“DJI Mini 3 Pro” นิยามใหม่ของโดรนติดกล้องแบบพกพา น้ำหนักเบาไม่ถึง 249 กรัม แต่ทรงพลังขั้นสุด มาพร้อมสุดยอดฟีเจอร์ครบ ตอกย้ำความล้ำของโดรนระดับไฮเอนด์รุ่นแรกใน DJI Mini Series

DJI (ดีเจไอ) ผู้นำเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศ และกล้องระดับโลก เปิดตัว “DJI Mini 3 Pro” โดรนติดกล้องแบบพกพาน้ำหนักเบาที่ทรงพลังที่สุด ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 249 กรัม สอดคล้องกับระเบียบการบินโดรนในหลายพื้นที่และประเทศต่าง ๆ พร้อมครบครันด้วยสุดยอดฟีเจอร์ขั้นสูง อาทิ ความละเอียดขนาด 4K/60 fps การใช้งานโหมด ActiveTrack ระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางแบบสามทิศทาง และการหมุนกิมบอล 90° เพื่อถ่ายภาพแนวตั้งแบบคุณภาพสูงสำหรับโซเชียลมีเดีย และบินได้นานกว่า 30 นาที DJI Mini 3 Pro จึงตอบโจทย์ผู้ใช้งานให้สามารถบินโดรนได้อย่างสะดวกคล่องตัว พร้อมสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้จากโดรนขนาดมินิที่ทรงพลังเกินตัว

นายเฟอร์ดินาน วูลฟ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ DJI เปิดเผยว่า “จากการเปิดตัว DJI Mini Series เมื่อปี 2562 เป้าหมายของเราคือการเปิดประสบการณ์ให้ทุกคนได้เห็นโลกจากมุมมองด้านบนได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจากเรื่องราวและภาพต่าง ๆ ที่เราได้เห็นมา เราได้ค้นพบว่ากล้องถ่ายทางอากาศขนาดเล็ก เป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพทางอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง โดยในวันนี้ เราพร้อมเปิดตัว DJI Mini 3 Pro โดรนติดกล้องที่ผสมผสานทั้งความสามารถในการบินอย่างยอดเยี่ยม ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ และความคล่องตัวในการถ่ายภาพไว้ในกล้องทางอากาศที่น้ำหนักเบาพิเศษ สะดวกในการพกพา และทรงพลังที่สุด ซึ่งก้าวข้ามขีดความสามารถของโดรนติดกล้องแบบทั่วไป”

ด้วยระเบียบการบินโดรนในหลายพื้นที่และประเทศต่าง ๆ โดรนที่มีน้ำหนักไม่ถึง 250 กรัมจัดอยู่ในประเภทโดรนที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้น DJI Mini 3 Pro ซึ่งมีน้ำหนักต่ำกว่า 249 กรัม จึงเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญสำหรับเหล่า Content Creator สายนักเดินทางและนักบินโดรนมือใหม่ ที่สามารถพกพา DJI Mini 3 Pro ร่วมเดินทางเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากมินิโดรนที่ทั้งทรงพลังและปลอดภัยสู่สายตาชาวโลกได้อย่างสะดวก

นอกจากนี้ DJI Mini 3 Pro ยังเป็นสุดยอดผลงานออกแบบที่ปรับปรุงประสิทธิภาพหลายด้าน ทั้งแขนและใบพัดที่ปรับเปลี่ยนเพื่อให้การบินเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ช่วยเพิ่มระยะเวลาในการบิน และยังเป็นโดรนติดกล้องรุ่นแรกใน DJI Mini Series ที่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางแบบสามทิศทาง ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ภาพด้านหน้า ด้านหลัง และด้านล่าง โดยเซ็นเซอร์ด้านหน้าและด้านล่างมีขอบเขตการมองเห็นที่กว้างขึ้น ช่วยให้การวางแผนเส้นทางและการรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมดีอย่างไร้รอยต่อ ทั้งนี้ เซ็นเซอร์มีระบบ Advanced Pilot Assistance Systems (APAS) 4.0 ซึ่งจะตรวจหาเส้นทางที่อยู่ท่ามกลางสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติในระหว่างการบิน [[1]] นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ยังใช้งานชุด FocusTrack แบบครบวงจร ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกวัตถุที่โดรนจะเล็งไว้ภายในกึ่งกลางเฟรมโดยอัตโนมัติในระหว่างการบิน ในขณะที่ทำการวางแผนเส้นทางการบินที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติเช่นกัน ซึ่ง DJI Mini 3 Pro เป็นมินิโดรนรุ่นแรกที่รวม APAS และ FocusTrack ไว้ในตัว

DJI Mini 3 Pro มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ทั้งเซ็นเซอร์กล้อง CMOS ขนาด 1/1.3 นิ้ว มี Native ISO แบบคู่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เดิมมีเฉพาะในโรงภาพยนตร์และกล้องไมโครเดี่ยวบางรุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรูรับแสง f/1.7 และถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 48MP และวิดีโอสูงสุดที่ 4K/60fps ที่สามารถถ่ายทำคอนเทนต์คุณภาพสูงและอัปโหลดได้ง่าย กล้องจะหมุน 90 องศาเพื่อการถ่ายภาพแนวตั้งด้วย True Vertical Shooting รวมทั้งสร้างสรรค์ภาพถ่ายและวิดีโอตามจินตนาการในแนวตั้งโดยไม่ต้องซูมภาพซึ่งทำให้คุณภาพลดลง เพื่อให้รายละเอียดภาพที่สดใสที่สุด การบันทึกวิดีโอ HDR ให้คุณเลือกอัตราเฟรมได้สูงสุดถึง 30fps และ True Vertical Shooting จะหมุนกล้อง 90 องศาเพื่อถ่ายคอนเทนต์โซเชียลมีเดียคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีโปรไฟล์สีให้ใช้สำหรับการแก้ไขในแอปอย่างรวดเร็ว และ D-Cinelike สำหรับการแก้ไขได้อย่างหลากหลายมากขึ้นในภายหลัง ช่วงการซูมวิดีโอแบบดิจิทัลสูงสุดถึง 2 เท่ามีให้เลือกในแบบ 4K, 3 เท่า ในแบบ 2.7K และ 4 เท่าในแบบ Full HD นอกจากนี้ ด้วยความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน เรายังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของภาพจาก DJI Mini 3 Pro ด้วยพิกเซลขนาด 2.4μm ที่จับภาพได้ละเอียดมากขึ้น เหมาะกับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและตอนกลางคืน

แม้ DJI Mini 3 Pro จะมีน้ำหนักไม่ถึง 249 กรัม แต่สามารถบินได้นานสูงสุดถึง 34 นาที เพื่อให้สามารถเก็บภาพภูมิทัศน์และจุดหมายปลายทางได้มากขึ้นด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ เรายังสร้างประวัติศาสตร์ด้วย “Intelligent Flight Battery Plus” แบตเตอรี่สำหรับโดรนที่ช่วยให้บินได้นานสุด 47 นาที ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับโดรนที่มีขนาดเท่านี้ [[2]]  ที่สามารถทำงานควบคู่กันอย่างลงตัวกับระยะเวลาการบินที่นานขึ้น นอกจากนี้ DJI Mini 3 Pro ยังขยายระบบการส่งกำลัง O3 ซึ่งให้มุมมอง 1080p ที่คมชัดจากระยะไกลสุดถึง 12 กม.[[3]]

ทั้งนี้ DJI Mini 3 Pro สามารถใช้ร่วมกับ DJI RC รีโมทคอนโทรลน้ำหนักเบาพร้อมหน้าจอสัมผัสในตัวขนาด 5.5 นิ้ว [[4]] และแอปพลิเคชั่น DJI Fly ทำให้ผู้ใช้ไม่จําเป็นต้องต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับตัวควบคุม เพิ่มอิสระในการบังคับการบินโดรน รวมทั้งมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ครบครัน เพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้งานได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ DJI ยังได้ร่วมกับ SkyPixel ออนไลน์คอมมูนิตี้ชั้นนำระดับโลกของช่างภาพและช่างวิดีโอที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทางอากาศ ได้จัดแคมเปญพิเศษถึง 2 แคมเปญ โดยแคมเปญแรกทาง SkyPixel Product Tryout program จะเป็นผู้คัดสรรนักบินโดรนจากทั่วโลกได้ทดลองบินและถ่ายภาพด้วย DJI Mini 3 Pro เพื่อถ่ายทอดจินตนาการภาพสู่โลกกว้าง พร้อมโอกาสชิงรางวัล และแคมเปญที่สอง คือ การประกวด Mini 3 Pro Creative Content Challenge เพื่อเฟ้นหาภาพถ่ายและวิดีโอที่เยี่ยมที่สุดจากการบินโดรนจาก DJI Mini 3 Pro ชิงรางวัลพิเศษจาก DJI โดยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.skypixel.com

ด้าน นายจอห์นนี่ เลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอซูรี อินโนเวชั่น เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชม DJI Mini 3 Pro และสั่งจองล่วงหน้าได้ ซึ่งเราจะสามารถจัดส่งได้เร็วที่สุดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมนี้  ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น หลังจากการเปิดตัวทั่วโลก ที่คนไทยจะเป็นเจ้าของสุดยอดนวัตกรรมโดรนติดกล้อง DJI Mini 3 Pro นำเทรนด์เทคโนโลยีก่อนใคร”

ในประเทศไทย DJI Mini 3 Pro มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ DJI Mini 3 Pro ราคา 25,690 บาท และ DJI Mini 3 Pro พร้อม DJI RC ราคา 30,990 บาท ซึ่งผู้สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ทางช่องทางต่าง ๆ ได้แก่

  1. DJI | Hasselblad ชั้น 3 สยามพารากอนเปิดให้บริการแล้ววันนี้และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2565
  2. DJI Experience Store ชั้น 2 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
  3. DJI Experience Store ชั้น 4เซ็นทรัล พระราม 9
  4. DJI Official Online Store ทั้ง Shopee Lazada และ JD Central

Shopee : https://bit.ly/3M5LkeB

Lazada : https://bit.ly/3MaTh2g

JD : https://bit.ly/3PimRop

  1. ร้านค้าพันธมิตรที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ DJI อย่างเป็นทางการ

ลูกค้าสามารถเข้าชมข้อมูลเกี่ยวกับ DJI Mini 3 Pro ได้ที่ https://www.dji.com/dji-mini-3-pro

พลาดไม่ได้! เตรียมพบกับ DJI | Hasselblad ชั้น 3 สยามพารากอน แห่งแรกในอาเซียน สัมผัสปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ของ 2 สุดยอดแบรนด์ผู้นำด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพ ทั้ง DJI ผู้นำเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศ และ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับตำนานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักถ่ายภาพทั่วโลกและยังเป็นกล้องที่ใช้ในการบันทึกประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในการเก็บภาพรอยเท้าก้าวแรกของมนุษย์บนดวงจันทร์อีกด้วย ซึ่งภายใน DJI | Hasselblad ลูกค้าจะได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมทั้งโดรนของ DJI และกล้อง Hasselbald อย่างใกล้ชิด พร้อมยังมีการจัดแสดงผลงานภาพถ่ายที่สุดตระการตาของทั้ง 2 แบรนด์อีกด้วย โดย DJI | Hasselblad ชั้น 3 สยามพารากอนเปิดให้บริการแล้ววันนี้และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565 พร้อมด้วยกิจกรรมพิเศษและเวิร์คช็อปมากมาย

[1]APAS 4.0 ไม่สามารถใช้ได้ขณะบันทึกวิดีโอแบบ4K/48fps, 4K/50fps, 4K/60fps, 2.7K/48fps, 2.7K/50fps, 2.7K/60fps, หรือ1080p/120fps

[2]เมื่อใช้ Intelligent Flight Battery Plus น้ำหนักขณะบินขึ้นของ DJI Mini 3 Pro จะเกิน 249 กรัม เนื่องด้วยกฎหมายและข้อบังคับในท้องถิ่นที่ไม่ให้โดรนน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัมขึ้นไปขึ้นบิน Intelligent Flight Battery Plus ของ DJI Mini 3 Pro จึงไม่มีจำหน่ายในบางประเทศและภูมิภาค

[3]ข้อมูลได้รับการทดสอบภายใต้มาตรฐาน FCC ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสิ่งกีดขวางของการรบกวนโดยทั่วไป และใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้นและไม่รับประกันระยะการบินจริง ระยะการสื่อสารทางเดียวสูงสุดของ DJI Mini 3 Pro ในประเทศ/ภูมิภาคที่มีมาตรฐานต่างกัน: FCC (สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา ฮ่องกง ไต้หวัน ชิลี โคลอมเบีย เปอร์โตริโก และภูมิภาคอื่นๆ) 12 กม. SRRC (จีนแผ่นดินใหญ่), 8 ก.ม.; CE (สหราชอาณาจักร รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี โปรตุเกส สเปน สวิตเซอร์แลนด์ มาเก๊า นิวซีแลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และภูมิภาคอื่นๆ) 8 ก.ม. MIC (ญี่ปุ่น) 8 ก.ม.

[4]ขณะนี้ DJI RC สามารถใช้งานร่วมกับ DJI Mini 3 Pro ได้และจะขยายไปยังโดรนรุ่นอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต