ส่องแบรนด์ที่ ‘โรนัลโด้’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ สตาร์ลูกหนังที่ทำรายได้อันดับ 2 ของโลก

จากเหตุการณ์ล่าสุดในศึกฟุตบอลยูโร 2020 ที่ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ ได้ทำเอา ‘โค้ก’ (CoCa-Cola) สปอนเซอร์หลักของฟุตบอลยูโรต้องกุมขมับ เนื่องจากเจ้าตัวหยิบขวดโค้กออกจากหน้าตัวเองบนโต๊ะแถลงข่าวแล้วหยิบน้ำเปล่าแทน ซึ่งก็ได้ส่งผลให้หุ้นของ CoCa-Cola ตกไปถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 124,500 ล้านบาท) เลยทีเดียว ดังนั้นไปดูกันว่านอกจากอิมแพคที่โรนัลโด้สามารถสร้างในสนามแล้ว นอกสนามเจ้าตัวสามารถสร้างอิมแพคได้ขนาดไหนบ้าง

กว่าจะเป็น ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะชาวโปรตุกีส เกิดเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985 ปัจจุบันอายุ 36 ปี โรนัลโด้เริ่มต้นอาชีพจากเด็กโนเนมในลีกบ้านเกิดของอังดูรีญา ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับนาซียูนัลในปี 1997 จากนั้นก็ได้เซ็นสัญญากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะอกหักจากการดึงตัว โรนัลดินโญ่ มาร่วมทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนโชคชะตาพาให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้พบกับโรนัลโด้จนได้ย้ายมาเล่นกับทีม ก่อนจะถูกดึงตัวไปร่วมงานกับราชันชุดขาว เรอัล มาดริด และปัจจุบันยังคงค้าแข่งกับ ยูเวนตุส ในกัลโช่ เซเรีย อา

ด้วยฝีเท้าอันจัดจ้าน โรนัลโด้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยเขาได้รับรางวัลบาลงดอร์ 5 สมัย และ รางวัลรองเท้าทองคำยุโรปอีก 4 สมัย และเป็นผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำ 100 ประตูขึ้นไปในการเล่นให้กับ 3 สโมสร ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมจึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนยกย่องให้เป็นไอดอลในดวงใจ และไม่ว่าเขาจะทำอะไรมักจะมีผู้คนคอยเฝ้าติดตามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสนามหรือสินค้าอะไรก็ตามที่เจ้าตัวหยิบจับ

Cristiano Ronaldo ในศึกยูโร 2020 ภายใต้ทีมชาติโปรตุเกส ในวัย 36 ปี (Photo by Alex Pantling/Getty Images)

นักฟุตบอลรายได้สูงสุดอันดับ 2 ของโลก

ความเป็นสตาร์คนดังก็ไม่ได้สร้างอิมแพคแค่ในเกมการแข่งขัน แต่นอกสนามก็สามารถสร้างอิมแพคได้เช่นกัน อย่างใน Instagram ของเจ้าตัวนั้นก็มีผู้ติดตามกว่า 299 ล้านคน ในการโพสต์เพียงครั้งเดียวของเขาสามารถทำเงินได้ถึง 780,000 ปอนด์ หรือกว่า 34 ล้านบาท!

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะมีเหล่าสินค้ามากมายหลายชนิดรุมจีบเพื่อดึงตัวไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ และนั่นทำให้เขาได้รับรายได้จำนวนมหาศาล จนกลายเป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีรายได้ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,756 ล้านบาท เป็นรองแค่ ลิโอเนล เมสซี ที่มีรายได้ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,069 ล้านบาท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์นิตยสารด้านการเงินชื่อดัง

หากอ้างอิงจากตัวเลขในปี 2018 พบว่าเฉพาะรายได้จากค่าพรีเซ็นเตอร์ โรนัลโด้สามารถทำได้ถึงปีละ 44 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,320 ล้านบาท ขณะที่ค่าเหนื่อยอยู่ที่ 31 ล้านยูโรต่อปี หรือประมาณ 1,140 ล้านบาท ยังไม่รวมธุรกิจส่วนตัวอื่น ๆ อีก ได้แก่

Pestana CR7 ธุรกิจโรงแรม, CR7 Crunch Fitness ธุรกิจฟิตเนสพิพิธภัณฑ์ CR7 Museum, แบรนด์แฟชั่น CR7, แบรนด์ชุดชั้นในและถุงเท้า CR7, แบรนด์รองเท้า CR7 footwear, แบรนด์แฟชั่น Cristiano Ronaldo & Sacoor Brothers, กางเกงยีนส์ CR7 Denim, แบรนด์น้ำหอม Cristiano Ronaldo Legacy และแม้แต่ CR7Selfie แอปถ่ายเซลฟี่

อยู่ในทุกสินค้าตั้งเเต่อุปกรณ์กีฬายันอีคอมเมิร์ซ

มาที่ฝั่งการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของโรนัลโด้ ต้องบอกว่าสามารถอยู่ได้ในทุกสินค้า ชื่อเสียงของโรนัลโด้สามารถใช้กับอะไรก็ได้ โดยแบรนด์แรกที่ต้องพูดก็คือ ‘Nike’ (ไนกี้) บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลกที่เซ็นสัญญากับโรนัลโด้ ตลอดชีวิต! ซึ่งมีเพียงนักกีฬา 3 คนในโลกที่ได้รับเกียรตินี้ และเขาเป็นนักฟุตบอลคนแรกด้วย

การมีสินค้าเกี่ยวกับกีฬามาจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่ผ่านมาโรนัลโด้ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าอีกมากโดยที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของกีฬาเลย ไม่ว่าจะเป็น 

  • คาสตรอล (Castrol) บริษัทน้ำมันเครื่องยักษ์ใหญ่
  • อียิปต์เชียน สตีล (Egyptian Steel) เพื่อโปรโมตอุตสาหกรรมเหล็ก
  • Clear (แชมพูเคลียร์) โดยในปี 2014 โรนัลโด้เป็นได้ร่วมงานกับบริษัทแชมพูเคลียร์ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยทำหน้าที่โฆษณาเกี่ยวกับเรื่องการขจัดรังแค
  • ทรนนิ่ง เกียร์ ซิกซ์แพ็ด (Training Gear Sixpad) อุปกรณ์แผ่นเครื่องนวดกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง
  • และด้วยหุ่นที่เฟิร์มอยู่ตลอด Emporio Armani ก็เคยคว้าโรนัลโด้เป็นพรีเซ็นเตอร์แทน เดวิด เบ็คแฮม ในปี 2010
  • เพราะนักฟุตบอลต้องเดินทางไปแข่งขันในต่างที่ต่างถิ่นเสมอ ดังนั้น อเมริกัน ทัวริสเตอร์ (American Tourister) แบรนด์กระเป๋าเดินทางชื่อดังเลยคว้าโรนัลโด้มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์พร้อมค่าเหนื่อยประมาณประมาณ 312,000 ปอนด์ (ราว 14 ล้านบาท)
  •  อีเอ สปอร์ตส์ (EA Sports) สตูดิโอผลิตเกมชื่อดังเจ้าของเกม ‘ฟีฟ่า’ (Fifa) หลังจากที่เคยได้ ลิโอเนล เมสซี่ ขึ้นปกเกมเป็นเวลา 4 ปี มาในปี 2018 โรนัลโด้ก็ได้รับเสียงโหวตจากแฟน ๆ ให้ได้ขึ้นปก ฟีฟ่า 18 และ 19
  • แพนเซอร์ กลาสส์ (PanzeerGlass) บริษัทผลิตฟิล์มกระจกกันรอยแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก เคยได้โรนัลโด้เป็นพาร์ตเนอร์พร้อมออกกระจกกันรอยและเคสรุ่น CR7 สัญลักษณ์ประจำตัวของโรนัลโด้
  • TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสก็เป็นอีกแบรนด์ที่ได้โรนัลโด้เป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมออกรุ่นพิเศษ ‘CR7’ ด้วย

และที่คนไทยน่าจะคุ้นกันสุด ๆ ก็คือ Shopee (ช้อปปี้) อีคอมเมิร์ซเจ้าดัง ซึ่งหลายคนออกแนวช็อกไปตามกันเมื่อเห็นโรนัลโด้เต้นเพลงช้อปปี้ ๆ ๆ ๆ แม้จะดูขัดกับภาพลักษณ์ไปหน่อย แต่พลังของโรนัลโด้ก็ช่วยให้ยอดขายช้อปปี้โตขึ้น 3 เท่าในแคมเปญ 9.9 เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์ล่าสุดที่โรนัลโด้เลือกจะหยิบขวดโค้กออกจากหน้าตัวเองบนโต๊ะแถลงข่าวแล้วหยิบน้ำเปล่าแทนเพื่อแสดงถึงความใส่ใจสุขภาพ แต่หากย้อนการเป็นพรีเซ็นเตอร์ในด้านอาหารและเครื่องดื่มก็นับว่ามีความน่าสนใจ อย่างปี 2013 โรนัลโด้มี เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เป็นผู้สนับสนุนด้านโภชนาการ ส่วนในปี 2014 โรนัลโด้ก็เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไก่ทอด KFC ซึ่งดูขัดกับภาพลักษณ์นักกีฬาสายเฮลตี้อยู่เหมือนกัน

ยังไม่แขวนสตั๊ด ยังมีโอกาสรับทรัพย์อีกเพียบ

โดยปกติแล้วนักฟุตบอลอาชีพจะมีช่วงเวลาในการ แขวนสตั๊ด หรือ ยุติเส้นทางค้าแข้ง ในช่วงอายุประมาณ 34-36 ปี แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกแขวนสตั๊ดในช่วงอายุดังกล่าว บางคนก็เลิกเล่นก่อน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงวัยที่เลยเลข 3 ไม่ใช่ช่วงอายุที่พีคสุดสำหรับการเล่นฟุตบอลแล้ว

แต่สำหรับโรนัลโด้ในวัย 36 ปี กลับยังฟิตพอ ๆ กับคนอายุ 20 ปี การจะรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งเคล็ดลับสำคัญของ CR7 ที่ทำให้อาชีพนักฟุตบอลยืนยาว และรักษามาตรฐานการเล่นไม่ให้ตกลงไปคือ การดูแลสภาพร่างกายนอกสนามแข่งคือ การกิน, การนอน, การผ่อนคลาย และการว่ายน้ำ ที่ทำให้สุขภาพกายแข็งแรง และสุขภาพใจแข็งแกร่ง

หากโรนัลโด้ยังคงค้าแข้งต่อ แฟน ๆ ก็คงจะได้เห็นอีกหลายแบรนด์ที่พร้อมจะทุ่มเงินดึงโรนัลโด้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แน่นอน แต่อาจจะเดาทางยากสักหน่อยว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการประเภทไหน เพราะหากย้อนดูที่ผ่านมาถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟน ๆ อยู่เหมือนกัน หรือหากแขวนสตั๊ดไปแล้ว อย่าลืมว่าโรนัลโด้มีธุรกิจส่วนตัวอีกเพียบ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าชีวิตหลังแขวนสตั๊ดโรนัลโด้จะผุดแบรนด์ใหม่ ๆ ออกมาอีกก็เป็นได้