เฟ้ลปส์ ดอด์จเผยแผนกลยุทธ์ปี 2565 เปิดเกมรุกธุรกิจรอบด้าน เพิ่มงบลงทุนกว่า 1,000ล้านบาท แตกไลน์การผลิตสายเคเบิลระดับแรงดันสูงพิเศษ(Extra High Voltage Cable)500 กิโลโวลต์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการขยายตัวของระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ทั่วโลก พร้อมเดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไม่น้อยกว่า 20% และตั้งเป้าการเติบโตของรายได้และส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 30%เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 2 เท่าได้ภายในปี 2569
นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า บนเส้นทางกว่า50 ปี ของการสานต่อภารกิจในการผลิตสายไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่หลากหลาย เฟ้ลปส์ ดอด์จในฐานะแบรนด์ชั้นนำที่ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกประเภทสายไฟฟ้าในตลาดผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าและเคเบิลได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตของรายได้โดยเฉลี่ยต่อปีที่เพิ่มขึ้นถึง 20%ติดต่อกันตั้งแต่พ.ศ.2560จนถึงปัจจุบัน
สายไฟฟ้าและเคเบิลของ เฟ้ลปส์ ดอด์จ ได้รับการพัฒนาให้รองรับการใช้งานทุกความต้องการ ตั้งแต่ระดับแรงดันต่ำ แรงดันปานกลาง แรงดันสูงและแรงดันสูงพิเศษ เพื่อตอบสนองในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศประกอบด้วย
- กลุ่มอุตสาหกรรม Building and Construction – สายไฟที่ใช้ในงานอาคารสูง อาคารสาธารณะ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ
- กลุ่ม Utilities and Infrastructure -สายไฟที่ใช้ในงานสาธารณูปโภค โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าการส่งจ่ายกำลังไฟบนดินและใต้ดิน
- กลุ่ม Industrial, Oil & Gas, Petrochemical – สายไฟที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไปอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุพอลิเมอร์ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
- กลุ่ม Mass Rapid and Transportation –สายไฟฟ้าที่ใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า BTS,MRT,Airport Rail Link และรถไฟความเร็วสูง
- กลุ่ม Renewable Energy–สายไฟฟ้าและสายเคเบิลสำหรับรองรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด
จากการเติบโตที่มีมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้กำหนดกลยุทธ์สานต่อกับพันธกิจหลักในการส่งมอบสายไฟฟ้าและเคเบิลคุณภาพสูงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆซึ่งเป้าหมายหลักยังคงเป็นประเทศที่มีการขยายภาคสาธารณูปโภคและโครงการขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเช่น ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยคาดการณ์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า กลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 7% ต่อปี
เพื่อตอกย้ำการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มไลน์การผลิตสายไฟฟ้าชนิดพิเศษและเสริมศักยภาพในการผลิตด้วยงบลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนจำนวน400 ล้านบาท
เพื่อยกระดับสายการผลิต Underground Cable สูงสุดถึง 500 กิโลโวลต์ซึ่งมีจุดเด่นในการใช้เทคโนโลยีการหุ้มฉนวน XLPE ซึ่งเฟ้ลปส์ ดอด์จได้นำเข้าเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลกอย่าง Nokia Mailleferจาก ประเทศฟินแลนด์ เข้ามาใช้ในระบบควบคุมกระบวนการผลิตซึ่งมีความละเอียดและแม่นยำสูงแบบ Real-Time เพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมห้องทดสอบแรงดันฟ้าผ่าสูงสุดถึง 2000 กิโลโวลต์และอีก 600 ล้านบาทเพื่อสร้างการเติบโต เพิ่มศักยภาพในการผลิต ตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษ 500 กิโลโวลต์ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป
“เราเล็งเห็นทิศทางในอนาคตของความต้องการใช้งานสายเคเบิลชนิดแรงดันสูงพิเศษนี้ทั้งในประเทศและที่มากกว่านั้นคือ “ตลาดโลก” จึงตัดสินใจศึกษาและวางแผนงานเพื่อขยายไลน์ผลิตนี้มารองรับ ซึ่งการเพิ่มไลน์การผลิตครั้งนี้ทำให้
กำลังการผลิตสายเคเบิลแรงสูงและแรงสูงพิเศษที่มีอยู่ประมาณ 80,000 เมตรต่อเดือนเพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 50%สามารถรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเฟ้ลปส์ ดอด์จจะเป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถผลิตสายเคเบิลแรงดันสูงพิเศษนี้ได้” นายกิตติศักดิ์กล่าว
ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและเคเบิลในประเทศไทยอยู่ที่ราว55,000 ล้านบาท โดยเฟ้ลปส์ ดอด์จมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ20% ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของธุรกิจแบ่งเป็นรายได้จากในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20%โดยรายได้ประมาณ50% มาจากภาคโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ ครอบคลุมกลุ่มโรงผลิตไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โรงงานทั่วไป และอาคารสูง และอีก50% ที่เหลือมาจากผู้แทนจำหน่ายทั้งที่เป็นโมเดิร์นเทรดและร้านจำหน่ายสายไฟฟ้าทั่วไป
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ประมาณ 30% และยืนส่วนแบ่งการตลาดไว้ไม่น้อยกว่า 20% โดยการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 ช่วงที่ผ่านมาสิ้นสุดไตรมาส 3/2564 (9 เดือน) บริษัทมีรายได้ 10,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดรายได้7,019 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศควบคู่กัน
“ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจตลาดและแนวโน้มการเติบโตของตลาดสายไฟฟ้าทุกประเภทอย่างแท้จริง” นายกิตติศักดิ์ กล่าวและเสริมว่า “ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการขนส่งสาธารณะในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของประชากรโลก ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเข้ามาทดแทนการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสายไฟฟ้าและเคเบิลในอนาคต”
สำหรับปี 2565บริษัทยังคงเดินหน้าสานต่อแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่น้อยกว่า 30% เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น30% และขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 50 ประเทศ จากปัจจุบันที่ส่งออกไปยัง 42 ประเทศ เพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น25-30%และเดินตาม Road Map ในเป้าหมายต่อไปเพื่อสร้างการเติบโตเพื่อให้บรรลุยอดขาย 20,000
ล้านบาท ภายในพ.ศ.2569
“เรื่องสายไฟฟ้าดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ที่จริงแล้วเป็นสิ่งใกล้ตัวที่อยู่รอบตัวเรามาก แม้จะมองไม่เห็นเพราะถูกเก็บซ่อนอยู่ในท่อ ในผนัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมองข้ามเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยไปได้ เฟ้ลปส์ ดอด์จจึงมุ่งมั่นทุ่มเทนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสายไฟระดับโลก เข้ามารองรับการใช้พลังงานของประเทศไทย สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยสร้างสรรค์และเติมเต็มโลกแห่งอนาคต สร้างชีวิตใหม่ที่ปลอดภัย เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของพวกเราทุกคน” นายกิตติศักดิ์กล่าว