เจาะลึกข้อมูลแอปฟินเทคปี 2021 โตต่อเนื่องจากปี 2020

โดย เอพริล เทย์สัน รองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย บริษัท Adjust 

หลังบริษัท Apple เปิดตัว iOS 14.5 ที่มาพร้อมนโยบายความเป็นส่วนตัว App Tracking Transparency ได้สร้างแรงกดดันให้กับนักการตลาดด้านการเงิน ไม่เว้นแม้แต่แอปฟินเทค ต้องปรับแผนทำแคมเปญใหม่หมด โดยเน้นกลยุทธ์พุ่งเป้าไปยังตัวบุคคลมากขึ้น ใช้ระบบทำงานแบบอัตโนมัติ และการวัดผลแบบเรียลไทม์ กลายเป็นสิ่งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ปีที่ผ่านมา แอปฟินเทคเติบโตอย่างพุ่งทะยาน เหตุจากล็อกดาวน์ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกไปธนาคารได้ จึงมองหาทางเลือกใหม่ ขณะที่กลุ่มผู้ค้าปลีกเองก็มองหาทางเลือกการชำระเงินรูปแบบใหม่ เช่น ระบบชำระเงินไร้สัมผัสด้วย ส่งผลให้ปี 2020 เป็นปีทองของแอปฟินเทค ขณะที่ธุรกิจประเภทอื่นๆ ก็มีการใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จากรายงาน Mobile App Trends Report ปี 2021 ของ Adjust ระบุว่าแอปฟินเทคมีการเติบโตมากที่สุดถึง 51% เมื่อทียบปีต่อปี และขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 12% ในช่วงต้นปี 2021

ผลวิจัยตลาดของ Adjust ยังพบอีกว่า การเติบโตส่วนใหญ่มาจากการติดตั้งใช้งานแอปซื้อขายหุ้นที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล รวมถึงแอป Robinhood, Acorns และ Gatsby จะเห็นได้ชัดว่าวันนี้ผู้บริโภคได้หันมาใช้แอปฟินเทคมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง โดยมีจำนวนข้อมูลการใช้งานบนแอปฟินเทคเพิ่มขึ้นถึง 85% เมื่อเทียบกับปี 2019 และยังเพิ่มขึ้นกว่า 35% ในปี 2021 ในความเป็นจริงแล้วปริมาณข้อมูลการใช้งานมีการขยายตัวโตต่อเนื่องมาตลอดปี 2020 โดยในช่วงต้นสัปดาห์ของเดือนตุลาคมปีที่แล้วมีการเติบโตมากที่สุด (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 22%) และปลายเดือนพฤศจิกายน (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 24%) และเพิ่มขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม คือเพิ่มขึ้น 15%

แอปฟินเทคสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้จะพบว่าข้อมูลการดาวน์โหลดแอปไปใช้จะด้วยความจำเป็น หรืออาจเพราะแค่ไม่มีอะไรทำ แต่หากมองกันในระยะยาวการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้แอปมากขึ้น ถือเป็นวิธีหนึ่งในเกมการแข่งขัน ดังนั้นนักการตลาดต้องฉลาดใช้ข้อมูลมาขับเคลื่อนต่อยอดธุรกิจ และมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีของผู้บริโภค (UX) เนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้นดุเดือดกำลังรุนแรงมากขึ้นตามการเติบโตของอีโคซิสเต็มในธุรกิจมือถือ

เจาะลึกความแตกต่างของแอปฟินเทค

กุญแจสำคัญในการทำตลาดแอปพลิเคชันบนมือถือ คือ การทำความเข้าใจข้อแตกต่างของแอปแต่ละกลุ่มในท้องตลาด สำหรับแอปฟินเทคแล้ว สิ่งที่ควรตระหนักคือการเข้าใจถึงแนวโน้มการใช้งานของลูกค้าบนแอป  ยกตัวอย่าง Neo Bank ไม่ได้คาดหวังให้ผู้ใช้เช็กแอปวันละหลายๆ ครั้งเหมือนแอปโซเชียลมีเดีย แต่สิ่งสำคัญคือรักษาความต่อเนื่องของผู้ใช้งานในแอป ขณะที่แอปซื้อขายหุ้นมีความคาดหวังให้ผู้ใช้งานเข้าแอปบ่อยครั้งกว่าทั้งนี้ก็เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหรือเพื่อการซื้อขาย

ผู้ใช้แอปฟินเทค ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ และยังเป็นแอปอันดับต้นๆที่สามารถรักษาความต่อเนื่องของการกลับมาใช้บริการใหม่ ซึ่งตัวเลขการกลับมาใช้อีกครั้งสูงที่สุดถึง 18% ภายใน 7 วัน และ 12% ในช่วง 30 วัน ในจำนวนนี้มีผู้ใช้งานแอปการเงิน 2.5 แอปที่ติดตั้งอยู่ในมือถือ ซึ่งต่างจากผู้ใช้งานแอปเกม เพราะกลุ่มผู้ใช้งานแอปการเงิน จะไม่ค้นหาอะไรใหม่ๆ ที่คิดว่าดีกว่าสิ่งที่มีอยู่ เมื่อเจอแอปที่ชอบ ก็จะใช้แอปนั้นไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ หากธุรกิจกำลังประสบปัญหาการรักษาความต่อเนื่องของผู้ใช้งานในแอปฟินเทค  สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ด้วยการทำความเข้าใจต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งาน การเจาะลึกให้ถึงความต่อนื่องที่กลับมาใช้งาน ซึ่งยังช่วยแก้ปัญหาการดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วย การตีโจทย์ให้แตกว่าแอปคุณมีคอนเทนต์มากพอเพื่อให้ผู้ใช้งานม่ส่วนร่วมหรือไม่ และทดสอบว่าการใช้ข้อเสนอพิเศษประสบความสำเร็จหรือไม่

จะเห็นว่าธุรกิจฟินเทคนั้นจะมุ่งเน้นที่เรื่องการทำงานของแอปและการพัฒนาสินค้าและบริการ ขณะที่แอปธนาคารจะใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปจากแอปชำระเงินและแอปซื้อขายหุ้น ซึ่งความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ นี้เอง อาจนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ด้วยการนำไปกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่ สร้างความไว้วางใจในความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าเก่า กรณีนี้ยังส่งผลให้นักการตลาดสามารถค้นหาผู้ใช้งานรายใหม่ (UA) เพิ่มได้ด้วย

ลูกค้ารายใหม่ โอกาสของแอปฟินเทค

นักการตลาดที่ต้องการหาผู้ใช้งานรายใหม่ (UA) ต้องพยายามที่จะพัฒนาวิธีการเข้าถึงผู้ใช้งานที่ใช่ — ต้องทำให้ผู้ใช้งานที่ใช่มีแนวโน้มที่จะมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่อง อยู่กับแอปนานและใช้จ่ายด้วย จากการวิจัย ระบุว่าส่วนแบ่งของจำนวนการติดตั้งแอปแบบมีโฆษณาสูงสุดในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 ทุกการติดตั้งแบบออแกนิคจะเป็นชนิดชำระเงินราว 0.45 ของการติดตั้ง โดยเป็นเช่นนี้ไปอย่างค่อนข้างต่อเนื่องตลอดปี อย่างไรก็ตาม การติดตั้งต่ำสุดที่ 0.39 ครั้งในช่วงไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับประเภทธุรกิจอื่น แอปฟินเทคก็มีส่วนแบ่งของการติดตั้งแบบชำระเงินต่ำ โดยมีการชำระเงินสูงกว่าแอปธนาคารเล็กน้อย ฟินเทคพยุงอยู่ในช่วง 0.1 ถึง 0.13 ส่วนแอปธนาคารอยู่ที่ 0.8 ถึง 0.2  โดยในไตรมาสที่ 4 เป็นช่วงซึ่งมีค่าใช้จ่ายของการหาผู้ใช้งานสูงที่สุด เฉลี่ยโดยรวมที่ 1.88 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อการติดตั้งหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตาม ช่วงซึ่งแพงที่สุดสำหรับแอปฟินเทคคือไตรมาสที่ 1 ที่ 1.57 ดอลลาร์สหรัฐ และลดลงเหลือ 0.53 ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 2

รายงานนี้ยังแสดงถึงจำนวนของพาร์ทเนอร์ธุรกิจต่อแอปยังมีนัยะสำคัญ จากเมื่อปีที่แล้วเกือบทุกธุรกิจจะมีพาร์ทเนอร์อยู่ที่ราว 5 ราย แล้วเพิ่มมาเป็น 6 รายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 สิ่งนี้บ่งชี้ถึงโอกาสสำหรับกลุ่มธุรกิจฟินเทคในการขยายจำนวนพันธมิตรที่ทำงานด้วย เพื่อร่วมแสวงหากลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่มีศักยภาพ

โจทย์ใหม่ในปี 2021 ได้ทำให้นักการตลาดได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้ iOS 14 ที่มาพร้อมกับนโยบายความเป็นส่วนตัว App Tracking Transparency แน่นอนว่าแรงกดดันนี้ ทำให้นักการตลาดมีความพยายามจะรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง และสิ่งจำเป็นที่นักการตลาดต้องมี คือ ข้อมูลที่สามารถนำมาขับเคลื่อนวางแผนกลยุทธ์ทำการตลาดรูปแบบใหม่ๆเพื่อต่อยอดธุรกิจ