มร. โอลิวิเยร์ แลงเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2555 ที่เซ็นทรัล รีเทล ได้เข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม เนื่องจากมองเห็นศั
ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุ
ชู 3 กลยุทธ์หลักของเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม สู่ 4 เป้าหมายความสำเร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า
ภายในปี 2569 เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม พร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความสำเร็จ 4 ข้อ คือ
- ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 แพลตฟอร์มออมนิแชแนลในกลุ่มฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ ของเวียดนาม
- ผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาท
- เพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออมนิแชแนลโต 2 เท่า เป็น 15%
- ขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 55 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนามจากทั้งหมด 63 จังหวัด
โดยเซ็นทรัล รีเทล ได้วาง 3 กลยุทธ์สำคัญ ตามกรอบยุทธศาสตร์ CRC Retailligence เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย
- เดินหน้าปูพรม และขยายธุรกิจหลักครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ การขยายจำนวนร้านค้าในกลุ่มฟู้ด ควบคู่ไปกับการขยายและยกระดับศูนย์การค้า GO! ให้ทันสมัย, เปิดตัวสินค้า Private Label เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับผู้บริโภค และพัฒนาโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ เป็นต้น
- พัฒนาช่องทางออมนิแชแนล สะท้อนความเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคต เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชแนลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มให้สมบูรณ์แบบ และสามารถมอบประสบการณ์ ช้อปปิ้งที่ดีที่สุด และไร้รอยต่อให้กับลูกค้า พร้อมตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออมนิแชแนลโต 2 เท่า เป็น 15%
- ต่อยอดธุรกิจโมเดลใหม่ๆ และไม่หยุดมองหาโอกาสในการเติบโต พัฒนาธุรกิจเพื่อขยายฐานผู้บริโภค และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าชาวเวียดนามในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนมุ่งหน้ามองหาโอกาส M&A เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และเพิ่มสปีดในการขยายธุรกิจ พร้อมทั้งวางประเทศเวียดนามให้เป็นแหล่งวัตถุดิบและจัดหาสินค้าให้กับธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ในประเทศไทยอีกด้วย
“ตลอด 10 ปี ของการก่อตั้งอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม เราโตอย่างก้าวกระโดด และแข็งแกร่ง อันเป็นผลลัพธ์จากการทำธุรกิจบนวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในทุกประเทศที่เราดำเนินธุรกิจ เช่นเดียวกับประเทศเวียดนามที่เซ็นทรัล รีเทล ได้ร่วมพัฒนาชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ ผ่านการจ้างงานชาวเวียดนาม และช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ ขณะเดียวกันเรายังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ และความร่วมมืออันดีระหว่างประเทศไทย และเวียดนาม รวมถึงเชื่อมการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การโปรโมตเทศกาล Thai Festival ที่ Tops market ในเวียดนาม, การจัดงาน Taste of Vietnam ในประเทศไทย และการจัดให้มี Business Matching เพื่อช่วยส่งเสริม SME ของทั้งสองประเทศให้ได้มาเจรจาธุรกิจร่วมกัน พร้อมทั้งสนับสนุนการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อวางจำหน่ายในเครือข่ายธุรกิจของทั้งสองประเทศอีกด้วย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งทำธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนในทุกด้าน อันจะเป็นหัวใจสำคัญที่ติดตามไปในทุกพื้นที่ที่ธุรกิจของเราเติบโต” มร.โอลิวิเยร์ กล่าวปิดท้าย