ทุกความสำเร็จขององค์กร ล้วนมีทีมบุคลากรที่แข็งแกร่งและทุ่มเทอยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกับผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลกอย่างซัมซุงที่วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการบริหารทรัพยากรบุคคลด้วยความใส่ใจในทุกมิตินั้น คือหัวใจสำคัญของการเติบโตและขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (โรงงานศรีราชา) ได้รับการยกย่องถึงความเป็นเลิศระดับสูงสุด (Platinum) ประจำปี 2564 จาก Responsible Business Alliance (RBA) พร้อมคว้ารางวัล “Factory of Choice” เพียงหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์ในประเทศไทย นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดแก่องค์กรและบุคลากรทุกคน
ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ซัมซุงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการใส่ใจและรับผิดชอบต่อสังคม โดยการดูแลพนักงานทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม สอดคล้องตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมายแรงงานไทย และเกณฑ์ข้อกำหนดของ RBA โดยพนักงานทุกคนได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ ให้เกียรติ และโปร่งใส ในสภาพแวดล้อมการทํางานที่ปลอดภัย ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรที่โดดเด่นของซัมซุง คือการดูแลพนักงานทุกระดับเสมือนคนในครอบครัว ใส่ใจแม้รายละเอียดที่เล็กน้อย ตั้งแต่ความหลากหลายและคุณภาพของมื้ออาหารที่ดูแลโดยนักโภชนาการ ไปจนถึงการออกแบบโต๊ะดีไซน์โค้งสำหรับพนักงานที่ตั้งครรภ์เพื่อนั่งทำงานตลอดอายุครรภ์ ซึ่งสิ่งเล็กๆ เหล่านี้ได้สร้างกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้กับพนักงานทุกคน
มากกว่าสวัสดิการและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี คือการเปิดกว้างโอกาสให้บุคลากรทุกระดับสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองและเติบโตในสายอาชีพ ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยซัมซุงไม่ปิดกั้นโอกาสพร้อมสนับสนุนให้พนักงานนำประสบการณ์และ know-how ที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาสิ่งใหม่อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังส่งเสริมให้พนักงานแสดงศักยภาพ โดยการจัดฝึกอบรบและการแข่งขันทักษะในองค์กรเพื่อคัดเลือกผู้ชนะไปแข่งขันในระดับโลกเป็นประจำทุกปี นับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้แก่พนักงาน
ความเป็นเลิศด้านการ “บริหารคน” นี้ ยังได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลกอย่าง World’s Best Employers ซึ่งซัมซุงอยู่ในลำดับที่ 1 ของ “นายจ้างที่ดีที่สุดในโลก” ประจำปี 2021 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes
ไม่เพียงแต่บุคลากรกว่า 4,000 คนในองค์กรเท่านั้น แต่รางวัล Factory of Choice จาก RBA ยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่ซัมซุงมีต่อพนักงานของบริษัทคู่ค้าอีกกว่า 120 แห่งในประเทศไทยอีกด้วย เพราะทุกภาคส่วนต้องผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานเดียวกันในการปฏิบัติต่อพนักงาน ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ ซัมซุงพร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำแก่พาร์ทเนอร์อย่างเต็มกำลัง อาทิ ในช่วงวิกฤติโรคระบาด ซัมซุงได้จัดตั้งแพลทฟอร์มเพื่อแนะนำแนวทางในการปกป้องพนักงานและรับมือกับสถานการณ์ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันและประคองบริษัทรายย่อยให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ นำไปสู่การขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน (supply chain)
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้รับรางวัลประกาศความสำเร็จในธุรกิจอุตสาหกรรมมาแล้วมากมาย โดยในปี 2563 โรงงานผลิตของซัมซุงในประเทศไทยได้รับการยกย่องจาก Samsung Quality Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บริษัทการผลิตในเครือซัมซุงทั่วโลก ที่มีการบริหารจัดการและระบบควบคุมคุณภาพการผลิตที่ดีเยี่ยมตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการด้านทรัพยากร โลจิสติกส์ การเพิ่มผลผลิต ไปจนถึงการบริหารความปลอดภัย ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานพร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ในปี 2562 ซัมซุงยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม (The Prime Minister’s Best Industry Award) ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติคุณที่มอบแก่ผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความคิดริเริ่มและความวิริยะอุตสาหะ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ พร้อมกันนี้ ในปี 2561 ซัมซุงยังผ่านเกณฑ์รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 ตอกย้ำความสำเร็จในการดำเนินงานตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นเลิศในภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
กว่า 32 ปีที่ซัมซุงได้ตั้งฐานผลิตในประเทศไทย และก้าวสู่ตำแหน่งผู้ผลิตหลักของสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ทั่วโลก เบื้องหลังความสำเร็จในวันนี้ล้วนมีรากฐานมาจากการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลรับผิดชอบสังคม และวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความใส่ใจพร้อมส่งเสริมศักยภาพของพนักงานอย่างเต็มที่ เพราะซัมซุงเชื่อว่า การดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยหลักจรรยาบรรณนั้นไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในแวดวงธุรกิจโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน