เซ็นทรัล รีเทล ปลื้ม ไตรมาส 2 สุดสตรอง โกยรายได้ 56,826 ล้านบาท โต 23% โชว์แผนลงทุนครึ่งปีหลัง เดินหน้าขยายธุรกิจ ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “หลังจากการเปิดประเทศเมื่อไตรมาส 3 ของ ปี 2564 เซ็นทรัล รีเทล ก็ได้เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องมาตลอดจนถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ ที่ถือเป็นอีกช่วงของความท้าทาย ทั้งภาวะเงินเฟ้อ ราคาพลังงาน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาระบาดซ้ำ แต่เซ็นทรัล รีเทล ก็ยังคงยืนหยัดเดินหน้าธุรกิจอย่างมั่นคงและพร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง และ DNA ขององค์กรที่ยืดหยุ่น และปรับตัวเร็ว ในทุกสถานการณ์ รวมถึงการมีเป้าหมายที่ชัดเจนภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ทำให้การดำเนินธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวยังคงเป็นไปตามแผน และมั่นใจว่าจะสามารถปิดปี 2565 นี้ ด้วยยอดขายเติบโตทะลุเป้า 15-20% ที่วางไว้ โดยล่าสุด เซ็นทรัล รีเทล สามารถปิดตัวเลขผลประกอบการ ไตรมาสที่ 2 รายได้เติบโตอยู่ที่ 56,826 ล้านบาท (+23% YoY) EBITDA 6,912 ล้านบาท (+69% YoY) และกำไรสุทธิ 1,605 ล้านบาท(+477% YoY) โดยคิดเป็นสัดส่วนยอดขายตามกลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มฟู้ด 39% กลุ่มฮาร์ดไลน์ 36% และกลุ่มแฟชั่น 25% ส่วนยอดขายบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ยังคงเติบโตเลขสองหลัก  คิดเป็น 17% ของยอดขายรวม ทั้งนี้ยอดทราฟฟิกกลับเข้าห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือก็พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกลับมามียอดขายเทียบเท่ากับก่อนโควิด-19 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะยังไม่กลับมาเท่าเดิม

สำหรับภาพการเติบโตในระดับประเทศ จะเห็นได้ว่าเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีการเติบโตแบบ ก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ที่เซ็นทรัล รีเทล เริ่มเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนาม และในเดือนกันยายนนี้จะมีการฉลองครบรอบความสำเร็จ 10 ปีของเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ที่ปัจจุบันขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และผู้นำศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ภายใต้แบรนด์ GO! พร้อมทั้งเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม โดยจากนี้เราวางเป้าหมาย 5 ปีที่จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 แพลตฟอร์มออมนิแชแนล ในกลุ่มฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม, ผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาท, เพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออมนิแชแนลโต 2 เท่า เป็น 15% และขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 55 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนามจากทั้งหมด 63 จังหวัด โดยมีแผนงานที่จะปูพรมและขยายธุรกิจหลักครอบคลุมทั่วประเทศ อาทิ เพิ่มจำนวนร้านค้าในกลุ่มฟู้ด, ขยายและยกระดับศูนย์การค้า GO! ให้ทันสมัย และพัฒนาโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ พร้อมทั้งยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าชาวเวียดนามทุกคน

สำหรับครึ่งปีหลังของ 2565 เซ็นทรัล รีเทล มุ่งทะยานสู่การเติบโต และเดินหน้าลุยลงทุนขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ครอบคลุมทั้ง 3 ประเทศ ในทุกกลุ่มธุรกิจ ดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มฟู้ด
  • เปิดตัว Tops CLUB โมเดลธุรกิจใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย อาณาจักรที่รวบรวมสินค้านำเข้า และสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดังจากทั่วโลกกว่า 3,500 รายการ จำหน่ายเฉพาะที่นี่ที่เดียว ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ในราคาสุดพิเศษสำหรับสมาชิกเท่านั้น (Exclusive membership price) โดยร้าน Tops CLUB แฟลกชิปสโตร์ จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการสาขาแรกปลายเดือนกันยายนนี้ ย่านพระราม 2 และสามารถดาวน์โหลด Tops CLUB Application ได้แล้ววันนี้ที่ http://topsclub.app.link
  • ขยายโมเดลท็อปส์ สแตนด์อโลน เพิ่มอีก 2 สาขา หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาพัฒนาการ 30 และท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ สาขาสุขุมวิท 3
  • ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Urban Supermarket ในเวียดนาม ด้วยการเปิดท็อปส์ มาร์เก็ตเพิ่ม 2 สาขาในนครโฮจิมินห์ และเปิด go! Supermarket เพิ่ม 2 สาขา ได้แก่ สาขา Baria และ Binh Duong ทำให้ในปี 2565 ทั้งประเทศเวียดนาม จะมีท็อปส์ มาร์เก็ต 10 สาขา และ go! Supermarket 4 สาขา

2.  กลุ่มแฟชั่น

·    เปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสันเพิ่ม 2 สาขา ได้แก่ ถลาง (เปิด 25 สิงหาคม) และราชพฤกษ์ (เปิดเดือนตุลาคม) ทำให้ปี 2565 นี้ มีห้างสรรพสินค้าโรบินสันทั้งหมด 51 สาขา

·    รีโนเวทห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ได้แก่ พระราม ลาดพร้าว ชิดลม และรามอินทรา

·    รีโนเวทห้างรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี สาขา ได้แก่ มิลาน และโรม ฟิอูเม

3.  กลุ่มฮาร์ดไลน์ เปิดไทวัสดุ และไทวัสดุ บีเอ็นบีโฮม ไฮบริด ฟอร์แมท เพิ่ม สาขา อาทิ สาขา บางแสนน่านบางบอน ทำให้ปี 2565 นี้ มีไทวัสดุทั้งหมด 67 สาขา

4.  กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้

·     เปิดศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพิ่ม 2 สาขา ได้แก่ ถลาง (เปิด 25 สิงหาคม) และราชพฤกษ์ (เปิดเดือนตุลาคม) ทำให้ปี 2565 นี้ จะมีศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ทั้งประเทศรวม 27 สาขา

·     เปิดตัว go! ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งมอลล์ รูปแบบใหม่ในต่างจังหวัด ครั้งแรกในประเทศไทย เป็นศูนย์การค้าสำหรับทุกคนในครอบครัว และตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย โดยในศูนย์ฯ ประกอบไปด้วย ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่นำเสนอสินค้าคุณภาพดี ทันสมัย ในราคาย่อมเยา ครอบคลุมตั้งแต่เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าเกี่ยวกับความงาม สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารสด, & Joy ร้านอาหารนานาชาติ และสถานที่แฮงค์เอาท์แห่งใหม่ ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ รสชาติอร่อย และคุณภาพเกินราคา, Sunday สนามเด็กเล่นในร่มที่ใหญ่ และมีเครื่องเล่นมากที่สุดในอำเภอ ให้เด็กๆ ได้โลดแล่นไปกับจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด, go! Wow วาไรตี้สโตร์ จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด ของใช้ภายในบ้าน และของใช้ในชีวิตประจำวัน และ go! Power ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ผ่อนน้อย อนุมัติไว โดยศูนย์การค้า go! จะเปิดสาขาแรกในเดือนสิงหาคมนี้ และตั้งเป้าเปิดรวมทั้งหมด สาขาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในสิ้นปี 2565

จากความสำเร็จในครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนและทำได้จริง โดยเส้นทางสู่การเติบโตต่อจากนี้จะเป็นการสานต่อในสิ่งที่เริ่มไว้อย่างเข้มข้นและจริงจังมากขึ้น แม้ว่าสถานการณ์ภาพรวมในครึ่งปีหลังจะยังมองเห็นมรสุมและแรงกดดันอีกหลายระลอก แต่เรายังมั่นใจว่า จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ ด้วยศักยภาพในการบริหารจัดการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพ การลงทุนอย่างระมัดระวัง เน้นต่อยอดธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมีอัตราการเติบโตสูง การปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และการมองหาโอกาสในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ เพื่อสร้าง Inclusive Growth ร่วมกัน ทั้งหมดนี้ทำให้เราพร้อมที่จะรับมือและเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคต และปิดปี 2565 นี้ ด้วยยอดขายเติบโต ทะลุเป้า 15-20% ที่วางไว้” นายญนน์ กล่าวปิดท้าย