SABINA ส่งแคมเปญ ‘ซาบีน่า ฟองดี’ กระตุ้นกำลังซื้อไตรมาสสุดท้าย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ตอกย้ำนวัตกรรมสินค้า หวังยอดขายโตอย่างน้อย 15%

SABINA ประเดิมบุกตลาดไตรมาสสุดท้ายของปี ส่งแคมเปญ “ซาบีน่า ฟองดี” กระตุ้นกำลังซื้อ โชว์นวัตกรรมฟองน้ำเสื้อชั้นในที่ดีที่สุด ชูจุดเด่น “ดีที่คืนทรง” ฟองน้ำรองรับแรงกดทับได้ดี แม้โดนกดทับก็ไม่พัง ไม่หัก คืนทรงสวย และ “ดีที่สัมผัสนุ่ม” คัดสรรวัตถุดิบฟองน้ำชั้นดี ให้มีสัมผัสที่นุ่มละมุนเมื่อสวมใส่ ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่คว้าสองพรีเซนเตอร์ตัวแม่ “ชมพู่-อารยา” และ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” มาร่วมเฟรมสร้างสีสันให้แคมเปญสุดปัง เตรียมจัดกิจกรรมท้าลองสินค้ากลุ่มฟองดี พร้อมโปรโมชั่นลดราคาพิเศษในงาน “10.10 Sabina Shopping Day” ผ่านช่องทางขายทั้งเคาน์เตอร์และออนไลน์ ระหว่าง 9-10 ตุลาคม ตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 4 โตไม่น้อยกว่า 15%

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการส่งเสริมธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า SABINA ได้เปิดตัวแคมเปญ “ซาบีน่า ฟองดี” ซึ่งเป็นแคมเปญที่จะกระตุ้นกำลังซื้อในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากแคมเปญดังกล่าวเป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก SABINA ที่ให้ความสำคัญกับ “ฟองน้ำ” ชุดชั้นใน โดยการพัฒนาฟองน้ำชุดชั้นในที่ดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติ “ดีที่คืนทรง” และ “ดีที่สัมผัสนุ่ม”

“นวัตกรรมฟองดี เป็นนวัตกรรมที่ SABINA เฝ้าคิดค้นและพัฒนามาโดยตลอด เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนที่สำคัญที่สุดของเสื้อชั้นใน คือฟองน้ำ ซึ่งการพัฒนาสินค้าที่ผ่านมา จะสังเกตได้ว่า ในทุกๆ แคมเปญ เสื้อชั้นในของเราเน้นใส่สบายและทรงสวย แต่สำหรับแคมเปญ “ซาบีน่า ฟองดี” จะตอกย้ำเพิ่มเติมว่า ไม่ได้แค่สวยและใส่สบายเท่านั้น แต่คุณภาพฟองดี ยังทำให้สามารถรักษาทรงของเสื้อชั้นในให้สวยเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะในขณะกำลังสวมใส่หรือตอนถอดออก เพื่อลดความกังวลใจของลูกค้าที่ซื้อเสื้อชั้นในไปแล้วใส่ไม่กี่ครั้ง เสื้อชั้นในก็เสียรูป ไม่สวยเหมือนเดิม รวมถึงคุณสมบัติที่ให้สัมผัสนุ่มละมุนเมื่อสวมใส่ ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับอากาศร้อนชื้นในเมืองไทย ซักทำความสะอาดแห้งไว ไร้กังวลเรื่องความอับชื้น รวมถึงกลิ่นอับ โดยนวัตกรรมฟองดีจะใช้กับสินค้าทุกรุ่นของซาบีน่า โดยเฉพาะรุ่นที่เป็น Hero Product” นางสาวดวงดาวกล่าว

SABINA ยังจัดกิจกรรมกระตุ้นการขาย โดยเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่มีสองพรีเซนเตอร์ตัวท็อป “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” และ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการทดสอบประสิทธิภาพของฟองน้ำเสื้อชั้นในผ่านการกดทับโดยรถจักรยาน แต่ฟองน้ำก็ยังคืนทรงได้ดี รวมถึงการจัดกิจกรรมท้าลองในช่องทางขายเคาน์เตอร์ซาบีน่าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ตลอดจนเว็บไซต์ www.sabina.co.th  เพื่อท้าลอง ฟองดี ในระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคมนี้ โดยมีโปรโมชั่นพิเศษ 2 วัน ภายใต้ชื่อ 10.10 Sabina Shopping Day โดยสินค้ากลุ่มฟองดีจะลดราคาพิเศษทุกชิ้น ชิ้นละ 200 บาท และยังสามารถร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าสามารถทดลองซื้อเสื้อชั้นในฟองดีเพื่อสัมผัสความพิเศษได้ด้วยตัวเองพร้อมกันทั่วประเทศไทย

โดยลูกค้าสามารถพบกับ “ซาบีน่า ฟองดี” ได้แล้ววันนี้ที่ซาบีน่า ช็อป รวมถึงเคาน์เตอร์ซาบีน่า ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และซาบีน่าออนไลน์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านทาง Facebook : SabinaThailand, Line@: @SabinaThailand, Instagram : Sabina_ig หรือ www.sabina.co.th

“เรามั่นใจว่า การปล่อยแคมเปญ “ซาบีน่า ฟองดี” ในไตรมาสที่ 4 เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด และจะได้ผลเชิงบวกกับยอดขายตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ว่า จะเติบโตได้อย่างน้อย 15% ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จากการที่เราได้เห็นบรรยากาศการผ่อนคลายและการปรับตัวของผู้บริโภค รวมถึงห้างร้านต่างๆ โดย SABINA ยังคงเน้นการออกแบบกิจกรรมด้วยการยึดหลัก Customer Centric ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้า (Customer Seamless Experience) ซึ่งกิจกรรมการตลาดต่างๆ จะทำในทุกช่องทางการจำหน่ายและมีทีมสนับสนุนเพื่อให้บริการกับลูกค้า ทั้งหน้าร้านและผ่านช่องทางออนไลน์ทุกช่องทาง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการส่งเสริมธุรกิจ SABINA กล่าว

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของกำลังซื้อ หลังจากการคลายล็อคดาวน์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา พบว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นตามการคาดการณ์ โดยสัญญาณกำลังซื้อที่กลับมาเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ภาพรวมของยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากปริมาณการใช้บริการของลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ที่ซาบีน่าเตรียมไว้บริการให้กับลูกค้าตามความถนัดและความสะดวก ซึ่งพบว่ามีผลตอบรับ สอบถาม และแนะนำจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้บริษัทฯ สามารถนำข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้าโดยตรงมาพัฒนา ปรับปรุงสินค้าและบริการ รวมถึงการสื่อสารต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง