ในยุคที่ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุค 5G โนเกียเองก็ได้เดินหน้ากรุยทางสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่อย่าง 6Gที่หลอมรวมโลกทางกายภาพดิจิทัลและมนุษย์เข้าด้วยกันเพื่อนำพาพวกเราเข้าสู่ประสบการณ์เหนือจินตนาการที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ที่ศูนย์วิจัยระดับรางวัลอย่าง Nokia Bell Labs เผยว่ามีสาขาด้านเทคโนโลยีอยู่ 6 สาขาที่จะขับเคลื่อน 6G ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง (machine learning) ย่านความถี่(spectrum bands) เครือข่ายประสาทสัมผัส (sensory networks) ระบบเครือข่ายแบบอัตโนมัติ (extreme network) สถาปัตยกรรมเครือข่ายใหม่ (new network architectures) และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
เจาะลึกลงไปถึงความพร้อมของโนเกียในการรองรับ6G นั้น มร. นิฌาน ภัทรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และเทคโนโลยี ของโนเกียกล่าวเน้นย้ำถึงวิวัฒนาการและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านเครือข่ายที่เปลี่ยนวิธีการที่เราใช้และมีประสบการณ์กับอินเตอร์เน็ต โดยเขาได้อธิบายเกี่ยวกับระบบที่จะปรับระดับขีดความสามารถของมนุษย์ (Human augmentation) และการผสานระบบดิจิทัลและกายภาพ ซึ่งเป็นสองปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันปริมาณการใช้ข้อมูลและก่อให้เกิดวิวัฒนาการด้านเครือข่ายซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือที่มากขึ้นกว่าเดิมในส่วนของผู้นำทางเทคโนโลยีทั้งหลาย
โนเกียอธิบายถึงการเชื่อมต่อ 5G ว่าช่วยให้ผู้ชมและผู้คนทั้งหลายในสนามกีฬาเชื่อมต่อกันได้ตลอดการถ่ายทอดสดไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา เทคโนโลยี5Gนำเสนอการเชื่อมต่อที่มีเวลาหน่วงต่ำและความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมันไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์ให้กับผู้ชมภายในสนามกีฬาเท่านั้นหากยังเปิดโอกาสให้กับผู้ที่รับชมอยู่ทางบ้านเสมือนได้ร่วมในกิจกรรมนั้นจริง ๆ ดังนั้น 5G จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬาที่เป็นผลสืบเนื่องจากโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลกในเรื่องของโอกาสในการสร้างรายได้
โนเกีย สาธิตให้เห็นวิธีการที่ Visual Volumetric Video-based Coding (V3C) จะเปลี่ยนรูปแบบการรับชมวิดีโอของเราไปอย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้พร้อมกับจุดรับสัญญาณหลัก (mainstream reception) สำหรับ AR และ VR ที่ไม่เพียงเอื้อให้คนสามารถชมเนื้อหาวิดีโอได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้าไปเสมือนอยู่ในเนื้อหานั้นเองด้วย สิ่งนี้จะเปลี่ยนรูปแบบประสบการณ์ในการรับชมเนื้อหาที่มองเห็นด้วยตาให้กับผู้รับชม ไม่ว่าจะเป็นรายการสตรีมมิ่ง การแข่งขันแบบถ่ายทอดสด หรือแม้แต่การชมงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ก็ตาม
รายงานข่าวกรองภัยคุกคามของโนเกีย(Nokia Threat Intelligence Report) ในปี2564ที่เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ระบุว่า ภัยคุกคามมัลแวร์แบงค์กิ้งได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้คนหันมาใช้โมบายแบงค์กิ้งบนสมาร์ตโฟนกันมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงข้อมูลที่รวบรวมจากเครือข่ายปริมาณการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ติดตามการใช้ของเครื่องสมาร์ตโฟนมากกว่า 200 ล้านเครื่องทั่วโลก ยังแสดงให้เห็นว่า 80% ของโทรจันโมบายแบงค์กิ้งที่เพิ่มขึ้นพุ่งเป้าไปที่การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อความsms ที่ปรากฏรหัสผ่านสำหรับใช้งานครั้งเดียว (OTP)
สืบเนื่องจากการเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ คอป 26 ที่จัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โนเกียได้ย้ำให้เห็นถึงพันธกิจขององค์กรที่จะใช้พลังงานที่สามารถทดแทนได้กับสถานประกอบการณ์ของโนเกียทุกแห่งภายในปี 2568ในการรณรงค์ให้สังคมโลกก้าวผ่านช่วงดิจิทัลไลเซชั่นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (net zero emissions)นั้นมร.เป็กก้าลุนด์มาร์กประธานและซีอีโอของโนเกีย อธิบายว่า 5G และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างอุตสาหกรรมอื่นๆให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น