ไทยประกันชีวิตเปิดยุทธศาสตร์ใหม่ฉลองครบรอบที่ดูแลคนไทยมา 80 ปี ด้วยการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน นั่นก็คือ ต้องเป็นมากกว่าการประกันชีวิต แต่ต้องเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต และการเงิน (Life & Financial Solutions) สร้างความมั่นคงให้คนไทยผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนทั้งต่อบริษัทฯ และสังคมไทย
เป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต และการเงิน
ในปัจจุบันเราจะพบว่า ทุกๆ ธุรกิจย่อมมีการปรับยุทธ์ศาสตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะกลยุทธ์ที่ใช้ได้ดีในปีนี้ อาจจะไม่เข้ากับผู้บริโภคในอีก 10 ปีข้างหน้าก็เป็นได้ บางองค์กรถึงกับมีการรีแบรนด์ หรือรีเฟรชแบรนด์ให้ดูทันสมัยตลอดเวลาเลยก็ได้
ในธุรกิจประกันชีวิตก็เช่นเดียวกัน ต้องมีปรับเปลี่ยนมุมมองให้เข้ากับบริบทในยุคนี้ ยิ่งการมาของวิกฤตโควิด-19 ยิ่งทำให้หลายคนสนใจในประภัยภัย ประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากขึ้น
“ไทยประกันชีวิต” เป็นอีกหนึ่งผู้นำในธุรกิจประกันชีวิต ที่ดำเนินธุรกิจอยู่บนการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในทุก 10 ปี และในปี 2565 ไทยประกันชีวิตจะดำเนินธุรกิจครบ 80 ปี จึงได้ประกาศปรับวิสัยทัศน์ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ประกอบกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้เกิด New Normal พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไทยประกันชีวิตเดินเกมรุกใหม่ มองธุรกิจประกันชีวิตในบริบทใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เปลี่ยนแนวคิดในการทำธุรกิจจากการคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สู่การส่งมอบสุขภาพที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งในเชิงการป้องกัน (Preventive) และเชิงการดูแลรักษา (Curative) รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลให้กับลูกค้า
ในทศวรรษใหม่ที่จะถึงนี้ ไทยประกันชีวิตได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งสู่การเป็น “บริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน” ซึ่งจะนำพาองค์กรให้ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
“การดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีวิวัฒนาการองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับบริบทของการดำเนินธุรกิจ และปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปี 2560 บริษัทฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ด้วยการดำเนินธุรกิจในลักษณะ People Business คือให้ความสำคัญและดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกภาคส่วน ผ่านการส่งมอบสุขภาพที่ดี ชีวิตที่มั่งคั่งมั่นคง และชีวิตที่ดีมีสุข
และในฐานะบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทยที่ดูแลคนไทยมาจะครบ 80 ปี ในปี 2565 ไทยประกันชีวิตจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ “มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน (To be an Insurance Company of Sustainability)” พร้อมสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และเป็นทิศทางในการดำเนินธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า
จากนี้ไปไทยประกันชีวิตต้องเป็นมากกว่าการประกันชีวิต แต่ต้องเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิตและการวางแผนการเงิน (Life & Financial Solutions) โดยเป็นผู้ส่งมอบสุขภาพ และชีวิตที่ดี ความมั่นคง ความมั่งคั่งในบั้นปลายชีวิตให้กับลูกค้า
ขณะเดียวกันไทยประกันชีวิตจะมุ่งเข้าใจความต้องการของลูกค้าในระดับปัจเจกบุคคล นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าด้วยนวัตกรรมหรือความคิดสร้างสรรค์ ต้องทรานส์ฟอร์มระบบการทำงานผ่านดิจิทัลที่ผสมผสานระหว่าง People, Process, Data และ Technology ให้ได้อีกด้วย
สำหรับโรดแมปของวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ปี 2565-2569 เป็นช่วง Transforming Tomorrow การเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ดีกว่า โดยบริษัทฯ มุ่งปรับกระบวนทัศน์ในการดำเนินธุรกิจทุกด้านเพื่อสร้างความพร้อมขององค์กร และปี 2570-2574 เป็นช่วง Sustainable Tomorrow คือการก้าวสู่อนาคตที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ความยั่งยืน กับธุรกิจประกันชีวิต
ต้องบอกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หลายธุรกิจ หลายองค์กรเริ่มพูดถึง “ความยั่งยืน” มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับธุรกิจประกันชีวิต ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของภาคการเงิน และมีบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของประเทศ เห็นได้จากการนำแนวคิดการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) มาผนวกในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ซึ่งต้องคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในทุกกระบวนการอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น
โดยแนวทางการพัฒนาภาคการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Initiatives for Thailand) ได้กำหนดทิศทาง และกรอบการดำเนินงานด้าน Sustainable Finance ในภาคการเงินไทย รวมไปถึงธุรกิจประกันชีวิต โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม ซึ่งประกันชีวิตเป็นการสร้างหลักประกันด้านชีวิต และการเงินที่มั่นคงให้กับคนไทย อันเป็นพื้นฐานที่ช่วยสร้างความเข้มเข็งและยั่งยืนให้กับสังคม เรื่องนี้สำนักงาน คปภ. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลก็ให้ความสำคัญในการผลักดันให้การประกันชีวิตเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม
ขับเคลื่อนบน 6 คุณค่า
ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้ไทยประกันชีวิตเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน จะถูกขับเคลื่อนบน 6 คุณค่าสำคัญ คือ
- สร้างคุณค่าในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เป็นบริษัทฯ ที่ลูกค้าชื่นชม (Admired) ด้วยการเข้าใจ Customer Insight เพื่อให้สามารถพัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าแบบปัจเจกบุคคล มุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions เพื่อมอบสุขภาพที่ดี ชีวิตที่ดี และมีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต
- สร้างคุณค่าคนในองค์กร เป็นองค์กรที่มีความห่วงใยพนักงาน (Caring) ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักมนุษย์นิยม (Humanism) ถือว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรและทรัพย์สินที่มีค่า และเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จขององค์กร จึงสร้างวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
- สร้างคุณค่าให้กับพันธมิตรหรือคู่ค้า โดยต้องเป็นบริษัทที่คู่ค้าเลือก (Preferred) พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของคู่ค้า และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม รวมถึงทำงานร่วมกับคู่ค้าด้วยความไว้วางใจและใส่ใจซึ่งกันและกัน
- สร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการเป็นองค์กรที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Return) บนพื้นฐานความแข็งแกร่งทางการเงิน การแสวงหากำไรที่เหมาะสม เพื่อสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้น
- สร้างคุณค่าให้กับสังคม โดยเป็นองค์กรที่รับผิดชอบ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม (Responsible Corporate Citizen) เพราะเชื่อว่าสังคมอยู่ได้ ไทยประกันชีวิตย่อมอยู่ได้
- สร้างคุณค่าให้กับหน่วยงานที่กำกับดูแล คือมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม รอบคอบ (Prudent) โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
สะท้อนผ่านโปรดักส์ที่ครอบคลุมทุกมิติ
วิสัยทัศน์ใหม่ดังกล่าวมาจากการประยุกต์รากฐานที่แข็งแกร่งของไทยประกันชีวิตตลอดระยะเวลา 80 ปี ปรับให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป การดำเนินธุรกิจต่อจากนี้จึงจะเป็นมากกว่าการประกันชีวิต โดยต้องเป็นทุกคำตอบด้านการเงินส่วนบุคคลและการประกันชีวิต (Life & Financial Solutions Provider) ของลูกค้าในทุกกลุ่มและในทุกช่วงชีวิต เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในรูปแบบเฉพาะบุคคล ผ่านการส่งมอบสุขภาพที่ดี ชีวิตที่ดี และความมั่นคงมั่งคั่งในบั้นปลายชีวิต
ด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ พัฒนาแบบประกันในกลุ่ม Life Solutions Product หรือ “ไทยประกันชีวิต ฟิตรอบด้าน” เพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคง และวางแผนชีวิตให้ลูกค้าอย่างครบรอบด้านในทุกช่วงของชีวิต ประกอบด้วย 5 กลุ่มแบบประกัน ได้แก่
- กลุ่ม Money Fit การวางแผนด้านการเงิน การออมเงินที่ได้ผลตอบแทนแน่นอน
- กลุ่ม Investment Fit การวางแผนการลงทุนที่คุ้มค่า และได้ผลตอบแทนที่ดี เป็นแบบประกันชีวิตควบคู่การลงทุน
- กลุ่ม Legacy Fit การสร้างกองทุนมรดกเพื่อครอบครัว หรือการออมเพื่อการศึกษาบุตร
- กลุ่ม Life Fit การสร้างหลักประกันคุ้มครองชีวิต และสุขภาพ เมื่อผู้เอาประกันดูแลสุขภาพดีจะมีส่วนลดเบี้ยประกันภัย
- กลุ่ม Health Fit การคุ้มครองสุขภาพ และค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ที่รักสุขภาพของตนเอง และครอบครัว
ด้านการบริการ บริษัทฯ พัฒนาบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต ซึ่งเป็น Signature Service อาทิ ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่มีการบวกเพิ่มในเบี้ยประกัน, ไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ บริการอำนวยความสะดวกด้านค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย และขยายสู่บริการ International Claims Solution ที่ให้บริการครอบคลุมทั่วโลก, ไทยประกันชีวิต Medical Second Opinion (MSO) บริการให้คำปรึกษาความเห็นที่ 2 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, ไทยประกันชีวิต Telemedicine บริการอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ต้องรับยาต่อเนื่องหรือติดตามผลการรักษา และต้องเดินทางไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเป็นการรักษาผ่านออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบ Real-time รวมถึงกรณีการใช้บริการตรวจรักษานอกสถานที่กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน
แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต และบริการไทยประกันชีวิต iService พัฒนาภายใต้แนวคิดเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจความต้องการ และเป็นทุกคำตอบของบริการด้านธุรกรรมประกันชีวิตแก่ผู้เอาประกันภัย ผ่านหลากหลายบริการ อาทิ การชำระเบี้ยฯ ผ่านบัตรเครดิตหรือ Mobile Banking, บริการรับเงินคืนระหว่างสัญญาผ่านบัญชีพร้อมเพย์หรือบัญชีธนาคาร, การยื่นเคลมค่าชดเชยรายได้ และตรวจสอบประวัติการเคลมสินไหม, การตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์และรายละเอียดความคุ้มครอง, การเปลี่ยนแปลงข้อมูลตามกรมธรรม์, บริการข้อมูลกองทุนรวมภายใต้แบบประกันยูนิตลิงค์ รวมถึงการดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ อาทิ หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย
“การทำธุรกิจของไทยประกันชีวิตจากนี้ไปไม่ใช่เพียงแค่การมองเรื่อง Customer Centric หรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ต้องเข้าถึง Customer at Heart คือดูแลลูกค้าด้วยหัวใจ ด้วยการสร้างจิตวิญญาณแห่งการบริการ หรือ Heart Made เสมือนการดูแลคนในครอบครัว และนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพิ่มขีดความสามารถให้กับตัวแทนฯ ในการดูแลและบริการลูกค้า หรือ Heart Tech เพื่อตอบสนองความต้องการแบบปัจเจกบุคคล ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตรงใจอีกด้วย”
ต้องเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับยุทธ์ศาสตร์ใหม่การดำเนินธุรกิจของไทยประกันชีวิตนับจากนี้ คือ มุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบด้านการเงินส่วนบุคคลและการประกันชีวิต (Life & Financial Solutions Provider) ในทุกช่วงชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (Life Event) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในรูปแบบเฉพาะบุคคล ขณะเดียวกันเป้าหมายของแบรนด์ หรือ Brand Purpose ก็คือ มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความชื่นชม (Admired) และเป็นแรงบันดาลใจ (Inspired) ให้กับทุกคนในสังคม เพื่อช่วยให้ภาพลักษณ์และทิศทางของแบรนด์สอดคล้อง และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งขององค์กรและสังคมอีกด้วย
ไชยกล่าวปิดท้ายว่า สิ่งสำคัญอีกประการในการมุ่งสู่บริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน คือการสืบทอดและสืบสานวัฒนธรรมไทยประกันชีวิต ให้องค์กรและบุคลากรขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนแก่นของความไว้ใจ ความใส่ใจ และความผูกพันซึ่งกันและกัน ผ่านการกำหนดค่านิยมหลัก (Core Values) เพื่อปรับเปลี่ยน Mindset ของคนในองค์กร ทั้งพนักงานสำนักงานใหญ่ สาขา และฝ่ายขาย
โดยสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ Data Driven, Agility และมี Innovation เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมการทำงานบนพื้นฐานความร่วมมือร่วมใจ และความผูกพัน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพบนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริต ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
ต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของไทยประกันชีวิต ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ทุกคำตอบของชีวิตคนไทยได้มากขึ้น แถมยังครอบคลุมทุกมิติ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่จะเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน และมั่นคง