เปิดตัว “อินฟินิกซ์” (INFINYX) แพลตฟอร์มบริการทางการเงิน ที่เชื่อมต่อสินทรัพย์ดิจิทัลและโลกการเงินแบบดั้งเดิม ให้ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมในสินทรัพย์ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนได้อย่างง่ายดาย ไร้พรมแดนผ่านแอปพลิเคชันเดียวบนมือถือ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การจับจ่ายของคนไทยในยุค Metaverseตั้งเป้าหมายปีแรกเจาะกลุ่มลูกค้า 200,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท
นายพงศธร ธนบดีภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(DLC)ในเครือ DTGOเปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มอินฟินิกซ์ (INFINYX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่เชื่อมต่อสินทรัพย์ดิจิทัลและโลกการเงินแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมได้ทั้งโลกความเป็นจริงและโลกเสมือน และสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน INFINYX ผ่านทาง App Store, Google Play หรือเพิ่มเพื่อนใน INFINYX Line Official Account จากนั้นลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งาน พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายเมื่อฝาก ถือ และใช้จ่ายกับ INFINYX”
สำหรับ INFINYX เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2565โดย INFINYX จะเปิดตัว Utility Token(FYX)ที่ใช้ Asset Backed 100% ซึ่งสามารถใช้ได้เสมือนเงินบาท ลูกค้าของ INFINYX สามารถใช้ FYX ผ่านทางร้านค้าที่ร่วมบริการได้ทั่วโลกและใช้จ่ายผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์
“แพลตฟอร์ม INFINYX เป็นประตูระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกดิจิทัล ที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ก้าวเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงเป็นช่องทางให้ผู้ค้าได้เข้าถึงโลกการเงินรูปแบบใหม่ โดย INFINYX จะพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญของบริการทางการเงินเพื่อเร่งการเติบโตในรูปแบบบูรณาการของทั้งสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน”นายพงศธรกล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของ INFINYX คือผู้ถือบัตรเครดิตในประเทศไทย ที่มีจำนวน 25 ล้านบัญชี และผู้ถือบัตรเดบิตที่มีมากกว่า 64 ล้านบัญชี โดยคาดว่าในปีแรกจะมีผู้ใช้บริการราว 200,000 ราย และประเมินว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาท
นายปรเมษฐ์ บุญเลิศศักดิ์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่สร้างวิสัยทัศน์ บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DLC) กล่าวว่า “INFINYX ใช้เทคโนโลยี Hybrid-Chain ที่เชื่อมต่อกับบล็อกเชนหลักต่างๆ ในระบบนิเวศทั่วโลก เช่น Binance Smart Chain (BSC) หรือ Ethereum (ETH) เพื่อความโปร่งใส รวดเร็วและได้มาตราฐาน นอกจากนี้ INFINYX ได้นำระบบ Proof of Stake (PoS) มาใช้เพื่อตรวจสอบกระบวนการและธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน ซึ่งระบบPoS ได้สร้างขั้นตอนการตรวจสอบที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ และทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ถึงระดับสูงสุดของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในระบบนิเวศของ INFINYX”
“เราให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูล ความปลอดภัยของลูกค้าสูงสุด และปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อย่างเคร่งครัด และมุ่งพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ออกแบบให้ใช้งานง่าย ให้ลูกค้าทั่วไปสามารถเข้าถึงโลกการเงินดิจิทัลได้ง่ายที่สุด” นายปรเมษฐ์ กล่าวปิดท้าย
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต INFINYX จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับทั้งตลาด cryptoและตลาดการเงินแบบดั้งเดิม รวมทั้งมีแผนที่จะเปิดตัว Investment Token และ Multi-Chain เพิ่มเติม โดยร่วมมือกับพันธมิตรแถวหน้าทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับINFINYXเพิ่มเติมได้ทาง www.infinyx.com