MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) องค์กรชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้บุกเบิกนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของทุกชีวิต ประกาศเปิดตัวแบรนด์ Whizdom COEX (วิสซ์ดอม โคเอ็กซ์) อย่างเป็นทางการ ชูแนวคิดพื้นที่เจนใหม่ที่ตอบสนองทุกด้านของชีวิตให้อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง และเอนจอยไปกับการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้ในพื้นที่แห่งนี้
นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ-วิสซ์ดอม โดย MQDC กล่าวว่า “Whizdom COEX คือแนวคิดการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่สะท้อนดีเอ็นเอของแบรนด์ Whizdom ซึ่งมุ่งสร้างสรรค์และพัฒนาอีโคซิสเต็ม เพื่อเต็มเติมเต็มวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ (Next Generation Living) อย่างครบวงจร จากการศึกษาวิถีชีวิตและเทรนด์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยเจนใหม่อย่างลึกซึ้ง ทำให้เราพบว่าสิ่งที่พวกเขามองหานั้นไม่เพียงแต่เป็นที่พักอาศัยที่สะดวกสบายเท่านั้น แต่คือพื้นที่ที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังต้องสามารถสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ จึงกลายเป็นโจทย์ให้เราต้องพลิกบทบาทของที่อยู่อาศัยแบบเดิมให้กลายเป็นพื้นที่ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตทุกด้านได้ด้วย ทั้งการทำงาน การเรียน ไปจนถึงกิจกรรมความบันเทิงและไลฟ์สไตล์อื่นๆ ล้วนต้องสามารถเกิดขึ้นพร้อมกันบนพื้นที่แห่งนี้ได้ Whizdom COEX จึงเป็นคอนเซ็ปต์โครงการที่อยู่อาศัยแนวใหม่ที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความต้องการของคนเจนใหม่ได้ครบจบในที่เดียว”
Whizdom COEX สะท้อนการออกแบบพื้นที่เจนใหม่ (Smart New Generation Space) โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากแนวคิด ‘Enjoyable Coexistence’ หรือการออกแบบพื้นที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสนุกไปกับการใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง (Co-live) เต็มที่กับงานที่ทำ (Co-work) ไม่หยุดเรียนรู้ (Co-learn) และเอนจอยไปกับทุกๆ กิจกรรมร่วมกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด (Co-play) ผ่านนวัตกรรมการดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนเจนใหม่ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักอาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ล้วนถูกออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งคอนเซ็ปต์ดังกล่าวนี้จะถูกนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลต่างๆ ภายใต้แบรนด์ Whizdom COEX ต่อไปในอนาคต โดยสะท้อนผ่านแนวคิดการออกแบบ 4 ด้าน ได้แก่ การผสานเทคโนโลยีดิจิทัล (Digitalization) การสร้างพื้นที่สีเขียว (Naturalization) การเชื่อมต่อประสบการณ์ทุกด้าน (Experience) และการออกแบบที่พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง (Adaptability)
Digitalization – ผสานเทคโนโลยีดิจิทัล
ภายในโครงการของ Whizdom COEX นั้นได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการดีไซน์เข้ามาผสมผสานเพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายและตอบรับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน นำโดย Smart Living ที่ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ เช่น Smart Locker รักษาความปลอดภัยให้ของชิ้นสำคัญ หรือ Smart Storage พื้นที่สำหรับเก็บของเพิ่มเติมสำหรับสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ไปจนถึงระบบ Home Automation ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ อาคารของโครงการ Whizdom COEX ยังออกแบบให้เป็น Smart Building ที่ติดตั้ง Central Utilities Plant (CUP) หรือนวัตกรรมระบบปรับอากาศที่ทำความเย็นผ่านท่อน้ำเย็น ช่วยลดอุณหภูมิและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงระบบจอดรถอัตโนมัติ (Automatic Parking) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการ
Naturalization – สร้างพื้นที่สีเขียว
นอกจากนี้ Whizdom COEX ยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์เข้ากับพื้นที่สีเขียว ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีจากธรรมชาติบำบัด การสร้างพื้นที่สีเขียวภายในโครงการนั้นยังรวมถึง Pocket Garden ที่กระจายตัวอยู่ทุกที่ ทั้งบริเวณที่พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลาง และภายนอกอาคาร อีกทั้ง Whizdom COEX ยังตอกย้ำ ‘มาตรฐานวิสซ์ดอม’ ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยตั้งแต่เดินเข้าโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Sound Absorption ลดมลภาวะทางเสียง และ Air Filtration เพื่อลดมลภาวะทางอากาศโดยรอบโครงการ และยังรวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดปริมาณการใช้น้ำของทั้งโครงการ
Experience – เชื่อมต่อประสบการณ์ทุกด้าน
อีกหนึ่งจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Whizdom COEX คือ ‘COEX Space’ หรือพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดโอกาสให้ทั้งสมาชิกวิสซ์ดอมและผู้คนในชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน พื้นที่แห่งนี้ก็สามารถตอบโจทย์ Seamless Life Experience ที่คนเจนใหม่มองหาได้อย่างครบวงจร โดยใน COEX Space ประกอบไปด้วยโซนต่างๆ ได้แก่ CO-Café คาเฟ่และร้านอาหารที่เติมพลังด้วยอาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟและเมนูที่หลากหลายไว้คอยต้อนรับสำหรับการนั่งทำงานตลอดทั้งวัน CO-Play & Creation Space หรือ Smart Co-working Space ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายได้ ทั้งกิจกรรมเวิร์คช็อป การประชุม หรือการทำงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไปจนถึงการจัดอีเวนต์ รวมถึง CO-Kitchen & Dining ซึ่งเป็นโซนที่รวบรวมร้านอาหารต่างๆ สามารถใช้พบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในบรรยากาศที่เป็นกันเองและผ่อนคลายได้ นอกจากนี้ ภายใน COEX Space ยังมี CO-Active & Digital Lifestyle หรือพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายพร้อมกิจกรรมและอุปกรณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือสนุกกับกลุ่มเพื่อนก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง
Adaptability – พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง
ทุกรายละเอียดภายในโครงการของแบรนด์ Whizdom COEX ได้ถูกคิดค้นและออกแบบให้ตอบสนองวิถีชีวิตยุคใหม่และตอบรับความต้องการที่แตกต่าง ในขณะเดียวกัน ยังคำนึงถึงการดีไซน์ที่พร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต อาทิ การออกแบบโครงสร้างอาคารที่มาพร้อมโซลูชันป้องกันน้ำท่วม (Flood Prevention) การติดตั้งระบบฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าอาคารและจุดบริการแบบไร้สัมผัสเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย หรือการออกแบบระบบท่อน้ำที่คำนึงถึงขั้นตอนการบำรุงรักษาที่สะดวก ไม่รบกวนผู้ที่พักอาศัยห้องอื่น ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแบบ Universal Design ที่เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เป็นต้น
“ด้วยจุดเด่นในด้านการจัดสรรพื้นที่และฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทำให้ Whizdom COEX เป็นคอนเซ็ปต์โครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบรับเทรนด์และความต้องการของผู้คนยุคใหม่ได้ในทุกมิติ และนอกจากการผสานนวัตกรรมการอยู่อาศัยสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งแล้ว เรายังตั้งใจออกแบบให้ Whizdom COEX เป็นพื้นที่แห่งการสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยได้ปลดล็อครูปแบบการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน เต็มที่ไปกับทุกกิจกรรมได้อย่างมีความสุข ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การค้นพบศักยภาพของตนเองและต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน เกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนโดยคนเจนใหม่เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราหวังว่าโครงการจาก Whizdom COEX จะเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์และเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างเเท้จริง” นายอัษฎา กล่าวสรุป
โดย MQDC เตรียมเปิดตัวโครงการ ‘Whizdom COEX Pinklao’ (วิสซ์ดอม โคเอ็กซ์ ปิ่นเกล้า) โครงการที่อยู่อาศัยแห่งแรกภายใต้แบรนด์ Whizdom COEX ในรูปแบบคอนโดมิเนียมมิกซ์ยูส บนพื้นที่รวมกว่า 4 ไร่ บนถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยโครงการประกอบไปด้วย 2 ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน ซึ่งมี ‘COEX Space’ พื้นที่ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ภายในโครงการ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกด้านของชีวิต ให้ทั้งการอยู่อาศัย การทำงาน การเรียน และทุกกิจกรรม ล้วนสามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้บนพื้นที่แห่งอนาคตนี้
Whizdom COEX Pinklao เตรียมเปิด Sales Gallery ให้เข้าชม และพร้อมเปิดให้จองอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 ตุลาคม นี้