เบทาโกรจับมือ “freshket” เดินหน้าขยายเน็ตเวิร์คช่องทางการจัดจำหน่ายบนออนไลน์แพลตฟอร์ม รองรับการเติบโตของ e-commerce คัดผลิตภัณฑ์คุณภาพกว่า 100 รายการ ตอบโจทย์ความต้องการของ Food Service โดยเบทาโกร โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเบทาโกร ได้ร่วมลงทุนกว่า 115 ล้านบาท ใน “freshket” มุ่งสร้างความแข็งแกร่ง ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ตอกย้ำความมุ่งมั่น ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคาที่เป็นธรรม สู่ผู้บริโภคในทุกช่องทาง
นายชยธร แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์โควิด 19 จะชะลอความรุนแรงในการแพร่ระบาดลงแล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา ก็ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในวงกว้าง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและอีคอมเมิร์ซที่ต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งจากการประเมินการขยายตัวของตลาด e-commerce โดยบทวิเคราะห์ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2564 คาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีการขยายตัวของตลาด e-commerce เฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 3 แสนล้านบาทเป็น 7.5 แสนล้านบาทภายในปี 2568
ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางของธุรกิจ เห็นได้ชัดจากการขยายตัวของ e-commerce บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้มากขึ้น ขณะ เดียวกันก็เป็นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขึ้น โดยมีกำลังซื้อเป็นแรงผลักดันในการสร้างโอกาสการเติบโต อย่างก้าวกระโดดให้แก่ธุรกิจ
จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของการจับจ่ายผ่าน e-commerce ประกอบกับการเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต ด้วยการแสวงหา new business model ใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เบทาโกรจึงได้ผสานความร่วมมือกับ freshket เพื่อขยายเน็ตเวิร์คบน e-commerce ผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเพื่อจำหน่ายวัตถุดิบอาหารออนไลน์ที่เน้นตอบโจทย์ Food Service ได้อย่างลงตัว โดยในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเกินกว่าที่คาดหวังไว้
“ในช่วงแรกเราส่งสินค้าประเภทเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ เข้าไปลองตลาดบนแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จนถึงตอนนี้เราได้ส่งผลิตภัณฑ์แบรนด์ BETAGRO, S-Pure และ ITOHAM ขึ้นไปบน freshket ทั้งสิ้นกว่า 100 รายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์อนามัย เนื้อสัตว์แปรรูป (หมูและไก่) รวมถึงไข่ไก่ อาหารแปรรูป และผลิตภัณฑ์ไส้กรอกเกรดพรีเมียม ทั้งอาหารพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคนี้ได้อย่างลงตัว โดยมีผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ เป็นกลุ่มโปรดักส์ฮีโร่” นายชยธร กล่าว
“โดยเบทาโกรคาดว่า ความร่วมมือกับ freshket ในครั้งนี้ จะช่วยขยายดิสทริบิวชั่น เน็ตเวิร์คบนแพลตฟอร์มที่มีเสถียรภาพและโอกาสการเติบโตสูง เพื่อสนับสนุนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเบทาโกรสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการจัดจำหน่ายผ่านสาขาเบทาโกร ร้านเบทาโกรช็อป ร้านเบทาโกรเดลี่ ร้านเนื้อสัตว์อนามัย ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ในพื้นที่ภูมิภาคและเมืองหลักในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งในด้านการสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจหลักของเบทาโกร ในการสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายบน e-commerce ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ประกอบการ Food Service และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพของเรา โดยไม่มีข้อจำกัดในด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอีกต่อไป” นายชยธร กล่าว
Related