ในสัปดาห์นี้ก็มีข่าวใหญ่เมื่ออีคอมเมิร์ซตัวท็อปของภูมิภาคอย่าง ‘ช้อปปี้’ (Shopee) ได้มีการลดพนักงานครั้งใหญ่ โดยในประเทศไทยเองก็มีการเลิกจ้างพนักงานในส่วนของ ShopeeFood และ ShopeePay มากถึง 50% เลยทีเดียว แต่ไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่ฝั่งอเมริกาเหล่า Big Tech ก็ลดจำนวนพนักงานต่อเนื่อง ล่าสุดก็ถึงคิวของ Music Streaming ยักษ์ใหญ่อย่าง Spotify
แดเนียล เอ็ค (Daniel Ek) ซีอีโอของ สปอติฟาย (Spotify) ยืนยันว่าบริษัทจะลดปริมาณการจ้างลง 25% เนื่องจากความกลัวถึงเศรษฐกิจโลกที่อาจถดถอยมากขึ้น แม้ปัจจุบันจะยังไม่เห็นผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประเมินการเติบโตของจำนวนพนักงานในระยะเวลาอันใกล้นี้
“บริษัทจะยังคงจ้างงานและเติบโตต่อไป เราแค่จะชะลอความเร็วนั้นและระมัดระวังมากขึ้นอีกเล็กน้อยกับระดับการจ้างงานใหม่ที่แน่นอนในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า”
ย้อนไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้บริษัทเทคคอมปานีหลายรายเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งอาจทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ปัจจุบันที่การระบาดลดความรุนแรงลง ประกอบกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ดัชนี S&P 500 ร่วงลงลึกเข้าไปในพื้นที่ตลาดหมี โดยหุ้นร่วงอย่างน้อย 20% ต่ำกว่าระดับสูงสุดล่าสุด และธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่เพื่อบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ในส่วนของดัชนีหุ้น NASDAQ ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดของบริษัทเทคคอมปานีก็ร่วงลงมาเกือบ 1 ใน 3 ภายในปีเดียวเท่านั้น และแค่เดือนที่ผ่านมาก็ร่วงลงไปแล้วกว่า 7%
ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีชะลอตัวและควบคุมจำนวนพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยรวมแล้วมีการปรับลดพนักงานในบริษัทเทคคอมปานีถึง 23,000 รายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Layoffs.fyi ไม่ว่าจะเป็น Meta เจ้าของ Facebook, Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และล่าสุดก็คือ Spotify
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2021 Spotify มีพนักงานมากกว่า 6,600 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ทาง Spotify ยังไม่ออกมาให้ความคิดเห็นว่าการชะลอจ้างงานครั้งนี้จะกระทบกับตำแหน่งงานส่วนใด
