สร้างสังคมแห่งการทิ้งดี เซ็นทรัลพัฒนา ดึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มด้านการจัดการขยะในศูนย์การค้า

  • เปิดตัว Drive & Drop Recycle Station ผสานเทคโนโลยีครั้งแรกในศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่แยกขยะแลกพ้อยท์ The 1 ได้ พร้อมรับสิทธิพิเศษจากพาร์ทเนอร์มากมายจับมือสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ Recycle Day เริ่มที่แรก เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ปักหมุดสาขา 2 เซ็นทรัล ศรีราชา
  • ดึง TopsSupermarket, Food Park และร้านอาหารในศูนย์การค้า ร่วมแปรรูปขยะอาหารผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำที่ใช้ในสนามบินประเทศสิงคโปร์ ด้วยเครื่อง NOW Digester จากนาว เอนด์ออฟเวสท์ นำร่องที่แรกเซ็นทรัล เวสต์เกต

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เชื่อในพลังแห่งนวัตกรรมที่มาพร้อมการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนภายใต้แผนงาน Central Pattana Journey to Zero ใน 5 ปี จับมือพันธมิตร และ สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ด้าน Waste Management เปิดตัว Central Pattana x Recycle Day : Drive & Drop Recycle Station ที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์จุดรับขยะแยกประเภทแบบไดร์ฟทรู ที่ผสานเทคโนโลยีครั้งแรกในวงการศูนย์การค้าที่สามารถแลกพ้อยท์ The 1 พร้อมส่วนลดจากพาร์ทเนอร์และร้านค้ามากมาย และเตรียมปักหมุดสาขาเปิดใหม่ เซ็นทรัล ศรีราชา โดยได้ร่วมมือกับ Recycle Day และ SCG ผสานนวัตกรรม Smart Wall ออกแบบด้วยวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดเศษวัสดุจากการก่อสร้างเพื่อตอกย้ำการเป็น Eco-Friendly & Zero Waste Shopping Mall ด้านเซ็นทรัล เวสต์เกตร่วมลดปริมาณขยะจากร้านอาหารด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดล้ำจากเครื่อง NOW Digester จาก นาว เอนด์ออฟเวสท์ ที่ใช้ในสนามบินประเทศสิงคโปร์ เพื่อแปรรูปขยะอาหารเป็นปุ๋ยอินทรีย์พร้อมเดินหน้าสานต่อทั่วประเทศ

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า“สำหรับเมกะเทรนด์ From Waste to Worth เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลกเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะ ให้ขยะมูลฝอยกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่า ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เซ็นทรัลพัฒนาเราได้มีการจัดลำดับความสำคัญให้เรื่องการจัดการขยะมาเป็นอันดับหนึ่งในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสังคม Sustainable Community ในประเทศไทย โดยจากการคำนวณและประมาณการธุรกิจศูนย์การค้าในประเทศไทยได้ร่วมกันผลิตปริมาณขยะออกมามากกว่า 500,000 ตันต่อปี ซึ่งหากขยะเหล่านั้นไม่ได้รับการแปรรูปหรือจัดการอย่างเหมาะสมก็จะส่งผลต่อสภาพแวดล้อม เราจึงตั้งเป้าที่จะจัดการลดขยะฝังกลบให้ได้ 50% ภายใน 5 ปีผ่านการคัดแยกและแปรรูปอย่างถูกวิธีในศูนย์การค้าของเรา รวมถึงขอความร่วมมือร้านค้าต่างๆ แปรรูปขยะเหลือทิ้ง และรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ลูกค้าทานอาหารให้หมดจานเพื่อลดปริมาณขยะ Food Waste ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำอสังหาฯ ด้านความยั่งยืนของไทยและระดับโลกและเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดชุมชน และ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างโลกที่น่าอยู่ หรือ Better Planet สำหรับทุกคน

ล่าสุด ด้วยหลักการ Co-creation for Better Planet เราจึงจับมือพันธมิตรและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ อย่าง Recycle Day เปิดตัว Drive & Drop Recycle Station จุดรับขยะแยกประเภทแบบไดร์ฟทรูที่ผสานเทคโนโลยีครั้งแรกในวงการศูนย์การค้าเริ่มที่แรก เซ็นทรัล อีสต์วิลล์  และ เซ็นทรัล ศรีราชาพร้อมเดินขยายแผนทั่วประเทศ โดยจุดเด่นและข้อแตกต่างของ Recycle Station ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลนั้น คือการผสานเทคโนโลยี และสร้างแรงจูงใจให้เกิดการทิ้งดี แยกขยะถูกประเภท และสามารถแลกพ้อยท์ The 1 เพื่อรับส่วนลด หรือ รับสิทธิประโยชน์มากมายจากร้านค้าในศูนย์การค้าและพาร์ทเนอร์มากมายซึ่งถือเป็นครั้งแรกในระดับ Consumers ที่ช่วยส่งเสริมค่านิยมให้กับคนไทยในการสร้างสังคมแห่งการทิ้งดีต่อไปในอนาคต ขณะเดียวกัน เราก็ได้ร่วมกับ บริษัท นาว เอนด์ออฟเวสท์ จำกัด นำร่องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการกำจัดขยะอาหารระดับโลกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต เพื่อลด Food Wasteอีกด้วย”

นายชนัมภ์ ชวนิชย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทรีไซเคิลเดย์ จำกัดเผยว่า “Recycle Day เราเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มี Business Model โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งที่มีมูลค่า การได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งมีแนวความเชื่อที่สอดคล้องกัน ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัล ศรีราชา มีทราฟฟิกที่เป็นลูกค้ากลุ่มคุณภาพ มีทราฟฟิก เฉลี่ยวันละประมาณ 30,000 – 50,000 คน ทิ่นิยมใช้พาหนะส่วนตัว และมีพฤติกรรมในการแยกขยะมาจากบ้าน แล้วมองหาจุดบริการรับขยะแยกประเภทในศูนย์การค้า ทางเราเองก็มีกลุ่มฐานลูกค้าเดิมที่ร่วมแยกขยะในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ เตรียมต่อยอดไปในจังหวัดชลบุรี คาดว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มยอดสมาชิกกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมโปรแกรมแยกขยะ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ 20,000 คน ใน 3 ปี และสร้างสังคมแห่งการทิ้งดีไปด้วยกัน”

นายพอพงษ์ ชินวัตร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท นาว เอนด์ออฟเวสท์ จำกัด อีกหนึ่งพันธมิตรทีร่วมงานกับเซ็นทรัลพัฒนา เผยว่า “เซ็นทรัล เวสต์เกต เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แบบซุปเปอร์รีจินัลมอล ที่มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ และ มีร้านอาหารจำนวนมาก ทั้งจาก Tops และ Food Park ซึ่งส่งผลต่อปริมาณขยะอินทรีย์ที่เกิดจากร้านอาหารเป็นจำนวนมาก เราจึงได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนา นำนวัตกรรมเครื่องนาวไดเจสเตอร์ (NOW Digester) มาทดลองริเริ่มใช้ในศูนย์การค้าของไทยที่นี่เป็นแห่งแรก ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้จัดการขยะในสนามบิน โรงแรมชั้นนำ และ ศูนย์การค้าระดับโลก ในประเทศสิงคโปร์ รวมถึงในประเทศนอร์เวย์ ที่ถือเป็นประเทศต้นแบบการจัดขยะของโลก โดยสามารถย่อยสลายเศษอาหารด้วยจุลินทรีย์ ได้ภายใน 24 ชั่วโมงในรูปแบบน้ำ โดยเป้าหมายในระยะเวลา 6 เดือน คาดว่าจะลดปริมาณขยะฝังกลบได้มากถึง 180,000 กิโลกรัมและเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ ทางเราพร้อมเปิดให้บริษัทห้างร้านและ หน่วยงานที่สนใจ สามารถติดต่อเข้าชมการทำงานของนวัตกรรมดังกล่าวได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อร่วมกันผลักดันการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ”

ก่อนหน้านี้เซ็นทรัลพัฒนาได้ริเริ่มโครงการด้านการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องไปกับแนวทางการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนระดับนานาชาติ หรือ UNSGDต่างๆ อาทิ แคมเปญทิ้งดี รวมถึงร่วมกับพันธมิตรอีกหลายภาคส่วนผลักดันเรื่องการแยกขยะ ให้กับภาคประชาชนสร้าง Sustainable Community สังคมแห่งการทิ้งดีร่วมกัน เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ และ เป็น Better Planet สำหรับทุกคน