‘บริทาเนีย’ หรือ BRI ปิดจองซื้อ IPO หลังนักลงทุนตอบรับอย่างคึกคัก เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 ธ.ค.นี้

บมจ.บริทาเนีย หรือ BRI ปิดจองซื้อหุ้น IPO ตามเป้าหมาย หลังนักลงทุนตอบรับอย่างคึกคัก เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ในปีหน้าอีก โครงการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เตรียมรุกจังหวัดในภาคอีสานเป็นครั้งแรก 

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 โดยใช้ชื่อย่อ “BRI” ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังจากได้เปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 7 – 9 และ 13  15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับจากอย่างคึกคักทั้งจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่แสดงความต้องการจองซื้อเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ถึง 10 เท่า ส่งผลให้สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายการพัฒนาโครงการ ชำระคืนเงินกู้ยืม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัดรวม โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในปี 2565 เช่น โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ นครอินทร์ มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท, โครงการบริทาเนีย อุดร – ดุษฎี มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท, โครงการบริทาเนีย ระยอง มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท เป็นต้น โดยนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ขยายทำเลพัฒนาโครงการพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมองว่าอุดรธานีเป็นจังหวัดเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและประชากรอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และบริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์อีก 13 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 17,550 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 6 โครงการ ที่ทยอยเปิดขายในช่วงไตรมาส 4/2564 รวมมูลค่าโครงการประมาณ 4,300 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและโอนกรรมสิทธิ์ในปีหน้า 

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2561 – 2563 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 515.47 ล้านบาท 1,561.01 ล้านบาท และ 2,342.09 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 113.16% และมีกำไรสุทธิ 71.65 ล้านบาท 207.14 ล้านบาท และ 348.72 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ส่วนในงวด เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 2,808.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.17จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 452.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเปิดโครงการใหม่และโครงการในปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงการบริหารจัดการและควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ 

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ  บมจ.บริทาเนีย จำนวน252,650,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 29.6 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ที่ราคาเสนอขายสุดท้าย 10.50 บาทต่อหุ้น ได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุนทุกกลุ่ม ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ BRI ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้นกว่า 2,652 ล้านบาท  

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งมาจากจุดเด่นของ บมจ.บริทาเนีย ที่มีการพัฒนาโครงการและรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา โดยนับจากปี 2560 ที่พัฒนาบ้านจัดสรร โครงการ เพิ่มเป็น 21 โครงการในปี 2564 ขณะที่รายได้รวมนับจากปี 2560 – 2563 มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 489.7% ตอกย้ำศักยภาพในการพัฒนาโครงการและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีจุดเด่นด้านการออกแบบบ้านและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนจากมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นหนึ่งในผู้นำอสังหาริมทรัพย์ เช่น การสนับสนุนด้านการจัดหาผู้รับเหมารับเหมาก่อสร้างและการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างในปริมาณมากเพื่อให้ได้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ เป็นต้น