กลุ่มบริษัทรองเท้า เอส.ซี.เอส. ผู้ผลิตรองเท้านักเรียนผ้าใบเบรกเกอร์ รองเท้านักเรียนป๊อบทีน และรองเท้านักเรียนแคทช่า เชื่อมั่นตลาดรองเท้านักเรียนไทยยังทรงตัว พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์แคมเปญทางการตลาด และกิจกรรมซีเอสอาร์ ช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง
นายวิษณุ วงศ์วีระนนท์ชัย รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทรองเท้า เอส.ซี.เอส. เปิดเผยว่า “โดยปกติช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงเปิดภาคเรียน แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปและชะลอการซื้อ ทำให้รายได้ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ ปรับลดแผนโฆษณาลง 10% แต่ในส่วนแผนงานการตลาด และการประชาสัมพันธ์ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสื่อส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย (POP) ในช่องทางเทรดดิชั่นนอลเทรด และโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการเลื่อนการเปิดภาคเรียนจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรองเท้านักเรียนเป็นระยะเวลายาวนาน เพราะรองเท้านักเรียนเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ปกครองต้องจัดหามาให้บุตรหลานเพื่อสวมใส่ไปโรงเรียนอยู่แล้ว และรองเท้านักเรียนเป็นสินค้าจำเป็นไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย
การระบาดของโควิด-19 ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของระบบเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นการปรับตัวตามสถานการณ์ของภาคธุรกิจอย่างถูกจังหวะจึงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้องค์กรสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ตลาดรองเท้านักเรียนก็เช่นกัน อาศัยการปรับตัวในทุกขั้นตอนเพื่อให้ภาพรวมธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้ แม้จะมีการเลื่อนเปิดภาคเรียน หรือจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการสอนในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต (ONLINE) การเรียนการสอนแบบ ON-HAND นำหนังสือ แบบฝึกหัด ไปเรียนรู้ที่บ้าน เป็นต้น
บริษัทฯ ได้เรียนรู้ถึงผลกระทบดังกล่าว และนำมาปรับแผนธุรกิจให้สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่มาตรการป้องกันโควิดของบุคลากร การวางแผนการจัดเตรียมวัตถุดิบให้สอดคล้องกับการผลิตสินค้า และให้สอดคล้องกับการขายสินค้าในช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป การจัดสรรสินค้าในแต่ละช่องทางขายอย่างเหมาะสม ครอบคลุมเทรดดิชั่นนัลเทรด โมเดิร์นเทรด และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ และให้สอดคล้องกับวิกฤตการระบาดของโควิด-19 โดยเน้นการส่งสินค้าที่สะดวก สบาย ปลอดภัย พร้อมจัดโปรโมชั่นมากขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย
นอกจากนี้ยังจัดแคมเปญพิเศษต่างๆ แม้ในช่วงเวลาที่น้องๆ นักเรียนต้องเรียนออนไลน์เพื่อเป็นการสร้าง awareness และ remind ให้ผู้บริโภคยังคงจดจำแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 อย่างในปีนี้เอง “ป๊อปทีน” ได้ครีเอทแคมเปญ “Popteen Poplove Season 2 อยากบอกรักใคร ป๊อปทีนส่งเจลแอลกอฮอล์ Poplove ให้ฟรี!” อาสาเป็นตัวแทนส่งความรักและรอยยิ้มให้ถึงมือทุกคน โดยทำเจลแอลกอฮอล์ในรูปแบบของพวงกุญแจสุดคิวท์ดีไซน์เก๋ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนก็ได้ แถมบริการจัดส่งให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จำนวน 50,000 ชิ้น รวมมูลค่า 4,450,000 บาท ซึ่งประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดี มีผู้ร่วมลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก
เอส.ซี.เอส. ยังได้ร่วมมือกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำรองเท้านักเรียนร่วมลดราคาเพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ในโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” Back To School เพื่อช่วยพ่อแม่-ผู้ปกครอง ลดภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของลูกหลานโดยเน้นให้ทันก่อนที่ผู้ปกครองจะต้องจับจ่ายก่อนเปิดเทอม
พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมซีเอสอาร์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบเจลแอลกอฮอล์แบบพกพาให้กับน้องๆ ในถิ่นทุรกันดาร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานคร รวมถึงน้องๆ ที่อาศัยอยู่ในแคมป์กลุ่มแรงงานคนต่างด้าว และยังมอบเสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown) จำนวน 5,000 ชุด ให้กับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเชิงรุกในพื้นที่ชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่ระบาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร
ด้านแผนการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายในปี 2564 เอส.ซี.เอส. ยังคงเดินหน้าผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า โดยพบว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานศึกษาจะเลื่อนการเปิดเทอม แต่คาดว่าสุดท้ายแล้วผู้บริโภคก็ยังให้ความสนใจสินค้า เอส.ซี.เอส. เช่นเดิม เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมผู้บริโภคก็จะกลับมาซื้อสินค้าตามปกติ
ในสถานการณ์วิกฤตทางสังคมที่พวกเราคนไทยทุกคนประสบอยู่ในขณะนี้ กลุ่มบริษัทรองเท้า เอส.ซี.เอส. ได้ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยทุกคนได้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่วิกฤตไปด้วยกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/scsbacktoschool