‘บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง’ หรือ TKN เปิดเกมรุกหนักตลาดจีน รับเศรษฐกิจจีนที่กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว ปรับแผนแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพิ่มเติม เสริมความแข็งแกร่งช่องทางขายร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และผ่าน E-Commerce เตรียมเพิ่มสินค้าเข้าสู่ตลาดจีนอีก 10 รายการ หวังหนุนรายได้จากการส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วน Orion Corp. ดูแลช่องทางขายโมเดิร์นเทรด
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การจัดจำหน่ายในประเทศจีน เพื่อเร่งเพิ่มยอดขายรับโอกาสภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคในจีนที่กำลังฟื้นตัว โดยล่าสุดได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพิ่มเติมอีก 1 ราย ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่การกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม Traditional Trade และช่องทาง E-Commerce ซึ่งเป็นช่องทางที่มีศักยภาพและโอกาสขยายตัวได้อีกมาก
ทั้งนี้ การแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมในครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนรุกขยายธุรกิจในตลาดจีน โดย TKN วางแผนเพิ่มไลน์สินค้าในช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมและช่องทางออนไลน์ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 10 รายการ จากเดิม 6 รายการ ซึ่งจะนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการทำตลาดของตัวแทนจำหน่าย มาช่วยผลักดันสินค้าเข้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย และสนับสนุนการเติบโตของรายได้จากการส่งออกในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัท Pan Orion Corp ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอีกรายในประเทศจีน เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของการทำตลาดในประเทศจีนและเป็นผู้ถือหุ้นใน TKN ในสัดส่วน 3.5% นั้น จะรับผิดชอบการจัดจำหน่ายสินค้าเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ Modern Trade เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดผ่านช่องทางดังกล่าว
“จีนซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของเรา และเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวจาก COVID-19 จึงเป็นโอกาสดีในการเร่งผลักดันการเติบโตรองรับกำลังซื้อสินค้าของชาวจีนที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเราได้ปรับแผนการขยายตลาดในจีน โดยเพิ่มตัวแทนจำหน่าย Distribution อีก 1 ราย เพื่อช่วยขยายช่องทางจำหน่าย Traditional Trade และ E-commerce ให้มากขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมา การทำตลาดในช่องทางดังกล่าวยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งการเพิ่มเติมตัวแทนจำหน่ายครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น โดยมั่นใจว่าจากแผนดำเนินงานครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมรายได้จากตลาดส่งออกให้ทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้” นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
Related