ปรากฏการณ์กระแสความนิยม “จักรยาน” ในเวลานี้ ได้ทำให้จักรยานที่เคยเป็นแค่อุปกรณ์ที่ใช้ปั่นไปจ่ายตลาด ซื้อของใกล้ๆ บ้าน หรือที่เคยเรียกว่าจักรยานคนจน กำลังสร้างนิยามและความหมายขึ้นใหม่
เวลานี้ “จักรยาน” ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของความอินเทรนด์ของคนเมือง สะท้อนการมีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และแสดงออกถึงตัวตนที่ไม่เหมือนใคร
ตามแหล่งท่องเที่ยว เมืองชั้นในของกรุงเทพฯ ยามนี้จึงเต็มไปด้วย “นักปั่น” ใช้จักรยานขี่เยี่ยมชมความงามแห่งอดีตที่ซ่อนอยู่ตามตรอก ซอก ซอย ตามตลาด ร้านค้า ย่านเก่าๆ ของกรุงเทพฯ
เช่นเดียวกับ “ทริปปั่นเที่ยว” ต่างจังหวัดทั้งใกล้และไกล ทีมี่จักรยานคุณภาพ ราคาสูงเปน็ อุปกรณอ์ อกกำลังกาย ได้แรงผลักดันจากสังคมออนไลน์ และผู้นำเข้าจักรยานแบรนด์เนม ใช้กลไกการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้งานอย่างเห็นผล คาดกันว่าตลาดนี้มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท จากคอมมูนิตี้ “นักปั่น” ที่คึกคักไปด้วยสมาชิกเก่าและใหม่ ได้ทั้งสุขภาพและคลายเครียดไปในตัว
จักรยานยังเป็นสัญลักษณ์ของความ “คูล” ที่มีจักรยานตัวจี๊ด อย่าง “Fixed Gear” มาสร้างความฮอตผ่านบรรดาเทรนด์เซตเตอร์ ทั้งครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ นักโฆษณา นักร้อง เซเลบริตี้ ของเมืองไทย เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ สร้างวัฒนธรรม Fixed Gear จนกลายเป็น “ไลฟ์สไตล์” ใหม่ของสังคมเมืองในเวลานี้
ทุกวันนี้จักรยานยังทำหน้าที่เป็น “แฟชั่น ไอคอน” ที่เสื้อผ้าแบรนด์เนมต้องนำไปประดับในวินโดว์ช้อปปิ้งตามห้างหรู เพื่อสื่อถึงความทันสมัย ไม่ตกยุค และยังเป็น “สื่อ” ชั้นดีที่เชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับเป้าหมาย
ห้างสรรพสินค้าหรู คอมมูนิตี้มอลล์ และอาคารสำนักงานบางแห่งได้สร้าง “ที่จอดจักรยาน” รองรับสิงห์นักปั่นแวะเวียนมาใช้บริการ ถ้ามองกันให้ดี นักปั่นเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางในสังคม เป็นผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่หลายแบรนด์เริ่มมองเห็น เพราะกลุ่มเหล่านี้มีทั้งคนทำงาน และเจ้าของกิจการ ที่มีกำลังซื้อ
เชื่อว่า ปรากฏการณ์จักรยานทำให้เจ้าของแบรนด์ นักการตลาด ต้องหันมามอง ไม่ใช่แค่การเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ แต่ยังได้ภาพลักษณ์ของความเป็นแบรนด์คนดี มีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่งานนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองโอกาสจากกระแสนี้ได้ก่อนกัน