ด้วยกลยุทธ์ความเป็นผู้นำตลาดและกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุก บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ประกาศผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอีกหนึ่งไตรมาส ด้วยปริมาณการจัดส่งพัสดุที่พุ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ พร้อมการเติบโตสูงถึง 46% ในไตรมาส 1/2565 แซงหน้าไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นไปไกล สร้างรายได้รวม 4.4 พันล้านบาท และผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น 19% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุก และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ภาพรวมตลาดยังต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันแพง อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง สถานการณ์ภาคแรงงานที่ตึงตัว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ จากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างมีวินัยของบริษัทฯ ส่งผลให้ต้นทุนขายและการให้บริการลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท หดตัว 10% จากไตรมาสก่อนหน้า
KEX รักษาสถานะทางการเงินได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่ใช้เงินกู้ยืม พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจัดส่งพัสดุได้ถึง 3 ล้านชิ้นต่อวันเพื่อเตรียมเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นที่จะมาถึง บริษัทฯ ยังคงจัดเตรียมทรัพยากรสำรองเพื่อรักษาความเป็นเลิศในการให้บริการในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ และเพื่อป้องการหยุดชะงักของการดำเนินงาน ภายใต้ความมุ่งมั่นปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในและการยกระดับแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุแบบเฉพาะของ KEX บริษัทฯ ยังคงมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรที่มีเพื่อแสวงหาโอกาสในการลดต้นทุน และจัดให้มีทรัพยากรอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ จากการนำโมเดลตัวแทนจำหน่าย (reseller model) ผ่านพันธมิตรตัวแทนประเภท 4PL (fourth-party logistics) ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการสร้างการรับรู้ของกลุ่มลูกค้าประเภทจัดส่งราคาประหยัด และส่งผลให้จุดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 31,000 แห่งทั่วไทยตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต อีกทั้งเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามที่วางแผนไว้ รวมถึงการเสริมทัพด้วยโปรเจคเรือธงซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอบริการจัดส่งพัสดุด้วยประสบการณ์ใหม่และเจาะเข้าสู่ตลาด C2C ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ธุรกิจที่ตอกย้ำกลยุทธ์การกระจายการลงทุนของบริษัทฯ ในปีนี้ ได้แก่ KERRY COOL, KERRY XL, KERRY WALLET และธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปีนี้
ในปีที่ผ่านมา ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นของ Kerry Logistics Network Ltd. โดย S.F. Holding Co., Ltd. ในส่วนของ KEX อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการดำเนินงานเต็มรูปแบบ และในอนาคตบริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมการค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไทยและจีนจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัทฯ ในการเพิ่มความครอบคลุมของธุรกิจในต่างประเทศ
“ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่ดุเดือดที่ผ่านมาในอุตสาหกรรม และสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ผู้เล่นรายอื่นมีรายได้ลดลง ในปัจจุบัน KEX ได้นำรูปแบบ Smart Pricing มาปรับใช้ ภายหลังความสำเร็จอย่างสูงกับการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุก จากแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของราคาจัดส่งเริ่มต้นของพัสดุในตลาดในไตรมาสที่ผ่านมา เราคาดว่าการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดจะผ่อนคลายลง และในระยะกลางจะเริ่มเห็นการรวมตัวของผู้เล่นในอุตสาหกรรมด้วยมาตรฐานใหม่พร้อมการบริการที่คุ้มค่า ทำให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยากขึ้น ซึ่งวิสัยทัศน์นี้สอดคล้องกับแผนธุรกิจและการเตรียมการต่าง ๆ ของบริษัทฯ เพื่อความยั่งยืนในอนาคต” นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KEX กล่าว “เรายังคงยึดมั่นดำเนินธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน และมุ่งมั่นเสริมความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในตลาดจัดส่งพัสดุด่วนของไทยต่อไป”