Forbes China จัดอันดับให้เสียวหมี่เป็นหนึ่
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่
เกณฑ์การคัดเลือกของ Forbes China สำหรับการจัดอันดับ ESG 50 นั้นอิงตามเป้าหมายการพัฒนาที่
เสียวหมี่มองว่าการจัดการ ESG เป็นพื้นฐานของกลยุทธ์องค์
เสียวหมี่ได้ลดการใช้ทรั
ตัวอย่างของวิธีที่เสียวหมี่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีดังนี้ สมาร์ทโฟน Xiaomi 12 series มีฝาปิดด้านหลังที่ทำจาก BASF Haptex® ซึ่งเป็นวัสดุโพลียูรีเทน (PU) ที่ไม่มีตัวทำละลายคาร์บอนต่ำซึ่งใช้พลังงานน้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์ และใช้น้ำน้อยลง 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับวัสดุสังเคราะห์ที่เป็นหนัง นอกจากนี้ยังใช้พาเลทน้ำหนักเบาสำหรับการจัดส่งสมาร์ทโฟนไปต่างประเทศในทุกปีและสามารถช่วยประหยัดเชื้อเพลิงการบินไปได้มากถึง 460 เมตริกตันหรือ CO2e ไปถึง 1,423 เมตริกตัน เสียวหมี่ยังรีไซเคิลสมาร์ทโฟนมากกว่า 650,000 เครื่องในปี 2564 โดยสามารถนำขายต่อได้มากถึง 80 – 90%
เมื่อพูดถึงปัจจัยด้านสังคมของ ESG เสียวหมี่ได้สร้างโครงสร้างการกำกับดูแลที่ครอบคลุมเพื่อปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เสียวหมี่ได้จัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวขึ้นในปี 2557 เสียวหมี่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (General Data Protection Regulation, GDPR) ของการประเมินการปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรปในปี 2561 และยังคงส่งให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกตรวจสอบการปกป้องข้อมูลและหลักปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ในปีที่แล้วเสียวหมี่ได้ทำการเผยแพร่รายงานความโปร่งใสเป็นฉบับแรกซึ่งทำให้เสียวหมี่กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แบรนด์แรกที่ทำเช่นนี้ ในปีนี้เสียวหมี่ได้รับใบรับรองการลงทะเบียนของ NIST CSF (National Institute of Standards and Technology, Cybersecurity Framework: สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ กรอบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์) ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลอีกด้วย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ESG ของเสียวหมี่ ได้ที่ https://ir.mi.com/environmental-social-governance