เบลนเดต้า (Blendata) บริษัทด้าน Deep Technology ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการBig Data อัจฉริยะ ผนึกกำลังความร่วมมือกับ Esri Thailand ผู้นำด้านระบบเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (Geographic Information System) หรือ “GIS” มุ่งเป้าพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และผลักดันความสามารถของบุคลากรด้าน Big data และ GIS ผสานเทคโนโลยี Big data เข้ากับ ArcGIS ดึงจุดเด่นสองเทคโนโลยีเสริมความแข็งแกร่งด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เชิงพื้นที่ (Spatial big data analytics) เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อภาคประชาชน จนถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน
นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด บริษัทด้านเทคโนโลยีขั้นสูง Deep Technology ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการBig Data อัจฉริยะ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน Big data เป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลักที่องค์กรทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและลงทุนในการนำ Big data มาประยุกต์ใช้ในหลากหลายด้าน ในด้านการวิเคราะห์เชิงพื้นที่และภูมิศาสตร์เองนั้น องค์กรหลายแห่งต่างก็มีความต้องการนำเทคโนโลยี Big data มาใช้ประกอบการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial big data analytics) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการตัดสินใจและการวางแผนในด้านต่าง ๆ ซึ่งเห็นได้ว่ามีปริมาณความต้องการการใช้งานโซลูชันดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา
Blendata จึงได้ผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญกับ บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยี GIS และ Location Intelligence โดยได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาโซลูชันและบริการใหม่ ตลอดจนการพัฒนาสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Big data และ GIS ผ่านผลิตภัณฑ์ของทั้งสองบริษัท นำร่องโดยผลิตภัณฑ์หลัก Blendata Enterprise แพลตฟอร์มบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และ ArcGIS หนึ่งในระบบแผนที่และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ชั้นนำของโลกจาก Esri ตอบสนองความต้องการของตลาดและเทรนด์เทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน
โดยผลิตภัณฑ์และบริการที่พัฒนาร่วมกันนั้น ถูกออกแบบขึ้นให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เชิงพื้นที่ (Spatial big data analytics) โดยการผสานเทคโนโลยี Big data เข้ากับ ArcGIS ด้วยแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise ที่มีจุดเด่นด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ประสิทธิภาพสูง ตั้งแต่การนำเข้าหรือเชื่อมต่อข้อมูลในทุกรูปแบบนอกเหนือจากข้อมูลเชิงพื้นที่ การจัดการ ประมวลผล วิเคราะห์ รวมถึงการนำข้อมูลไปต่อยอดใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด สามารถบริหารจัดการข้อมูลได้ในแพลตฟอร์มเดียว ผสานกับความสามารถของเทคโนโลยี ArcGISที่มีจุดเด่นในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ด้วยการใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และแสดงผลลัพธ์การวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบ Visualization, Dashboard หรือ Report ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เชิงพื้นที่ (Spatial big data analytics) ได้แบบ End-to-end ทั้งข้อมูล Location และ Non-Locationครอบคลุมครบวงจรในที่เดียว นายณัฐนภัส กล่าว
ด้าน นางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิศาสตร์สารสนเทศในมุมมองใหม่ จากความเชี่ยวชาญในการพัฒนา ArcGIS ซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก กล่าวว่า ทาง Esri Thailand ได้เลือกและเป็นพาร์ทเนอร์กับ Blendata ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีการใช้เทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน มีความสามารถในการประมวลผล อย่างรวดเร็ว มีเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการ และใช้งานได้อย่างง่าย โดยที่เราได้มีการ Integrate ArcGIS Technology เข้ากับ Blendata Enterprise เป็น Completed Big Data Platform ที่ลูกค้าสามารถวิเคราะห์ ข้อมูล Big data ได้ทั้งข้อมูลแบบ Locationและ Non-Location บน Platform เดียว
ซึ่งหากนำทั้งสองอย่างมาใช้ร่วมกัน ย่อมทำให้เกิดประโยชน์อย่างมาก ทั้งกับภาคประชาชนทั่วไป ไปจนถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ซอฟแวร์ AcrGIS ของ Esri ก็มีโซลูชันหลากหลาย ที่พร้อมนำ Big data มาทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Things (IoT) และ real-time ที่สามารถเชื่อมต่อเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ต่าง ๆ มาประมวลและแสดงผลบนรูปแบบแผนที่, Digital Twin หรือเทคโนโลยีคู่แฝดดิจิทัล ที่นำข้อมูลเชิงกายภาพมาสร้างแบบจำลองสามมิติ และเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยมีตัวอย่างการใช้งาน GIS ร่วมกับ Big data ได้อย่างหลากหลาย เช่น การบริหารจัดการจราจร ที่นำข้อมูลรถยนต์บนท้องถนนจำนวนมากมาวิเคราะห์จุดเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาจราจร การบริหารจัดการไฟฟ้า โดยนำมาใช้ในการมอนิเตอร์สถานะของโครงข่ายระบบไฟฟ้าในกรณีเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เพื่อให้สามารถจ่ายไฟกลับคืนได้อย่างรวดเร็ว การนำข้อมูล Social Media มาช่วยในการพัฒนาแผนการตลาด หรือการหาทำเลศักยภาพในการเปิด-ปิดสาขา ที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายสำหรับธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น นางสาวธนพร กล่าว
นอกจากนี้ ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทยังรวมไปถึงการให้บริการ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญเชิงลึกทั้งในด้าน Big data และ GIS ที่พร้อมให้บริการลูกค้าองค์กรธุรกิจ ตอบสนองความต้องการของตลาดและเทรนด์เทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน และความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มทักษะและผลักดันบุคลากรของทั้งสองบริษัทให้แข็งแกร่งมากขึ้น ตอกย้ำเป้าหมายของ Blendata ในการสร้าง Ecosystem ด้าน Big data แบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการด้าน Big data ในทุกด้านและทุกกลุ่มธุรกิจ นายณัฐนภัส กล่าวเสริม