- Sea(Group) สำรวจ “Online Seller Archetypes” จับอินไซต์ผู้ค้าออนไลน์ เจอกลุ่ม ‘Entrepreneurs’ และกลุ่ม ‘Hidden Entrepreneurs’ ที่น่าจับตามอง
- Sea (ประเทศไทย) ทยอยเปิดตัวโครงการตามแผนส่งเสริมศักยภาพคนไทยด้วยอีคอมเมิร์ซ
Sea (Group) บริษัทชั้นนำระดับโลกในด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มสำหรับผู้บริโภค ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนท์ (Garena) อีคอมเมิร์ซ (Shopee) และบริการด้านการเงินแบบดิจิทัล (SeaMoney) เผยผล “การสำรวจ Online Seller Archetypes” เพื่อจับอินไซต์ว่าบทบาทของอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มมากขึ้น จากกระแสดิสรัปชันและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งแรงกระเพื่อมไปถึงผู้ค้าออนไลน์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างไร โดยผลสำรวจจากผู้ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ราว 42,000 ราย จากทั้งหมด 6 ประเทศ ประกอบไปด้วย ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ชี้ว่า รูปแบบการรับอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มมาใช้งานมีความหลากหลาย และสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ The Homemaker, The Student, The Never-too-late, The Moonlighter และ The Highly-digital ซึ่งใช้งานอีคอมเมิร์ซเพื่อตอบโจทย์ความจำเป็นที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเสริมศักยภาพธุรกิจ สะท้อนให้เห็นถึงแรงกระเพื่อมจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่สนับสนุนให้เกิดความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว (Resilience & Adaptability) ในผู้ค้าออนไลน์หลากหลายกลุ่มในสังคมวงกว้าง
1.) The Homemaker Entrepreneurs (กลุ่มแม่บ้าน–พ่
บนแพลตฟอร์มช้อปปี้มีผู้ค้
2.) The Student Entrepreneurs (กลุ่มนักเรียน–นักศึกษา)
กลุ่ม The Student ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ในวัยเรียนที่ค้
ดังนั้น อีคอมเมิร์ซจึงเข้ามาเป็นโซลูชั
3.) The Never-too-late Entrepreneurs (กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชี
ผู้ค้ากลุ่ม The Never-too-late คือผู้
แม้ว่า The Never-too-late จะมีความเชี่
4.) The Moonlighter Entrepreneurs (กลุ่มทำอาชีพเสริมคู่งานประจำ)
กลุ่ม The Moonlighter คือ กลุ่มพนักงานประจำที่ขายสินค้
5.) The Highly-Digital (กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ)
กลุ่ม The Highly-Digital คือกลุ่มคนที่สังคมมักจะนึกถึงเมื่อเราพูดคำว่า “พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์” โดยพวกเขาขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพหลักเพียงอาชีพเดียว มีความแอคทีฟบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มสูง บริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสร้างยอดขายจากช่องทางอีคอมเมิร์ซได้มากกว่า 50% ของยอดขายทั้งหมด นับเป็นกลุ่มที่มีทักษะการทำธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลสูงที่สุดในกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ทั้งหมด โดยกลุ่ม The Highly-Digital มักเป็นคนช่วงอายุ 30 ปี โดย 66% ระบุว่าต้องการหารายได้เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และอีก 57% ระบุว่าต้องการนำรายได้ไปลงทุนต่อเพื่อขยายธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ
นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาเร่งกระบวนการ Digital Transformation ให้เร็วขึ้น หลายๆ ประเทศมีความพยายามที่จะสนับสนุนและส่งเสริม SMEs ให้อยู่รอดด้วยการใช้ Digitalization ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการเยียวยาหรือส่งเสริมศักยภาพ SMEs แบบ One-size-fit-all อาจไม่ใช่คำตอบ เนื่องจากธรรมชาติของผู้ค้าออนไลน์มีความหลากหลาย ทั้งด้านปูมหลัง แรงจูงใจ และการนำอีคอมเมิร์ซไปปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ‘Hidden Entrepreneur’ อย่าง The Homemaker และ The Student ที่แตกต่างไปจากภาพผู้ประกอบการในความคิดของสังคมส่วนใหญ่อย่างชัดเจน
‘Hidden Entrepreneur’ หลายๆ คนอาจไม่มีวันผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการ หาก ‘Barrier to Entry’ ไม่ถูกลดทอนลงมาอย่างมีนัยสำคัญด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทั้งนี้เพราะการทำธุรกิจไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมากที่สุด แต่พวกเขาจำเป็นต้องทำธุรกิจเพื่อสนับสนุนสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับพวกเขา ได้แก่ ความเป็นอยู่ของครอบครัวและการศึกษา
Sea (ประเทศไทย) จับอินไซต์จากผลสำรวจภูมิภาค ต่อยอดสู่แผนส่งเสริมศักยภาพคนไทยด้วยอีคอมเมิร์ซ
นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวถึงภาพรวมผู้ประกอบการ SMEs และผู้ค้าออนไลน์ในประเทศไทยว่า “Sea (ประเทศไทย) และ Shopee (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเครือ คำนึงถึงการออกแบบโปรแกรมส่งเสริมและสนับสนุนคนไทยที่มีความเฉพาะตัวสูงและต้องการการสนับสนุนที่ต่างกันออกไป โดยเฉพาะกลุ่ม ‘Hidden Entrepreneur’ อย่าง The Homemaker และ The Student ที่เพิ่งกระโดดเข้ามาหารายได้จากอีคอมเมิร์ซ โดยเราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วนเผื่อผลักดันโครงการให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ”
“Sea (ประเทศไทย) ต้องการต่อยอดการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Digital Nation อย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากจะต่อยอดโครงการจากปีก่อนๆ เช่น การส่งเสริมด้านการศึกษาและอาชีพของเยาวชนยุคดิจิทัล แล้ว ในปี 2564 นี้ เรามุ่งส่งเสริมศักยภาพคนไทยด้วยอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่เข้าถึงได้ในต้นทุนต่ำและสามารถนำไปสร้างรายได้ได้จริง โดยจะมีการทยอยเปิดตัวโครงการเรื่อยๆ โดยโครงการหลักๆ ที่เปิดตัวไปในช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่ โครงการ “E-commerce 101 powered by Shopee Bootcamp” ที่นำหลักสูตรอีคอมเมิร์ซแบบเข้มข้นไปผนวกกับหลักสูตรของ Thammasat Business School เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านอีคอมเมิร์ซขั้นสูงสู่นักศึกษาซึ่งจะกลายมาเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของประเทศ พร้อมส่งต่อความรู้และทักษะด้านอีคอมเมิร์ซขั้นพื้นฐานสูงสู่วิสาหกิจชุมชน และกระตุ้นให้เกิดการปรับการดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืนในยุคดิจิทัล และเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว โครงการ ‘ปลูกทักษะชีวิต คิดทันโลกดิจิทัล’ โดยจับมือกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นพันธมิตรรายแรก เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ด้านการทำธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ปลูกทักษะและวิธีคิดแบบผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Skills) และทักษะที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการยุคดิจิทัล (Employability Skills) เตรียมความพร้อมสู่การเป็นแรงงานแห่งอนาคต ไม่เพียงเพื่อช่วยยกระดับทักษะดิจิทัล เพิ่มโอกาสในการทำงานและสร้างรายได้ ให้กับนักศึกษาสายอาชีพ แต่เรายังหวังว่าจะช่วยให้แต่ละครอบครัวมีรายได้ที่มากขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน” คุณมณีรัตน์กล่าวปิดท้าย
บุคคลที่มีความสนใจและต้องการพัฒนาความรู้และทักษะการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สามารถร่วมเรียนในหลักสูตรทั่วไปของ Shopee Bootcamp โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ที่ https://shopeebootcamp.com/