สยามเซ็นเตอร์ ประกาศจุดยืน DiversCity Building พร้อมเปิดแม็กเน็ตใหม่ ตอกย้ำการเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์


สยามเซ็นเตอร์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในทุกศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของ ศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ ตอกย้ำการเป็น The Ideaopolis หรือ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ประกาศความมุ่งมั่นในนโยบายด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (Diversity , Equality & Inclusion) โดยมีจุดยืนเป็น DiversCity Building สถานที่ที่เป็นศูนย์รวมคอมมูนิตี้และให้ความสำคัญต่อผู้คนที่มีความหลากหลายในทุกด้าน อาทิ เพศ เชื้อชาติ สุขภาพ อย่างเท่าเทียม พร้อมนำเสนอเทรนด์และประสบการณ์แปลกใหม่ ระดมแม็กเน็ตดึงดูดใจทั้งเหล่านักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยไฮไลท์ใหม่ล่าสุด สุดเอ็กซ์คลูซีฟในแบบ Absolute Siam


ประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building

นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า

“สยามเซ็นเตอร์ เป็นผู้นำเสนอเทรนด์ที่ก้าวล้ำไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอกย้ำการเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ วันนี้ สยามเซ็นเตอร์ จึงประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building (Diversity + City) สถานที่แห่งการส่งเสริมและสร้างคุณค่าทุกความต่าง ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม โดยเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมโดยการสนับสนุนของ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) องค์กรระดับโลกที่ดำเนินงานเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนตามหลักธรรมาภิบาลในทุกด้าน ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งสยามเซ็นเตอร์ นับเป็นศูนย์การค้าแรกในประเทศไทยที่ร่วมกับ UNDP ในการประกาศตัวเป็น DiversCity Building โดยเจตนารมย์และแนวคิดนี้จะอยู่ในทุกมิติของสยามเซ็นเตอร์ที่ลูกค้าจะสัมผัสได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ การนำเสนอแนวคิด DiversCity Building ของสยามเซ็นเตอร์ จะปรากฏอยู่ในทุกมิติสอดคล้องกับเทรนด์ของคอมมูนิตี้หลากหลายที่ไม่มีการแบ่งเพศ อายุ เชื้อชาติ รูปร่าง ฯลฯ


เปิด New Magnets แบรนด์ดังที่เข้ามาร่วมนำเสนอเทรนด์สุดล้ำ

นางณริสาห์ วิวัฒนกิจเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มงานขาย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า

“ในฐานะที่เป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ไม่หยุดนิ่งในการสรรหาและรังสรรค์ไอเดียใหม่ๆมานำเสนอแก่ผู้บริโภค เราเข้าใจความต้องการของผู้ที่อยู่ในคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจต่างกัน สยามเซ็นเตอร์จึงให้ความสำคัญในการนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์คอมมูนิตี้ที่มีอยู่หลากหลาย โดยดึงแม็กเน็ตใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากคอมมูนิตี้ ได้แก่

– KIKO Milano แฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในประเทศไทยที่สยามเซ็นเตอร์ คอมมูนิตี้ที่ชื่นชอบสินค้ากลุ่มบิวตี้

– FABLAB Multi Brand Store แหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่จะทำให้ทุกคนได้มาทดลองค้นหาสไตล์ที่เป็นของตัวเอง

– THE GUNDAM BASE THAILAND เอาใจคอมมูนิตี้คนรักและนักสะสมหุ่นกันดั้ม โดยสยามเซ็นเตอร์ ร่วมกับ บริษัท บันได นัมโค เอเชีย จำกัด และบริษัท ดรีมทอย จำกัด ร่วม Co-Create เปิด “THE GUNDAM BASE THAILAND” ออริจินัลแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้

– Vans Flagship Store สาขาแรกที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะเข้ามาร่วมในคอมมูนิตี้สำหรับกลุ่มคนรักสตรีทสไตล์และเหล่าแฟนสนีกเกอร์ใจกลางสยาม ในเดือนธันวาคม 2564 นี้

– KFC New Concept @ Siam Center ปรากฏการณ์แห่งการ Co-Create ระหว่าง KFC และ สยามเซ็นเตอร์ นำเสนอร้าน KFC รูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด Urban Digital Life เปิดต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขในเดือนธันวาคม 2564 นี้


ชูแนวคิดธุรกิจแบบ Micro Retail

นายเอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกิจกรรมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่มีชีวิตวิถีใหม่ในยุคสมัยปัจจุบัน เทรนด์ที่กำลังมาแรงในธุรกิจค้าปลีก คือ การนำเสนอรูปแบบค้าปลีกที่ตอบสนองความต้องการของคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจในเรื่องเฉพาะกลุ่ม เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างคอมมูนิตี้และสร้างประสบการณ์ได้อย่างตรงใจ สยามเซ็นเตอร์ จึงชูแนวคิดการทำธุรกิจแบบ Micro Retail เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้ามามีโอกาสนำเสนอผลงาน ขณะเดียวกันยังเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มคอมมูนิตี้ซึ่งจะมีความสนใจให้สิ่งต่างๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป โดยประเดิมคอนเซปต์แรก ด้วย K- Culture Market จับกลุ่มตลาดคอมมูนิตี้ผู้ชื่นชอบโคเรียนสไตล์ เนรมิตพื้นที่ให้เป็นโซน Korean Town ยกขบวนทั้งสินค้าแฟชั่น บิวตี้ ซาลอน สไตล์เกาหลี มารวมไว้ในที่เดียว รวมไปถึงคาเฟ่สไตล์เกาหลีที่ฮอตฮิตอยู่ในกระแส ที่ K- Culture Market ทุกอย่างจะต้องเป็นของอินเทรนด์ เป็นศูนย์รวมความเป็นสิ่งที่กำลังฮอตฮิตได้รับความนิยมสูงนำมาอยู่เป็นที่แรก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสแรกของปี 2565 ที่จะถึงนี้

สยามเซ็นเตอร์เชื่อมั่นว่า ทุกเทรนด์ที่นำเสนอ ทั้งการประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building และนำเสนอเทรนด์ที่ตอบโจทย์กลุ่มคอมมูนิตี้ต่างๆ ผ่านร้านค้าแม็กเน็ตใหม่ๆ จะมอบประสบการณ์ความเป็น Be The First และ สร้างแรงบันดาลใจ Be Inspired ให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มทราฟฟิคและกระตุ้นยอดขายให้สยามเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 ได้อย่างแน่นอน” นายเอกวิทย์กล่าว