทั้งสี Shimmer Blue[8] ผสมผสานโทนสีระหว่างสีฟ้าและสีม่วงอ่อนอย่างลงตัว เสมือนท้องฟ้าที่ฟุ้งไปด้วยหมอกบาง ๆ ยามรุ่งอรุณ เปล่งประกายความหวังอันเป็นนิรันดร์จากแสงแรกของพระอาทิตย์ และ สี Midnight Black สีสันทรงพลังที่จะพาผู้ใช้งานล่องลอยไปสู่ท้องฟ้ายามราตรีในหน้าร้อน สัมผัสกับดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานของชีวิตโอบกอดไว้

ซึ่งภายในงานเปิดตัวยังได้รับเกียรติจาก IT Media ชื่อดังของเมืองไทย หนุ่ย – พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ มาร่วม การันตีความล้ำหน้าของ vivo X60 Pro 5G บนเวทีงานเปิดตัวในครั้งนี้ว่า “สำหรับ Vivo X60 Pro 5G ในสเปก RAM 12GB ความจุ 256GB ที่มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS เป็นครั้งแรก ทั้งคุณสมบัติกล้องแบบจัดเต็ม และดีไซน์ที่สวยงามขนาดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนที่กำลังสนใจ หรือมองหามือถือสเปกดี ๆ ที่ไม่ควรพลาดเลยครับ”

สามารถเป็นเจ้าของ vivo X60 Pro 5G ก่อนใครได้แล้ววันนี้ที่ ราคา 24,999 บาท รับฟรีทันที VIP Card รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ปี 1 ครั้ง มูลค่า 8,200 บาท และหูฟัง vivo wireless sport lite มูลค่า 1,799 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ BaNANA, TG FONE, Jaymart, CSC, IT City,Kingkong, BKK,Maxling, Power Mall และช่อง vivo Official Online Store รวมถึง vivo Flagship Store บนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th

[1] โลโก้ ZEISS และ Vario-Tessar เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Carl Zeiss AG

[2] คุณลักษณะนี้ใช้งานโดยอัลกอริธึมเฉพาะ ข้อมูลใบหน้าของคุณจะไม่ถูกรวบรวม

[3] ข้อมูลการปรับปรุงประสิทธิภาพมาจากเอกสารส่งเสริมการขายอย่างเป็นทางการของ Qualcomm

[4] RAM/ROM ที่ใช้ได้จริงอาจน้อยกว่า เนื่องจากการจัดเก็บระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า

[5] Android เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC

[6] ขนาดหน้าจอวัดตามเส้นทแยงมุมจนสุดมุมฉาก 6.56 นิ้ว พื้นที่หน้าจอที่ปรากฏจริงอาจมีขนาดต่างกว่าเล็กน้อย

[7] ขนาดและน้ำหนักจริงอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากความแตกต่างในกระบวนการวิธีการวัดและวัสดุ

[8] X60 Pro 5G Shimmer Blue มีความบาง 7.69 มม. และหนัก 179 กรัม