บัวหลวงเวนเจอร์ส ผู้ลงทุนหลัก จับมือ กรุงศรี ฟินโนเวต ร่วมลงทุนในรอบ Series A ของ ‘PUUN Intelligent’ ฟินเทคจากฝีมือคนไทย ผู้พัฒนาโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ‘PEAK’ เล็งขยายตลาด-เพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ มั่นใจตอบโจทย์การใช้งาน ช่วยธุรกิจจัดการบัญชีแบบมืออาชีพ เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน-ต่อยอดการเติบโตสู่อนาคต
บัวหลวงเวนเจอร์ส บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกรุงเทพ ประกาศเป็นผู้ลงทุนหลัก จับมือ กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุนในเครือกรุงศรี เข้าร่วมลงทุนในรอบ Series A ให้กับ PUUN Intelligent ฟินเทคสตาร์ทอัพ สัญชาติไทย ผู้พัฒนาโปรแกรมบัญชีออนไลน์ (Cloud Accounting Platform) ที่มีนักบัญชีไทยใช้งานมากเป็นอันดับ 1 ภายใต้ชื่อ PEAK โดยมีแผนนำเงินมาลงทุนขยายตลาดและพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น
นายกฤษณ์ พันธ์รัตนมาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่ดีมาก เนื่องจากแพลตฟอร์ม PEAK เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การจัดการด้านบัญชี ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงการทำบัญชีได้อย่างเป็นมืออาชีพ จัดเก็บข้อมูลเป็นระบบ ถูกต้องและน่าเชื่อถือ แก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะ SME จำนวนมากที่มักมีข้อจำกัดเรื่องความเชี่ยวชาญในการจัดการเอกสารและบัญชีที่เป็นมาตรฐาน อันเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเหล่านั้นสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจได้มากขึ้นในอนาคต
“การเข้าสนับสนุนเงินลงทุนเพื่อร่วมพัฒนาแพลตฟอร์ม PEAK ของบัวหลวงเวนเจอร์ส จะทำให้ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SME รวมถึงลูกค้าธนาคารกรุงเทพสามารถเข้าถึงโปรแกรมบัญชีที่ดีและมีประสิทธิภาพอย่างครบวงจร ในราคาเหมาะสม มีฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถเข้าถึงโปรแกรมได้จากทุกอุปกรณ์ และจากทุกที่ ทุกเวลา ช่วยให้บริหารธุรกิจโดยมีข้อมูลแบบ Real time จึงสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ธนาคารในการนำข้อมูลทางบัญชีมาประมวลผล เพื่อพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถต่อยอดโดยร่วมมือกันทำตลาด ขยายฐานผู้ใช้งานระบบบัญชีและสินเชื่อได้พร้อมกัน เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย” นายกฤษณ์ กล่าว
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า แพลตฟอร์ม PEAK นับเป็นบริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์ชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งมีฐานลูกค้ากว่า 10,000 บริษัท โดยกรุงศรี ฟินโนเวต เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของ PEAK และโอกาสที่จะนำเทคโนโลยีและโซลูชั่นต่างๆ มาช่วยสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME ของกรุงศรี รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูล การเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งการร่วมลงทุนในครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้กรุงศรีและ PEAK ร่วมมือกันพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าทั้งของกรุงศรีและ PEAK ต่อไปในอนาคต
“เป้าหมายของกรุงศรี ฟินโนเวต คือการเป็นตัวกลางเชื่อมโยงธุรกิจสตาร์ทอัพกับธุรกิจในเครือ ผ่านการสนับสนุนและลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ทั้งระดับประเทศและในภูมิภาค เพื่อเพิ่มแนวทางพัฒนาธุรกิจในแต่ละมิติ ทั้งการลดต้นทุน การสร้างรายได้ การสร้างนวัตกรรม และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งตามแผนธุรกิจระยะกลางปี 2564 -2566 กรุงศรีจะเน้นพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นทางการเงินที่ส่งเสริม Ecosystem ให้ทั้งผู้ใช้งาน และผู้ให้บริการ รวมไปถึงคู่ค้าทางธุรกิจ มีความสะดวก คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ รวมไปถึงเติมเต็ม Startup Ecosystem ผ่านการลงทุนในธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยสตาร์ทอัพเหล่านั้นสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจของกรุงศรีผ่านการผสานความร่วมมือระหว่างกัน ขณะที่กรุงศรีจะสามารถใช้ศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายที่มีในการช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพด้วย โดยตามแผนธุรกิจระยะกลาง กรุงศรี ฟินโนเวต มุ่งเน้นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับธุรกิจรถยนต์ ธุรกิจที่อยู่อาศัย และธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก” นายแซม กล่าว
ด้าน นายภีม เพชรเกตุ ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง PUUN Intelligent ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม PEAK กล่าวถึงเป้าหมายหลังปิดดีลระดมทุนครั้งนี้ จากผู้ร่วมลงทุนทั้ง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย บัวหลวงเวนเจอร์ส กรุงศรี ฟินโนเวต กองทุนร่วมลงทุนโดยธนาคารออมสิน และเอ็มเอทวีซี ว่า บริษัทฯ มีแผนนำเงินจากการระดมทุนไปขยายตลาดและพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การเป็นผู้ช่วยที่คอยอยู่เคียงข้างทุกธุรกิจ ทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพ และ SME ให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับพันธกิจหลักที่ต้องการมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตและสร้างความสำเร็จให้ผู้ประกอบธุรกิจได้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาระบบการทำบัญชีที่ดีและมีความเป็นมืออาชีพ รวมทั้งสามารถนำข้อมูลที่จัดเก็บไว้มาใช้ประกอบการตัดสินใจ ประกอบการวางแผนกลยุทธ์ รวมไปถึงช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจ และพัฒนาเศรษฐกิจของไทย
สำหรับโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK สามารถตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย 3 ประเภท คือ กลุ่มเจ้าของธุรกิจ กลุ่มนักบัญชี และกลุ่มพันธมิตรซอฟต์แวร์ โดยมีแพ็กเกจให้เลือกใช้งานตามความต้องการของลูกค้า แบ่งเป็น 4 ระดับคือ ใช้งานฟรี, แบบ Basic (500 บาท/เดือน), แบบ Pro (700 บาท/เดือน) และแบบ Pro Plus (1,200 บาท/เดือน) ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การใช้และแพ็กเกจที่สมัคร ทั้งนี้ นับเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจจากนักบัญชีในการจัดการงานบัญชี โดยมีสำนักงานบัญชีพันธมิตรและนักบัญชีอิสระที่ใช้งานกว่า 1,000 รายทั่วประเทศ และมีนักบัญชีไทยใช้งานมากเป็นอันดับ 1 อีกด้วย
“PEAK มีเป้าหมายพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีส่วนช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการ ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้า ในปัจจุบันโปรแกรมบัญชีออนไลน์ของ PEAK สามารถบันทึกและติดตามข้อมูลรายการบัญชีต่างๆ ได้แบบ Real time และได้พัฒนาฟังก์ชั่นใช้งานให้ตอบโจทย์ลักษณะงานของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ตามวิสัยทัศน์ที่ต้องการจะช่วยให้นักบัญชีมีเวลา และช่วยให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจให้เติบโต โดยเป็นผู้ช่วยทางด้านบัญชีและการเงิน ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลธุรกิจอย่างครบถ้วน และพร้อมสนับสนุนให้ทุกธุรกิจประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายภีม กล่าว