การทำงานที่บ้าน (Work From Home) กลายเป็นรูปแบบการทำงานแบบ New Normal ในประเทศไทย ซึ่งต้นทุนแฝงของการทำงานรูปแบบนี้มักจะส่งผลต่อสุขภาพจิต การแยกตัวจากเพื่อนร่วมงาน ความกดดันที่เพิ่มขึ้นของการทำงานคนเดียว ตลอดจนระยะเวลาที่ต้องอยู่บ้านในแต่ละวันที่ดูเหมือนจะยาวนาน อาจส่งผลให้เกิดความเครียดที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาที่กำลังก้าวเข้าสู่การเริ่มต้นชีวิตการทำงาน
นินจาแวน ประเทศไทย ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดการให้คำปรึกษาและบำบัดแบบออนไลน์โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน เพื่อให้พนักงานมีช่องทางในการระบายความเครียดและความวิตกกังวลในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ว่าการ Work from home จะได้รับการยอมรับจากพนักงานของนินจาแวน ประเทศไทย แต่การใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารอาจส่งผลลบและเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันระหว่างบุคคลและทีม ที่สำคัญส่งผลให้เกิดความเหงาจากการที่ต้องทำงานเพียงลำพัง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาของพนักงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บริการการให้คำปรึกษาแบบออนไลน์ของนินจาแวน ประเทศไทย พนักงานสามารถนัดหมายเพื่อพูดคุยกับจิตแพทย์โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนผ่านวิดีโอ โทรศัพท์ หรือข้อความ ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์ได้อย่างง่ายดาย เมื่อพนักงานต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังสามารถทดสอบระดับความวิตกกังวลได้โดยวัดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียดหรือภาวะซึมเศร้าของพนักงานในระดับ 1 ถึง 10 ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ที่รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดถึงความกังวลของตนเอง นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดที่เกิดจากการ Work From Home โดยพนักงานสามารถเข้าร่วมได้ผ่านการ Live แต่หากไม่ว่างก็สามารถเข้าชมย้อนหลังได้
มร. เพียซ เอิง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของนินจาแวน ประเทศไทย กล่าวว่า “พนักงานเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อองค์กร ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราต้องมั่นใจว่าพนักงานทุกคนปลอดภัย บรษัทฯจึงอนุญาตให้พนักงาน Work From Home ได้ โดยเราให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากภาวะความเครียดที่เพิ่มขึ้น สามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ ซึ่งเราพบว่าความเครียดที่เกิดขึ้นกับพนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการทำงาน การได้พูดคุย ปรึกษา และบำบัดกับผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นทางเลือกกับพนักงานของเรา”
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านสุขภาพแล้ว เรายังช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านไลฟ์สไตล์ เพื่อช่วยให้พนักงานรักษาสมดุลชีวิตการทำงานและสุขภาพที่ดี ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ให้เงินสมทบค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าสันทนาการต่างๆ เช่น ค่าสมาชิก Netflix, Spotify, Youtuber premier, Tinder gold รวมถึงค่าสมาชิกฟิตเนส “มาตรการชดเชยและสวัสดิการต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราให้ตอบแทนกับพนักงาน เพราะพวกเขาถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการเติบโตทางธุรกิจ” เพียซ เอิง กล่าวเสริม
ในขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อที่ปรับตัวให้เข้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเราวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว “วิธีที่เราสื่อสารกับพนักงานเก่าและพนักงานใหม่แสดงให้เห็นว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด โดยแสดงผ่านสวัสดิการที่เรามีให้ และสิ่งนี้ช่วยให้เราสร้างความไว้วางใจกับพนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการเป็นส่วนหนึ่งของนินจาแวน เป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้พวกเขาสร้างสมดุลชีวิตและการทำงาน รวมถึงความมั่นคงในชีวิต ด้วยสวัสดิการที่ทันสมัยแสดงให้เห็นว่าเราเป็นองค์กรที่มอบความสุขในการทำงานให้กับพนักงานทุกคน เพราะการดูแลพนักงานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ธุรกิจของเราพัฒนาและเติบโต และกลายเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำของประเทศไทย” เพียซ เอิง กล่าวทิ้งท้าย