นินจาแวน ประเทศไทย ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินเกมรุกตลาดเดลิเวอรี่ เซอร์วิสในไทย ต้อนรับปีเสือทองรุกให้บริการแบบ ไม่มีวันหยุด พร้อมเร่งหาพาร์ทเนอร์หน้าร้านเพิ่มจุดรับส่งพัสดุทั่วไทยให้ได้ 2,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มกำลังทัพฝ่ายปฏิบัติการทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ประจำคลังสินค้า คอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้า ไรเดอร์ พนักงานขนส่ง เตรียมรองรับยอดจัดส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้น หวังดันยอดจัดส่งโตได้ตามเป้าที่วางไว้
มร. เพียซ เอิง กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยหันมาซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทางนินจาแวน ประเทศไทย จึงได้เปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด เพื่อพร้อมให้บริการจัดส่งรายวันแก่ลูกค้าของเรา
เรายังคงมองหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนินจาแวนมีจุดรับส่งพัสดุกระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก จำนวน 300 แห่ง รวมถึงศูนย์กระจายสินค้า จำนวน 250 แห่ง โดยมีแผนที่จะขยายจุดรับส่งพัสดุ 2,000 แห่งและศูนย์กระจายสินค้า 450 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2565 ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเรา ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถบรรลุได้ตามเป้าที่วางไว้ได้”
นอกเหนือจากการเปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด นินจาแวนยังได้เตรียมความพร้อมเรื่องการปฏิบัติงานด้วยการเพิ่มทีมงานฝ่ายปฏิบัติการถึง 120% ดังนี้
– เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอลเซ็นเตอร์ 40%
– เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ดูแลคลังสินค้า 35%
-เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าซึ่งดูแลผู้จัดส่งเฉพาะรายให้กับธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ 40%
– เพิ่มจำนวนไรเดอร์และพนักงานขับรถ 150%
“การเปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด การเพิ่มจำนวนทีมงานฝ่ายปฏิบัติการ การเพิ่มจุดรับส่งพัสดุและศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินงานของนินจาแวน ประเทศไทยในปี 2565 ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเราในฐานะบริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการจัดส่งพัสดุไม่เพียงแต่ในประเทศไทยแต่ยังครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นินจาแวนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือลูกค้าของเราไร้ความกังวลในการจัดส่งพัสดุ และสามารถตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ” มร.เพียซ กล่าวสรุป