- จากการรวบรวมข้อมูลจากนักกีฬาระดับโลกมาเป็นเวลา 18 ปี มาออกแบบพื้นรองเท้า 4D กว่า 5 ล้านรูปแบบ จนได้ออกมาเป็นรองเท้าวิ่งแห่งอนาคต “4DFWD รุ่นใหม่”
- นับเป็นรองเท้าวิ่งคู่แรกที่มีพื้นรองเท้าชั้นกลางเป็นโครงตาข่ายรูปหูกระต่าย ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนแรงกดในแนวดิ่งเป็นแรงส่งให้นักวิ่งพุ่งทะยานไปข้างหน้า
อาดิดาส เปิดตัวรองเท้าวิ่ง 4DFWD รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบขึ้นมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนให้นักวิ่งพุ่งทะยานไปข้างหน้า ถือเป็นก้าวสำคัญของอาดิดาสในการเดินหน้าสู่อนาคตที่มีการใช้นวัตกรรมที่ล้ำสมัยที่สุดของอาดิดาสในการพิชิตอุปสรรคที่ขวางกั้นระหว่างนักวิ่งและการบรรลุศักยภาพสูงสุด
รองเท้าวิ่ง 4DFWD ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเปลี่ยนแรงกดในแนวดิ่งให้เป็นแรงส่งให้นักวิ่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยการใช้พื้นรองเท้าชั้นกลางที่มีลักษณะเป็นโครงตาข่ายรูปหูกระต่าย ซึ่งถือเป็นรองเท้าวิ่งคู่แรกของโลกที่มีการใช้พื้นรองเท้าชั้นกลางในรูปแบบนี้
เบื้องหลังความสำเร็จในการคิดค้นรองเท้าวิ่งที่มีนวัตกรรมที่ล้ำสมัยที่สุดนั้นเกิดขึ้นจากการที่อาดิดาส ประมวลผลพื้นรองเท้าที่มีลักษณะเป็นโครงตาข่ายกว่า 5 ล้านรูปแบบ ประกอบกับการใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากนักกีฬาระดับโลกมาเป็นเวลา 18 ปี เพื่อออกแบบโครงสร้างตาข่ายที่จะสามารถพลิกโฉมวงการวิ่ง โดยในการพัฒนาพื้นรองเท้า 4D อาดิดาสได้ร่วมมือกับ Carbon พาร์ทเนอร์ด้านนวัตกรรมระดับโลกในการใช้เทคโนโลยี Digital Light Synthesis ที่ขึ้นรูปพื้นรองเท้าแบบ 3 มิติได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้สำเร็จในที่สุด
แอนเน็ต (เปโก) โฮซอย, นีล ปาปาราโด และ เจน ปาปาราโด ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกลแห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) กล่าวว่า “ทุกๆ ครั้งที่มนุษย์วิ่งไปข้างหน้านั้นจะเกิดแรงหยุดเล็กน้อยในทุกจังหวะที่เท้าของเราสัมผัสกับพื้นระหว่างการวิ่ง นี่คือสิ่งที่นักวิ่งทุกระดับต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทาง MIT Sports Lab เองก็กำลังคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือรองเท้าวิ่ง 4DFWD รุ่นใหม่คู่นี้นั่นเอง”
ชาร์ล็อต เฮดมันน์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของอาดิดาส กล่าวว่า “อาดิดาส มุ่งมั่นมองหาวิธีการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลมาผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่งอยู่เสมอ สำหรับรองเท้าวิ่ง 4DFWD รุ่นใหม่รุ่นนี้ก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่ไม่มีทางเป็นไปได้และท้าทายกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์หลายประการ โดยมีประสิทธิภาพเฉพาะตัวในการขับเคลื่อนผู้สวมใส่ให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า ด้วยการเปลี่ยนแรงกดในแนวดิ่งที่เกิดขึ้นในทุกจังหวะก้าวให้เป็นแรงส่งไปข้างหน้าได้อย่างไหลลื่นจนเกิดเป็นประสบการณ์การวิ่งแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน”
รองเท้า 4DFWD รุ่นใหม่ประกอบด้วยเทคโนโลยีอันโดดเด่นดังต่อไปนี้
- CONTINENTAL™ OUTSOLE INTRODUCED – พื้นรองเท้าชั้นนอก Continental™ รุ่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการยึดเกาะ ช่วยทำให้เกิดความมั่นใจในการวิ่งในทุกสภาพอากาศ
- ALL-NEW PRIMEKNIT+ & ENGINEERED MESH UPPER – วัสดุ Primeknit+ แบบใหม่และโครงสร้างตัวรองเท้าที่ทำจากผ้าตาข่าย ซึ่งมีการเน้นตรงจุดที่นักวิ่งต้องการการซัพพอร์ทเป็นพิเศษ บวกกับบริเวณส้นรองเท้าที่มีการบุเพิ่มช่วยเสริมความกระชับให้มากขึ้น
- ความรู้สึกสบายอย่างสมบูรณ์แบบ – พื้นรองเท้า 4DFWD ช่วยรองรับแรงกระแทกได้มากกว่าพื้น 4D ถึง 23% (เมื่อเทียบกับ 4D Run 1.0)
รองเท้าวิ่ง 4DFWD และ 4DFWD PULSE รุ่นใหม่ จะวางจำหน่ายในราคา 7,300 บาท และ 6,200 บาท (ตามลำดับ) ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2565 เป็นต้นไป ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th , LINE: @adidasthailand, อาริ รันนิง, แอทมอส, คาร์นิวาล, เจดี สปอร์ต, ซูเปอร์สปอร์ต และ ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก adiClub สามารถเป็นเจ้าของ 4DFWD และ 4DFWD Pulse รุ่นใหม่ได้ก่อนใครในระหว่างวันที่ 6-7 กันยายน 2565 พร้อมสะสมแต้มเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมและเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษจากอาดิดาส สมัครสมาชิก adiClub ได้ที่ https://bit.ly/-adiclubTH หรือติดต่อพนักงานประจำร้าน adidas ทั่วประเทศ
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่