โรบินสันไลฟ์สไตล์ รุกแผนช่วยเหลือคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจ กู้วิกฤตโควิด – 19 เปิด 3 กลยุทธ์สำคัญ เยียวยาแบบครอบคลุมแก่คู่ค้าราว 3,000 ร้านค้า ใน 24 สาขาทั่วประเทศ

ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าช่วยเหลือเยียวยาคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจแบบครอบคลุมทั้งในส่วนการทำการตลาด และสภาพคล่องทางธุรกิจ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักที่สำคัญ ‘Omni-Channel Mall – สินเชื่อเพิ่มสภาพคล่อง – ดูแลค่าเช่าตามความเหมาะสม’ เพื่อกู้วิกฤตโควิด-19 ให้คู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจราว 3,000 ร้านค้าใน 24 สาขาทั่วประเทศ ได้ก้าวผ่านสถานการณ์นี้อย่างมีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกันในอนาคต

นายจักรภพ ปิยะรัตน์ HEAD OF PROPERTY MANAGEMENT ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความสำเร็จของธุรกิจโรบินสันไลฟ์สไตล์ ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งมาจากการได้รับการสนับสนุนจากคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันเรามีคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจประเภท Food และ Non-Food ใน 24 สาขาทั่วประเทศ รวมกันราว 3,000 ร้านค้า โดยในช่วงการเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน หลายคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบถึงธุรกิจโรบินสันไลฟ์สไตล์อย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีการวางแผนและเปิดตัว 3 กลยุทธ์สำคัญ ในการเดินหน้าช่วยเหลือเยียวยาคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจแบบครอบคลุมทั้งในส่วนการทำการตลาด และสภาพคล่องทางธุรกิจ เพื่อจับมือก้าวผ่านวิกฤตนี้อย่างมีทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย…

Omni-Channel Mall เพิ่มช่องทางและโอกาสในการขายสินค้าและบริการแก่คู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจบนแพลตฟอร์มออมนิชาแนล เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้ายุคนิวนอร์มอล กับ 2 บริการการ ช้อปปิ้ง ได้แก่

– Robinson Lifestyle Chat & Shop บริการช้อปผ่านแชท ในคอนเซ็ปต์ ‘ช้อปปลอดภัย อยู่ที่ไหนก็ช้อปกับร้านค้าแบรนด์ดังในศูนย์การค้าฯ ได้’ โดยนำร่องใน 3 สาขา ง่ายๆ เพียง Add Line Friend โรบินสันไลฟ์สไตล์ 3 สาขา ได้แก่ @RBSLifestyleLK สำหรับสาขาลาดกระบัง, @RBSLifestyleSA สำหรับสาขาสมุทรปราการ และ @RBSLifestyleCS สำหรับสาขาฉะเชิงเทรา โดยจะมีผู้ช่วยช้อปส่วนตัวพาช้อปสินค้าจากร้านค้าชั้นนำ อาทิ อาณาจักรผลิตภัณฑ์ความงาม และสกินแคร์ อย่าง Oriental Princess, Beautrium ฯลฯ, สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟน และไอที ที่ครบวงจร อย่าง Banana, JIB, P.A.Phone, Oppo ฯลฯ หรือจัดเต็มกับแอคเซสซอรี และแว่นตา Top Charoen, KT Optic และอื่นๆ อีกมากมาย พิเศษ!! เมื่อใช้บริการ Chat & Shop เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 7-30 มิถุนายน 2564 เมื่อช้อป 4,000 บาทขึ้นไป รับฟรีบัตรกำนัลจากท็อปส์มูลค่า 200 บาท (จำกัด 50 สิทธิ์/สาขา) และเมื่อช้อป 2,000 บาท ขึ้นไป รับฟรีบัตรกำนัลจากท็อปส์มูลค่า 100 บาท (จำกัด 50 สิทธิ์/สาขา ) พร้อมโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย ซึ่งในอนาคตเราจะมีการขยายบริการดังกล่าวนี้ไปยังสาขาอื่นๆ ต่อไป

– Robinson Lifestyle Facebook Live ชวน กิน ช้อป เที่ยว New Normal โปรดีๆ ดีลโดนๆ ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของโรบินสันไลฟ์สไตล์ ประเดิมที่ 7 สาขา ได้แก่ บุรีรัมย์ ฉะเชิงเทรา ตรัง ชัยภูมิ แม่สอด จันทบุรี และราชบุรี สัปดาห์ละ 2 รอบ ด้วยการชวนกินอาหาร ขนม และเครื่องดื่มแบรนด์ดังแบบจัดเต็ม อาทิ Auntie Anne’s, Swensen’s, MK, Pizza Hut, KFC ฯลฯ และช้อปเพลินไปกับร้านค้าแบรนด์ดัง ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น สปอร์ต ร้านเครื่องสำอาง ร้านหนังสือ และอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ Super Sport, B2S, KT Optic, Tops Supermarket, Watson, Boots, Mini Plaza ฯลฯ พร้อมชวนเที่ยวในงานเทศกาลอาหาร และ Box Market

นอกจากนี้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ยังจัดแคมเปญเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์การนิยมซื้ออาหารผ่านแอปพลิเคชั่น ด้วยการร่วมมือกับ 2 พันธมิตรฟู้ดส์ แอปพลิเคชั่นดังอย่าง Food Panda และ Grab Food กับแคมเปญ ‘Robinson Lifestyle x Food Panda & Grab Food’ เสิร์ฟความอร่อยถึงที่ โรบินสันใจดี มอบส่วนลด 30 บาท ทุกออเดอร์การสั่งและส่งอาหาร เพียงกรอกโค้ดส่วนลด RBSLSC30 ที่ Grab Food (สำหรับทุกออเดอร์การจัดส่งอาหารของร้านอาหารภายในศูนย์การค้าฯ 16 สาขา) และ Food Panda (สำหรับทุกออเดอร์การสั่งอาหารภายในศูนย์การค้าฯ 24 สาขา) ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2564 อีกทั้งยังมีบริการโทรสั่ง รับความอร่อย, บริการสั่งอาหารกลับบ้าน, บริการ Delivery และบริการ Robinson Drive Thru อีกด้วย โดยบริการทั้งหมดลูกค้าสามารถชำระเงินผ่าน E-Wallet ที่สามารถชำระเงินสะดวก ปลอดภัย ไร้สัมผัส ทั้งนี้ เราวางแผนว่าจะมีการเปิดตัวช่องทางขายบนแพลตฟอร์ม ออมนิชาแนลในรูปแบบอื่นๆ อีกในอนาคต รวมทั้งมีการจัดแคมเปญการตลาด และโปรโมชั่น ร่วมกับคู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

มาตรการสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่คู่ค้า และผู้ประกอบการธุรกิจ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อเพื่อคู่ค้า โรบินสันไลฟ์สไตล์” โดยร่วมกับธนาคารกสิกรไทย สนับสนุนสินเชื่อเพื่อให้คู่ค้าและผู้ประกอบการธุรกิจราว 3,000 ราย ของโรบินสันไลฟ์สไตล์ ทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ของธนาคาร ให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ซึ่่งการช่วยเหลือมี 2 รูปแบบ ดังนี้

– สินเชื่อฟื้นฟู วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับลูกค้าเดิมของธนาคาร สามารถกู้ได้สูงสุด 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีกับธนาคาร และสำหรับลูกค้าใหม่ขอกู้ได้สูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี พักชำระเงินต้น นานสูงสุด 24 เดือน (ไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก) อัตราดอกเบี้ย 2% ใน 2 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ต่ำสุด 3.8% ต่อปี และฟรีค่าธรรมเนียมการจัดการให้กู้

– สินเชื่อไม่มีหลักประกัน สำหรับลูกค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟู หรือ มีสินเชื่อกับสถาบันการเงินอื่น ขอกู้ได้สูงสุด 5 ล้านบาทโดยบสย.ค้ำประกันเต็มวงเงิน ระยะเวลากู้สูงสุด 7ปี อัตราดอกเบี้ย ต่ำสุด MRR+3% และฟรีค่าธรรมเนียม บสย. นาน 2 ปี

การดูแลค่าเช่าของคู่ค้า และผู้ประกอบการธุรกิจ ตามสถานการณ์ และความเหมาะสม เช่น กรณีปิดศูนย์การค้าฯ เป็นการชั่วคราว หรือกรณีปิดตามคำสั่งของหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อช่วยพยุงธุรกิจที่ได้รับผลกระทบให้สามารถดำเนินอยู่ได้ และกลับมาฟิ้นตัวโดยเร็วที่สุด

“ผมมั่นใจว่า 3 กลยุทธ์หลักข้างต้น นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือและเยียวยาคู่ค้า และผู้ประกอบการธุรกิจแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของโรบินสันไลฟ์สไตล์ที่มีมาโดยตลอดในการไม่ทอดทิ้งธุรกิจพันธมิตร ยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ เราสัญญาว่าจะพยายามนำพาทุกธุรกิจพันธมิตรของเราให้ก้าวผ่านสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และพร้อมที่จะกลับมาเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุด” นายจักรภพ กล่าวทิ้งท้าย