บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3/2565 (1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565) มีรายได้ 3,369 ล้านบาท เติบโต 29.5% กำไรสุทธิ 358 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งสูงถึง 120.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เตรียมความพร้อมทุกแพลตฟอร์ม ปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสถานการณ์และตอบ Insight ผู้บริโภค พร้อมสร้างการเติบโตทั้งยอดขายและกำไร
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2565 (1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565) ว่า “บริษัทมีรายได้จำนวน 3,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 767 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,957 ล้านบาท เติบโต 7.8% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,412 ล้านบาท เติบโต 79.4% ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 196 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 120.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน”
“ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มในประเทศเริ่มสดใส หลังเปิดประเทศและรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากต้นทุนสินค้าและค่าครองชีพที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับสถานการณ์และ Consumer Insight ใหม่ ๆ ได้ทัน พร้อมดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” กรรมการผู้จัดการ บมจ. โออิชิ กรุ๊ป กล่าว
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘โออิชิ กรีนที ฮันนี่ เลมอน น้ำตาล 0%’ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงได้รับความสนใจและการตอบรับอย่างสูงจากผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ประกอบกับการต่อยอดความสำเร็จแคมเปญ ‘ดาบพิฆาตอสูร’ ซีซั่นแรกที่ได้รับกระแสตอบรับดีมากจากผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงสร้างสรรค์ซีซั่น 2 ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ลวดลายใหม่ของดาบพิฆาตอสูรในผลิตภัณฑ์ขนาด 350 มล. และ 380 มล. พร้อมทำกิจกรรมโปรโมทยังโรงเรียนต่างๆ ในช่วงเวลาเปิดภาคเรียน ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตมาจากการกลับมาเปิดให้บริการตามปกติของธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่องทางบริการรับประทานอาหารที่ร้าน (Dine-in) ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบ “บริการส่งตรงถึงบ้าน” (Home Delivery) ยังคงได้รับความนิยมและสร้างยอดขายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนั้นยังเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจร้านอาหาร เปิดร้านอาหารรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจานด่วน “โออิชิ บิซโทโระ” (Oishi Biztoro)
ที่เน้นขยายสาขาออกไปอยู่นอกห้าง เพื่อเข้าถึงง่าย สะดวกสบาย และให้ความคุ้มค่า รวมทั้งร้านอาหารแบบ A-la-carte ในรูปแบบชาบูสไตล์ญี่ปุ่น อย่าง ‘ร้าน ชาบู บาย โออิชิ’ (Shabu by Oishi) ด้านผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงพร้อมทานเร่งเครื่องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์เรดี้มีลและกลุ่มซอสปรุงรสบรรจุขวด พร้อมลุยทุกช่องทางการขาย ทั้งร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่งผลให้เติบโตในช่องทางร้านค้าสมัยใหม่ พร้อมผลักดันการขายเกี๊ยวซ่าและแซนวิช จาก โออิชิ อีทโตะ (Oishi Eato) เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศ” นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กล่าวปิดท้าย
สำหรับผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (1 ตุลาคม 2564 – 30 มิถุนายน 2565) บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,362 ล้านบาท เติบโตเป็นจำนวน 1,724 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.6% จาก 9 เดือนแรกของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 5,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 689 ล้านบาท หรือ 14.6% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 3,962 บาท เพิ่มขึ้น 1,035 ล้านบาท หรือ 35.4% ส่วนกำไรสุทธิรวม 1,011 ล้านบาท สูงขึ้นกว่า 485 ล้านบาท หรือ 92% จาก 9 เดือนแรกของปีก่อนจากทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและธุรกิจอาหาร
“โออิชิ กรุ๊ป” ตอกย้ำจุดยืน เดินหน้าขับเคลื่อนโออิชิสู่เป้าหมาย Passion 2025 ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และก้าวแกร่งกว่าเดิม