แม็คโครเดินหน้าเต็มที่สำหรับการขยายสาขาต่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย โดยมีกำหนดการตัดริบบิ้นทยอยเปิดหลายสาขาในปีนี้
นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร เปิดเผยว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของการเติบโตของแม็คโคร คือ การเปิดสาขาเพื่อขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ที่แม็คโครมีสาขาอยู่แล้วหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา เมียนมา อินเดีย และ จีน ซึ่งในปี 2565 ได้วางแผนขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าในแต่ละประเทศ นอกจากนี้การขยายสาขาในต่างประเทศยังเป็นโอกาสสำคัญ ในการนำพาสินค้าที่ผลิตจากเอสเอ็มอีไทย ไปขยายตลาด สร้างชื่อสร้างการเติบโต ซึ่งสินค้าไทยได้รับความนิยมจากลูกค้าในกลุ่ม CLMV เป็นอย่างมาก
“กัมพูชา ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตที่น่าสนใจ โดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง กัมพูชาได้ประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสำหรับปี 2565 เอาไว้ที่ 5.4% ซึ่งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ได้มีการเปิดประเทศและปล่อยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์และทำให้ภาคเศรษฐกิจเติบโตได้ดี ที่ผ่านมาเราเปิดสาขาไปแล้ว 2 แห่ง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย และผู้ประกอบการร้านอาหาร จนทำให้เรามองเห็นโอกาสที่จะเปิดสาขาที่ 3 ในประเทศกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ เมืองหลวง และเป็นจุดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อรองรับกำลังซื้อและการขยายตัวของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว”
สำหรับแม็คโครในต่างประเทศ จะถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเสริมการให้บริการผ่านระบบ e-commerce เชื่อมต่อธุรกิจแบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ ที่สำคัญยังเน้นย้ำความเป็น “ผู้นำอาหารสด” และศูนย์รวมวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลก ใน “ราคาขายส่ง” เพื่อผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของแม็คโคร พร้อมกันนี้ เรายังมุ่งมั่นนำพาสินค้าจากผู้ผลิตเอสเอ็มอีไทย มากกว่า 300 รายการไปเติบโตแต่ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นให้การสนับสนุนสินค้าเกษตรและผู้ผลิตรายย่อยของกัมพูชา รวมทั้งจ้างงานพนักงานท้องถิ่นกว่า 90 % เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่อีกด้วย
ในปีนี้ แม็คโครมีแผนเปิดสาขาในต่างประเทศอีกหลายแห่ง ไม่เพียงกัมพูชา แต่ยังมี อินเดีย, และจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการ คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่อง