ซีอาร์จี จับมือ ชินคันเซ็น ซูชิเข้าร่วมทุน 51% ใน เดอะฟู้ดซีเล็คชั่นกรุ๊ปจำกัดต่อยอดธุรกิจสร้างการเติบโตร่วมกัน เล็งปั้นร้าน Format ใหม่ ต่อยอดสินค้าแบบ Grab & Go รวมถึงมองโอกาสในการขยายสาขาในศูนย์การค้าคาดการณ์ 3 ปีจะมีจำนวนสาขาทั่วประเทศ 60 – 70 สาขา และสามารถสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท
ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ “ซีอาร์จี” (Mr.Nath Vongphanich, president of Central Restaurants Group Co., Ltd. (CRG)) เปิดเผยว่า ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นในบริษัท เดอะฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด (The Food Selection Group Co.,Ltd (TFSG)) ซึ่งดำเนินกิจการผลิตและจำหน่ายอาหารญี่ปุ่นและเครื่องดื่มภายใต้ชื่อทางการค้า “ชินคันเซ็น ซูชิ” (Shinkanzen Sushi) และ “เซ็นมะ ซูชิ” (Senma Sushi) ตอกย้ำกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโต ผนึกกำลังพันธมิตรกับผู้ประกอบการร้านอาหารเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพมาขยายธุรกิจโดยใช้จุดแข็งทั้ง 2 ฝ่ายสร้างการเติบโตไปด้วยกันหรือเกิด Win-Win strategy โดยบริษัทมีจุดแข็งช่วยเสริมแกร่งพันธมิตรหลายด้าน เช่น มีอีโคซิสเทมรองรับมีการดำเนินงานที่ดี แนวทางการปฏิบัติงานเป็นเลิศ ระบบหลังบ้านต่างๆ ช่วยสร้างประโยชน์และซีนเนอร์ยีด้านต้นทุน เอื้อให้การขยับขยายธุรกิจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยตัดสินใจเข้าร่วมทุน กับ เดอะฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ด้วยมองว่าแบรนด์ชินคันเซ็นซูชิมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของ ซีอาร์จี ได้ ด้วย ชินคันเซ็น ซูชิ มีจุดเด่นเป็นอาหารญี่ปุ่นที่เน้นการขายซูชิและมองว่าตลาดอาหารญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยและเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
สำหรับแผนการขยายธุรกิจบริษัทฯ เล็งขยายสาขาทั้งในร้านรูปแบบปัจจุบัน ซึ่งเป็นแบบ dine-in และการพัฒนาสินค้าในรูปแบบ grab & go รวมถึงต่อยอดร้านในรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเช่นคีออส และ คลาวด์ คิทเช่น รวมถึงมองหาโอกาสในการขยายเข้าไปในศูนย์การค้า เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี หากสถานการณ์ปกติ จะสามารถขยายสาขาได้ต่อเนื่อง และมีจำนวนสาขา 60 – 70 สาขาทั่วประเทศ
“เรามองการเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีไอเดีย คอนเซ็ปต์ร้านดี แล้วต้องการขยายธุรกิจ ซึ่งซีอาร์จีมีจุดแข็งที่สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการได้ทั้งในรูปแบบที่มาร่วมอยู่ในคลาวด์คิทเช่นของเรา และ ในรูปแบบการร่วมทุนกัน เพราะมองว่าการอยู่ร่วมกันดีกว่าอยู่คนเดียว จึงจะเห็นเราทำ M&A มากขึ้น เพราะรายย่อยเก่ง มีความสามารถ มีความถนัดหลายด้าน และเราพร้อมช่วยขยายสาขา การรวมพลังกันจึงไม่มีทางที่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง แต่เติบโตมากกว่านั้นได้”
ชนวีร์ หอมเตย และ ศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท เดอะฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด (Mr.Chanawee Homtoey and Mr.Supanus Sacharattanakul, the founder of Shinkanzen Sushi) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ชินคันเซ็น ซูชิ (Shinkanzen sushi) มีจุดเริ่มต้นเกิดจากการเปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นซูชิเล็กๆ ในย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต โดยมีแนวคิดที่อยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารญี่ปุ่นซูชิคุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋า สะอาด และมีมาตรฐาน ด้วยช่วงเวลานั้นร้านซูชิหาทานยากและราคาสูง ทำให้ชินคันเซ็น ซูชิได้รับความสนใจและไว้วางใจจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว จนเป็นแบรนด์อาหารญี่ปุ่นซูชิที่หลายๆ คนรู้จัก โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มนักเรียน – นักศึกษากลุ่มคนทำงานและกลุ่มครอบครัว
สำหรับเหตุผลที่เข้าร่วมธุรกิจกับ ซีอาร์จี เพราะเป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ระบบต่างๆ ในการบริหารร้านอาหารที่มีสาขาจำนวนมาก ซึ่งการที่ได้เข้าร่วมกับทางซีอาร์จีจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ต่อยอดธุรกิจ และสร้างโอกาสในการเติบโตขยายสาขาร่วมกันอย่างมั่งคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังคาดหวังว่าการจับมือกันในครั้งนี้จะสามารถช่วยพัฒนาระบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าว่าชินคัน เซ็นซูชิ จะขยายสาขาไปทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย และสามารถสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี