ผลสำรวจเผยนักท่องเที่ยวไทยพร้อมกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง ส่งสัญญาณบวกการท่องเที่ยวฟื้นตัว

Asian family packing bag/luggage and planning to travel on summer vacation

ยุโรป แอสซิสแทนซ์ (Europ Assistance) เผยผลสำรวจ Barometer ประจำปีครั้งที่ 20 จัดทำโดย IPOS เพื่อสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวจำนวน 14,000 ราย จาก 14 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเผยถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปจากการได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโควิด 19 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1,000 คนได้มีส่วนในการสำรวจครั้งนี้ โดยพบว่า 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในเร็วๆนี้ และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยถึง 81% วางแผนที่จะซื้อประกันคุ้มครองการเดินทาง

44% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนท่องเที่ยวในวันหยุดช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2564 นี้ แต่จาก 64% ในจำนวนดังกล่าวยังไม่ตัดสินใจว่าจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวจำนวน 47% ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรป (อิตาลี 61% สเปน และฝรั่งเศส 54%) และชาวจีน 61% เลือกวางแผนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของตน นอกจากการวางแผนท่องเที่ยวในปีนี้แล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการที่จะเดินทางไปกับคนสนิท โดยเลือกที่จะท่องเที่ยวกับครอบครัว คนรัก และลูกหลาน หลังจากการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเวลาหลายเดือน มาตรการด้านความปลอดภัยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติและห่างไกลผู้คน โดย เลือกเดินทางไปทะเล 57% ภูเขา 40%  และอีก 34% วางแผนเดินทางไปต่างจังหวัดมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่คนพลุกพล่านอย่างในตัวเมือง อีกเทรนด์ที่น่าสนใจ คือ นักท่องเที่ยวที่ตอบแบบสอบถามกว่า 81% วางแผนซื้อประกันการเดินทางในอนาคตซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 11% จากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 70%

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวอย่างมากโดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวชาวไทยและจีน โดยถึงแม้นักท่องเที่ยวรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 76% ยังคงรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของครอบครับและเพื่อนๆ รองลงมาคือ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีจำนวนสูงถึง 73% โดยความกังวลนี้ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนเพียงเล็กน้อยที่ได้ทำการจองทริปท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งจากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยทั้งหมด มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้ทำการจองทริปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามความกังวลนี้จะผ่านไป เพราะนักท่องเที่ยวยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้อย่างอิสระในสภาวะปกติอีกครั้งภายในอีกสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ผลสำรวจยังเผยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทย 33% ที่รู้สึกปลอดภัยที่จะกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงปลายปี 2565 และอีก 27% ที่มองไปถึงปลายปี 2566

ข้อมูลสำคัญจากสำรวจ Barometer ประจำปีครั้งที่ 20 ในช่วงพักฤดูร้อนเดือนมิถุนายน – กันยายน

การวางแผนท่องเที่ยวในปี 2564: วิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลให้สถานการณ์ต่างๆมีความไม่แน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และยังคงส่งผลต่อการวางแผนเดินทางของนักท่องเที่ยว รวมไปถึงนักท่องเที่ยวยังเพิ่มความใส่ใจด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ในการท่องเที่ยวมากขึ้น

  • 44% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้วางแผนเดินทางท่องเที่ยว ซึ่ง 55% จากจำนวนดังกล่าวได้ทำการจองทริปแล้ว เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่จองทริปท่องเที่ยวแล้ว 47% ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปและจีนวางแผนท่องเที่ยวในประเทศเป็นจุดหมายปลายทางแรก โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 37% และชาวยุโรป 35% ที่ได้ทำการจองทริปท่องเที่ยวบางส่วนแล้ว
  • นักท่องเที่ยวไทยเลือกให้ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์เป็นประเทศที่อยากไปมากที่สุด และนักท่องเที่ยวจีนเลือกไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่อยากไปมากที่สุดหากเลือกเดินทางไปต่างประเทศ
  • นักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนใช้จ่ายท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยราว 53,000 บาท โดย 40% ระบุว่าจะเลือกเดินทางพักผ่อนยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นภูเขา
  • ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากเผยว่าต้องการเดินทางท่องเที่ยวกับคนสนิทและครอบครัว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 48% ชาวยุโรป 56% และชาวอเมริกัน 47% วางแผนที่จะใช้เวลาพักผ่อนร่วมกับครอบครัวในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้
  • 48% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยรู้สึกอุ่นใจด้วยการเลือกเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว และอีก 42% เลือกเดินทางโดยเครื่องบิน
  • ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกส่วนมากเลี่ยงที่จะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนหนาแน่น (นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย 87%  ชาวยุโรป 72% ชาวอเมริกัน 69%) และเลือกที่จะปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆเพื่อสามารถท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การได้รับวัคซีน และการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 86% ตัดสินใจแน่นอนและมีแนวโน้มที่จะฉีดวีคซีนต้านโควิด-19 เพื่อที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง
  • ผลสำรวจเผยว่า นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะท่องเที่ยวโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดย 74% ของนักท่องเที่ยวขาวไทยหันมาใช้ขวดน้ำพกพาแทนขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วทิ้ง และอีก 22% ตั้งใจที่จะเปลี่ยนมาใช้ขวดน้ำพกพาเช่นกัน นอกจากนี้ 97% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งใจอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นและช่วยเหลือเศรษฐกิจของคนในพื้นที่มากขึ้น ด้วยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (95%) และพักที่โรงแรมของคนในพื้นที่ (96%)

ความกังวลและการลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด: สถานการณ์การแพร่ระบาดกำลังเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และเราได้เห็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง แม้ว่าจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะออกเดินทางแต่นักท่องเที่ยวก็ยังมีความกังวลต่อสถานกาณ์โควิด-19 อยู่บ้าง สังเกตได้จากนักท่องเที่ยวยังคงลังเลและระมัดระวังตัวในการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เสี่ยงเกินไป

  • จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งยังคงกังวลกับปัจจัยด้านสุขภาพของคนในครอบครัวและเพื่อน โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 76% ชาวจีน 73% และนักท่องเที่ยวชาวยุโรป 71%
  • นักท่องเที่ยวยังคงกังวลถึงโอกาสที่จะไม่สามารถกลับไปท่องเที่ยวได้เหมือนเมื่อก่อนหน้าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และกังวลว่าจะไม่สามารถทำกิจกรรมเหมือนที่เคยทำได้ (นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย 83% และชาวยุโรป 65% ค่อนข้างกังวลและกังวลมาก) อาทิ การนั่งในร้านอาหาร บาร์ (ชาวเอเชีย 74% ชาวยุโรป 64%) หรือกังวลหากมีการแพร่ระบาดอีกระลอกในระหว่างทริปท่องเที่ยว (ชาวเอเชีย 87% และชาวยุโรป 64%)

การกักตัวยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป (35%) และชาวอเมริกัน (46%) โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ต้องการที่จะกักตัวก่อนหรือหลังทริปท่องเที่ยว ในขณะที่ นักท่องเที่ยวชาวไทย 83% และชาวจีน 75% ยินดีปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวนี้

การป้องกันการเดินทาง: แม้ผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาท่องเที่ยวในสภาวะปกติได้อีกครั้งภายในสองปีข้างหน้า แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอนในปัจจุบัน ทำให้นักท่องเที่ยวคำนึงถึงการมีประกันการเดินทางมากขึ้น

  • 81% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยเผยว่า พวกเขาวางแผนที่จะทำประกันการเดินทางในอนาคต ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 11% จากปีที่แล้ว และพวกเขายังคงยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการการกักตัวก่อนและหลังการเดินทาง
  • 12% ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปวางแผนว่าจะทำประกันการเดินทางเพิ่มอย่างแน่นอนในอนาคต
  • 10% ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะหันมาเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้มากขึ้น หรือลดความถี่ในการเดินทางลง

มร. ฟิลลิป เดแมนกีท (Philippe Demangeat) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ ยุโรป แอสซิสแทนซ์ กล่าวว่า “วิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อโลกอย่างสาหัส และมีผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน ผลสำรวจ Holiday Barometer ประจำปีที่เราได้ร่วมจัดทำกับบริษัทวิจัยระดับโลกอย่าง IPOS จะช่วยให้เราเห็นภาพผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นต่อรูปแบบการท่องเที่ยวว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สำหรับในวันหยุดที่จะมาถึงนี้ เราเห็นว่านักท่องเที่ยวมีทั้งความรู้สึกตื่นเต้นและความกังวลผสมผสานกัน เนื่องจากพวกเขาพร้อมและต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งแต่ก็ยังคงกังวลกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เพื่อช่วยให้เรามองตามความเป็นจริงและมองในแง่บวก ผลสำรวจเผยให้เราเห็นว่า เราจะสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้ปกติอีกครั้งภายในสองปีข้างหน้า นอกจากนี้ผลสำรวจของนักท่องเที่ยวชาวไทยยังเผยถึงความต้องการความคุ้มครองจากประกันเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงบริการเพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ การตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง การให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับประเทศปลายทาง ความสามารถในการทราบข้อมูลเคสผู้ป่วยโควิดของสถานที่ที่กำลังท่องเที่ยวในขณะนั้นด้วยตำแหน่งพิกัดทางภูมิศาสตร์ การปรึกษาแพทย์ผ่านทางออนไลน์ ความสามารถในการเข้ารับตรวจหาเชื้อโควิดที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ โดยที่ ยุโรป แอสซิสแทนซ์ เราพร้อมให้การดูแลและคำแนะนำตลอด 24 ชม. เพื่อสร้างความสบายใจให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอนในปัจจุบัน”

วิธีการสำรวจ

การสำรวจออนไลน์จัดทำขึ้นโดย Ipsos ตามข้อกำหนดของ ยุโรป แอสซิสแทนซ์ สำรวจนักท่องเที่ยว 14,000 คน (ผู้ทำแบบสำรวจ 1,000 คน ต่อ ประเทศ) ในยุโรป (ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน เบลเยียม ออสเตรีย สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และโปรตุเกส) เอเชีย (จีนและไทย) และ อเมริกา จุดมุ่งหมายของการสำรวจ ซึ่งเผยแพร่เป็นปีที่ 20 คือการเสนอผลสำรวจข้อมูลวางแผนวันหยุดประจำปีของประชาชนในประเทศที่ได้ทำการสำรวจ และเพื่อประเมินว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงการเดินทางของนักท่องเที่ยวอย่างไร

เกี่ยวกับยุโรป แอสซิสแทนซ์ กรุ๊ป

ยุโรป แอสซิสแทนซ์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2506 เป็นผู้ริเริ่มบริการด้านความช่วยเหลือ โดยให้บริการลูกค้าในกว่า 200 ประเทศ ด้วยเครือข่ายผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจำนวน 750,000 แห่ง และศูนย์บริการอีก 41 แห่ง ภารกิจของเราคือการช่วยให้ผู้คนหรือหน่วยงานได้คลายความกังวลใจและเกิดความสบายใจในทุกที่ทุกเวลา เรานำเสนอความช่วยเหลือที่หลากหลาย ทั้งทางการท่องเที่ยว ประกันภัย รวมถึงบริการความช่วยเหลือส่วนบุคคลในด้านต่างๆ เช่น การคุ้มครองผู้สูงอายุ, การคุ้มครองอัตลักษณ์ทางดิจิทัล (protection of digital identity ) แพทย์ทางไกล และบริการ เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ด้วยจำนวนพนักงานจำนวนมากถึง 8,000 คน วิสัยทัศน์ของเรา คือการเป็นบริษัทผู้ให้การดูแลที่เชื่อถือได้ที่สุดในโลก

ยุโรป แอสซิสแทนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของ เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชั้นนำของโลก

europ-assistance.com