สาหัสกันทั่วหน้ากับเหตุการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ หลายคนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นห่วงทั้งบ้าน ทั้งรถยนต์ที่จมน้ำกันไปแบบไม่ทันตั้งตัว วันนี้อาคเนย์ประกันภัย มาแนะนำ 4 ขั้นตอนการเคลมรถยนต์แบบง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 หรือ ชั้น 2+ ให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อรถยนต์โดนน้ำท่วม
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่ารถยนต์ของคุณมีประกันภัยหรือไม่ และเป็นประกันภัยประเภทใด ชั้น 1 ชั้น 2+ หรือชั้น 3+ คุ้มครองครอบคลุมอะไรบ้าง หากเป็นประกันภัยชั้น 1 ก็จะรวมการดูแลรถจากภัยน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ลูกเห็บ ฟ้าผ่า เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 2 แนะนำให้ ถ่ายรูปรถยนต์ที่เสียหาย เอาไว้ก่อน และหลังน้ำลดอย่าเพิ่งรีบเคลื่อนย้ายรถยนต์ด้วยตัวเอง เพราะการสตาร์ทรถโดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบระบบเครื่องยนต์โดยผู้เชี่ยวชาญอาจทำให้รถยนต์เสียหายมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 รีบแจ้งตัวแทนประกัน พร้อมแจ้งประเภทประกันภัย และพิกัดของรถที่ประสบเหตุ เข้ามาดูความเสียหายของรถยนต์ให้ไวที่สุด เพราะประกันบางแห่ง เช่น อาคเนย์ประกันภัย จะมีบริการรถยกไปยังศูนย์รถยนต์ อู่ซ่อมในเครือและคู่สัญญาที่ได้มาตรฐานให้โดยไม่ต้องห่วงว่ารถจะเสียหายเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 4 เมื่อประกันมาถึงก็เป็นเวลาแห่งการ ประเมินความเสียหาย ทั้งสภาพภายในและภายนอกรถยนต์ว่าอยู่ในระดับใด เช่น เข้าเครื่องยนต์ เข้าตัวรถ ระบบไฟฟ้ากระทบแค่ไหน เป็นต้น เพื่อวางแผนหาทางช่วยเหลือนำรถยนต์ออกจากพื้นที่น้ำท่วมให้เร็วที่สุด ลดความเสียหายของทรัพย์สิน
ขั้นตอนที่ 5 หลังจากที่ทีม Surveyor สำรวจรถยนต์จนละเอียดถี่ถ้วน ก็ได้เวลา ออกใบเคลม ให้ลูกค้า โดยใบเคลมจะมีอายุ 1 ปี แนะนำว่าหลังจากที่ได้ใบเคลมแล้วควรรีบส่งซ่อมและทำความสะอาดรถโดยเร็วที่สุด เช่น การถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์และของเหลวต่าง ๆ การปลดขั้วแบตเตอรี่และขั้วไฟฟ้าทันที แอบแนะนำอีกนิดว่าควรจะซ่อมรถกับอู่ในเครือของบริษัทที่ทำประกันภัยจะดีที่สุด เพราะช่วยให้การประสานงานและติดตามงานได้คล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น
เพียงแค่ทำประกันภัยไว้รับมือกับความเสี่ยงก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคุณได้ และควรเลือกประกันที่คุ้มครองและสามารถออกแบบได้ด้วยตัวคุณ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรขึ้นบ้างในอนาคต
*ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก อาคเนย์ประกันภัย