บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ประกาศผลการดำเนินงานปี 2564 เติบโตแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 602.1ล้านบาท เติบโตแรง 72.7% จากปีก่อน ตอกย้ำความแข็งแกร่งจากการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ปี 65 วางเป้าหมายรายได้รวม 7,250.0 ล้านบาท เติบโต 90.0% ภายใต้ยุทธศาสตร์ Growth Together เติบโตไปด้วยกัน วางแผนเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 13,400.0 ล้านบาท
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRIเปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 เป็นปีที่บริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยทำรายได้รวม 3,815.8 ล้านบาท เติบโต 62.9% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 602.1 ล้านบาท เติบโต 72.7% จากปีก่อน แม้เศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในรอบปีที่ผ่านมา และการออกมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างชั่วคราวในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถทำอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15.8% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ สะท้อนความสามารถบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยมีรายได้รวม 1,007.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 149.5 ล้านบาท
“การเติบโตของผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา มาจากการปรับกลยุทธ์เปิดตัวโครงการใหม่ การพัฒนาแบบบ้าน บริการหลังการขาย และแคมเปญส่งเสริมการขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและข้อจำกัดการเดินทาง โดยบริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ในปีที่ผ่านมาจำนวน 9 โครงการ ตลอดจนมุ่งเน้นการพัฒนาแบบบ้านและบริการให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางภายใต้แนวคิด Human Centric รวมถึงได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยเข้ามาปรับใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต”
นางศุภลักษณ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BRI กล่าวต่อว่า คาดการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบปี 2565 จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 10 – 20% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และได้รับผลบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan to Value) ให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อเต็ม 100% ของมูลค่าหลักประกัน และมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท บริษัทฯ จึงมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ที่ 7,250.0 ล้านบาท เติบโต 90.0% จากปีก่อน และยอดขาย (พรีเซล) ที่ 11,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 31.4% จากปีก่อน ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ ‘Growth Together เติบโตต่อเนื่องไปด้วย’ ทั้งการเติบโตจากการกระจายทำเลสู่จังหวัดหัวเมืองที่มีศักยภาพ ความร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาโครงการ ความร่วมมือกับซัพพลายเออร์และการให้พนักงานมีส่วนร่วมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 12 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 13,400 ล้านบาท จะรุกขยายโครงการทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ระยอง ขอนแก่นและอุดรธานี โดยไตรมาส 1/2565 เปิดโครงการแรกในย่านราชพฤกษ์ – นครอินทร์ไปแล้ว 1 โครงการ และไตรมาส 2/2565 คาดจะเปิดโครงการบริทาเนีย อมตะ – พานทอง จังหวัดชลบุรี อีก 1 โครงการ และเปิดตัวอีก
10 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายอีก 20 โครงการ ที่จะสร้างยอดขายและรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
“เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งยอดขาย (พรีเซล) และรายได้รวม จากแผนเปิดตัวโครงการใหม่และการพัฒนาแบบบ้านรวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาปรับใช้เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งเป็นเรียลดีมานด์” นางศุภลักษณ์กล่าว
Related