สำนักข่าว Reuters รายงานว่าตัวเลขภาคการผลิตของโรงงานญี่ปุ่นได้ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากสาเหตุสำคัญคือการขาดแคลนชิป และวัสดุในการผลิตขาดแคลน เนื่องจากปัญหาของ Supply Chain ในช่วงที่ผ่านมารวมถึงการล็อกดาวน์ในประเทศจีน
โดยตัวเลขดังกล่าวในเดือนพฤษภาคมนั้นลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน ซึ่งแย่กว่านักวิเคราะห์คาดไว้ และยังเป็นตัวเลขเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา
ตัวเลขที่ลดลงดังกล่าวตอกย้ำถึงความท้าทายของเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญในการเอาชนะปัญหา Supply Chain หยุดชะงัก ราคาวัตถุดิบ รวมถึงราคาพลังงานที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนักวิเคราะห์กล่าวว่าอาจทำให้อุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแอลง
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตรถยนต์นั้นประสบปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน รวมถึงชิป ส่งผลทำให้ยอดส่งมอบรถยนต์ลดลงอย่างมาก ซึ่งในเดือนที่ผ่านมาผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นหลายรายผลิตได้ต่ำกว่าเป้าหมายทั้งนั้น โดยโตโยต้าผลิตรถยนต์ได้ 634,940 คันทั่วโลกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 700,000 คัน
อย่างไรก็ดีอาจมีข่าวดีเล็กๆ บ้าง โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าจีนได้ผ่อนคลายในเรื่องการล็อกดาวน์ลง จึงทำให้ภาคการผลิตน่าจะมีการฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ก็ยังมีแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าวอยู่ไม่น้อย เมื่อเทียบกับภาคบริการที่น่าจะฟื้นตัวได้ดีกว่า
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) คาดว่าในเดือนมิถุนายนภาคการผลิตของญี่ปุ่นจะกลับมาฟื้นตัวแบบก้าวกระโดดถึง 12.0%
ที่มา – Reuters