สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อต้องเลือกใช้สมาร์ทโฟนในยุคที่แอปมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกวัน

สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามเมื่อต้องเลือกซื้อสมาร์ทโฟน คือ ชิ้นส่วนเล็กๆ ข้างในอย่าง “ชิปเซ็ต” ถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่สายเล่นเกมหนักๆ หรือสายไอทีจ๋าๆ ก็อาจจะไม่ได้พิจารณาสเปคของชิปเซ็ตเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นบทความนี้จะมาชวนคิดว่า ต่อให้ใช้งานสมาร์ทโฟนแบบเบาๆ ไปกับไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวัน อย่าง การท่องเว็บ เล่นโซเชียล ช้อปปิ้งออนไลน์ ก็จำเป็นที่จะต้องมีคู่หูเป็นสมาร์ทโฟนที่มีชิปเซ็ตสปีดเร็วๆ ด้วยเหมือนกัน

ก่อนจะเข้าเรื่อง มีตัวเลขที่น่าสนใจมาแชร์ให้ดูกัน ในปี 2020 ที่ผ่านมา[1] ผู้ใช้ Android ชาวไทยจากทั่วประเทศใช้งานสมาร์ทโฟนรวมกันถึง 58,810 ล้านชั่วโมง! เฉลี่ยคนละ 4 ชั่วโมง 10 นาทีต่อวัน คาดว่าช่วงล็อคดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้มีการดาวน์โหลดแอปเพิ่มขึ้นกว่า 2.15 พันล้านครั้งเลยทีเดียว โดยแอปยอดฮิตอันดับ 1 ก็คือแอปโซเชียลมีเดียและแชท ตามด้วยแอปดูคอนเทนต์วิดีโอ และแอปช้อปปิ้ง ส่วนแอปธนาคารก็มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ

ไม่ใช่แค่จำนวนแอปที่ติดตั้งมีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น แต่ว่าแต่ละแอปก็ยังมีขนาดใหญ่ขึ้นและต้องการพื้นที่กับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนที่รองรับเพิ่มขึ้นอีกด้วย อีกเทรนด์ที่น่าสนใจในปี 2021 นี้คือเทรนด์ Convergence of Platform[2] คือการขยายตัวของแพลตฟอร์มที่ให้บริการได้หลากหลายครบวงจรในแอปเดียว ยกตัวอย่างเช่น LINE, Grab, Lazada, Facebook หรือแอปโมบายล์แบงกิ้งของธนาคารต่างๆ ลองคิดดูว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนมา เราเปิดมือถือตอบแชท สั่งอาหารเดลิเวอรี CF เสื้อผ้าออนโลน์ โอนจ่ายหนี้บัตรเครดิต ไหนจะต้องอัพคลิปเต้นลง TikTok สตรีมเพลง ฟังพอดแคสต์ ดูยูทูปทั้งวันแบบนี้ จะให้ใช้สมาร์ทโฟนช้าๆ ไลฟ์สไตล์ชีวิตก็คงสะดุด ไม่สนุกแน่ๆ

ถ้าพวกเราอินกับการใช้สมาร์ทโฟนขนาดนี้ ดังนั้น “Speed” และ “Performance” ของสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ประสบการณ์การใช้งานแอปในชีวิตประจำวันราบรื่น สลับกี่แอปก็ไม่มีสะดุด ยิ่งในยุค 5G ที่ทุกอย่างต้องไว เราก็ต้องตามให้ทัน เหมือนกับ POCO M3 Pro 5G “More Speed. More Everything” สมาร์ทโฟน 5G สเปคเร็วแรงจัดเต็มด้วย ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 เทคโนโลยีประมวลผลแบบ 7nm ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลสูงในขณะที่ใช้พลังงานต่ำลง เพื่อให้สามารถสนุกกับทุกกิจกรรมบนสมาร์ทโฟนได้อย่างลื่นไหล ไม่ต้องกังวลตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G แบบ Dual Sim เพราะการใช้งานเกือบทุกแอปต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา โดยเฉพาะการดาวน์โหลดคอนเทนท์วิดีโอหนักๆ เช่น สตอรี่ไอจีเพื่อน หรือคลิปบนยูทูป ถ้าได้เชื่อมต่อ 5G สุดเร็วแรง รับรองไม่หัวเสียระหว่างดูแน่นอน

ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วเท่านั้น POCO M3 Pro 5G ยังมาพร้อมหน้าจอ DynamicSwitch ขนาด 6.5 นิ้ว และอัตรา รีเฟรชเรท 90Hz กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP เลนส์มาโครและเลนส์ระยะชัดลึก แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh (typ) รองรับการชาร์จเร็ว 18W เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G สำหรับคนไทยที่จัดเต็มสเปคเร็วแรง ในราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด เริ่มต้นเพียง 4,999 บาทเท่านั้น

เพื่อการใช้ชีวิตที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในยุค 5G อย่าลืมพิจารณาเลือกสมาร์ทโฟนจาก “ความเร็ว” และ “ประสิทธิภาพ” ของชิปเซ็ตด้วยเช่นกัน

เกี่ยวกับ POCO

POCO เป็นแบรนด์อิสระที่เกิดจาก Xiaomi Corporation ปัจจุบันโพโควางจำหน่ายในมากกว่า 35 ตลาดทั่วโลก ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 POCO ได้ทำการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั้งสิ้น 13 ล้านเครื่องทั่วโลก

ผลิตภัณฑ์ POCO ที่วางจำหน่ายเป็นรุ่นแรก คือ POCO F1 ส่งแบรนด์ POCO ให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนรักเทคโนโลยีและสื่อมวลชน ด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม สร้างยอดส่งมอบถึง 2.2 ล้านเครื่อง ส่วนรุ่น POCO X3 NFC มียอดส่งมอบกว่า 4 ล้านเครื่องภายในเวลา 7 เดือน ปัจจุบัน POCO มีผลิตภัณฑ์ ทีมงานด้านการตลาดและการขายเป็นของตนเอง และใช้ฐานการผลิตและบริการหลังการขายร่วมกับเสียวหมี่

POCO เป็นแบรนด์เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค โดยยึดมั่นปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า “เป็นทุกอย่างที่คุณต้องการ และไม่ใช่สิ่งที่คุณไม่ต้องการ” เน้นตอบสนองความต้องการของแฟนๆ POCO โดยพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แฟนๆ ต้องการอย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการตัดสินใจที่ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมและการอัปเดตผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

 

[1] We Are Social & Hootsuite – Digital 2021 Thailand https://www.slideshare.net/DataReportal/digital-2021-thailand-january-2021-v01
[2] Priceze e-commerce summit 2021 https://marketeeronline.co/archives/207221