ปี 2565 ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แนวโน้มการใช้ 5G ทั่วโลกยังคงเติบโตไม่มีหยุด จากรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนมิถุนายน 2565 เผยว่า ภายในสิ้นปี 2565 นี้ ยอดผู้ใช้งาน 5G จะพุ่งแตะ 1 พันล้านบัญชี และจะเพิ่มเป็น 4.4 พันล้านบัญชี ในปี 2570 และคาดว่ายอดผู้สมัครใช้งาน 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียที่เดิมมีอยู่ 15 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงปี 2565 เช่นกัน สำหรับในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย มีการเติบโตชัดทั้งด้านจำนวนผู้ใช้และปริมาณการใช้งาน 5G สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดโลก ด้วยไทยมีพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มที่เป็น Tech Savvy ระดับต้น ๆ ของโลก
จำนวนผู้ใช้งาน 5G ในประเทศไทยที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงโอกาสทางการตลาดที่ค่ายมือถือต่างต้องงัดกลยุทธ์ในการแข่งขัน และเร่งพัฒนาทั้งคุณภาพสัญญาณ พื้นที่ให้บริการ แพ็กเกจและบริการเสริมที่คุ้มค่าและตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานสุดล้ำ ที่มากกว่าความสะดวกสบาย แต่ยังทำให้สนุกกับวิถีชีวิตดิจิทัลเต็มรูปแบบยิ่งขึ้น
เมื่อบริการ 5G เป็นที่นิยมและมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลองมาฟังเสียงสะท้อนของชาวโซเชียลที่ใช้บริการ 5G กันว่า ในครึ่งแรกของปี 2565 มีความคิดเห็นและความพึงพอใจต่อบริการ 5G ของ 3 ค่ายมือถือในประเทศไทยกันอย่างไรบ้าง
5G ค่ายไหน โดนใจชาวโซเชียลที่สุด
ถ้าพูดถึงเรื่อง 5G ในประเทศไทย สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่จะพูดถึงกันก็คือ สัญญาณและค่าบริการของแต่ละค่ายมือถือ การเก็บข้อมูลในครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า บริการ 5G ของ True ได้ใจชาวโซเชียลถึง 68% ตามมาด้วยค่าย AIS 28% และรั้งท้ายคือค่าย DTAC 4%
เปรียบเทียบ 3 ด้านดีต่อใจชาวโซเชียล
เมื่อเจาะลึกลงไปจะเห็นรายละเอียดของแง่มุมต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการ 5G บอกต่อกันโซเชียลว่าใช้แล้วดีต่อใจ สามารถสรุปข้อมูลได้เป็น 3 ด้าน เริ่มจากสัญญาณ ที่เน้นความเร็ว แรง และความเสถียรเป็นหลัก พบว่าสัญญาณของ True มาแรงที่สุดถึง 74% ตามมาด้วย AIS อยู่ที่ 25% ส่วน DTAC พบเพียง 1% เท่านั้น
ด้านราคาแพ็กเกจ หนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างมาก จากข้อมูลพบว่า ชาวโซเชียลแสดงความพึงพอใจต่อราคาแพ็กเกจของ True มากที่สุด สูงถึง 52% ทิ้งห่างจากค่าย AIS ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 40% และ DTAC 8%
อีกด้านหนึ่งที่ชาวโซเชียลพูดถึงกันมากคือ การเข้าถึงสัญญาณ 5G ซึ่งแสดงถึงการมีสัญญาณ 5G ในพื้นที่ต่างๆ ให้สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์สามารถจับสัญญาณได้ง่าย ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และในเรื่องนี้ True มาแรงที่สุดเป็นอันดับแรกด้วยสัดส่วนถึง 73% อันดับสองตามมาห่างๆ คือ AIS อยู่ที่ 20% และอันดับสุดท้ายคือ DTAC ที่มีการพูดถึงในประเด็นนี้เพียง 8% เท่านั้น
ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า ความชื่นชอบของชาวโซเชียลในแต่ละด้านของบริการ 5G มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ให้บริการ 5G ของแต่ละค่าย เพราะผู้ใช้ต่างคาดหวังว่าที่จะเข้าถึงบริการได้จากทุกที่และทุกเวลา รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้คนทุกจังหวัดได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับได้เท่าเทียมกัน ผู้ให้บริการทั้ง 3 ค่าย ได้เปิดเผยข้อมูลพื้นที่ให้บริการ 5G ไว้ว่า ค่าย True และ AIS มีพื้นที่ให้บริการ 5G ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ส่วน DTAC มีพื้นที่ให้บริการเพียง 20 จังหวัดเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกค้า DTAC แสดงความพอใจต่อสัญญาณและการเข้าถึงสัญญาณในสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับอีก 2 ค่าย
เปิด 4 เหตุผลทำไมคนอยากย้ายค่ายมาใช้บริการ 5G
ปัจจุบัน การย้ายค่ายมือถือเป็นเรื่องง่าย และสามารถใช้เบอร์เดิมได้ หรือจะเลือกเปิดเบอร์ใหม่กับค่ายอื่นเพื่อรับสิทธิพิเศษที่มากกว่าการอยู่ค่ายเดิมก็ยังได้ ผู้ใช้บริการจึงมีอิสระในการตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ค่ายมือถือที่ตัวเองพอใจ ซึ่งเสียงของชาวโซเชียลได้สะท้อน 4 เหตุผลสำคัญของการย้ายค่ายมือถือเพื่อใช้บริการ 5G ที่ตอบโจทย์ตรงใจ ดังนี้
เหตุผลอันดับแรก คือ ต้องการบริการที่ราคาถูกกว่า มีสัดส่วนมากที่สุดอยู่ที่ 70%
เหตุผลอันดับสอง คือ คุณภาพของสัญญาณอินเทอร์เน็ต อยู่ที่ 23%
เหตุผลอันดับสาม คือ หาเครือข่ายที่มี 5G ครอบคลุมมากกว่า อยู่ที่ 7%
ส่วนอีก 1% สุดท้าย ไม่ได้ระบุเหตุผลที่ชัดเจน
หากพิจารณาจากข้อมูลนี้จะเห็นได้ชัดว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่คำนึงถึงเรื่องราคามากกว่าเหตุผลอื่น ๆ อย่างมาก ยิ่งแต่ละค่ายมีโปรโมชันดี ๆ มาเป็นตัวเลือกให้ได้เปรียบเทียบกัน ก็เป็นปัจจัยที่ดึงดูดให้ผู้ใช้ย้ายไปยังค่ายที่มอบความคุ้มค่าให้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน เมื่อเจาะลึกลงไปในสัดส่วนความต้องการในการย้ายค่ายของชาวโซเชียล พบว่า True เป็นค่ายเดียวที่มีเสียงว่าอยากย้ายเข้ามากกว่าอยากย้ายออก โดยมีเสียงความคิดเห็นอยากย้ายเข้า 42% ขณะที่เสียงอยากย้ายออกมีเพียง 30% ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลความพึงพอใจของชาวโซเชียลที่กล่าวมาในข้างต้น ที่บอกต่อกันว่าสัญญาณ การเข้าถึงสัญญาณ และราคาแพ็กเกจของ True ต่างก็ดีต่อใจจนอยู่ในอันดับแรกทั้งสามด้าน
ส่วนค่ายที่ผู้ใช้งานอยากย้ายออกมากที่สุดคือ AIS โดยอยากย้ายออกมากถึง 56% แต่ก็มีผู้ใช้อยากย้ายเข้ามากที่สุด คือ 46% ส่วน DTAC ชาวโซเชียลแสดงความเห็นว่าอยากย้ายออก 14% และอยากย้ายเข้า 12%
ไลฟ์สไตล์ 5G ถูกใจชาวโซเชียล
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยบริการต่าง ๆ มากมาย กลุ่มผู้ใช้บริการ 5G ต่างประทับใจกับประสบการณ์สุดล้ำ ที่เปลี่ยนให้ทุกไลฟ์สไตล์สนุกกว่าที่เคย มาดูกันว่ากิจกรรมและไลฟ์สไตล์แบบไหนที่ชาวโซเชียลที่ใช้ 5G ถูกใจกันมากที่สุด
อันดับแรกที่ยังคงแรงไม่มีหยุดคือ ความบันเทิง ที่กลายเป็นชีวิตจิตใจของคนยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต รวมไปถึงการเล่นแอปพลิเคชันเพื่อความบันเทิงต่าง ๆ ถ้าใช้ 5G รับรองว่าใช้งานได้เพลินแบบไม่มีสะดุด สำหรับ 2 ค่ายที่ชาวโซเชียลแนะนำกันมากสำหรับความบันเทิงก็คือ True และ AIS
อันดับต่อมาคือ เกม แน่นอนว่า เกมเมอร์รู้กันดีว่าการสตรีมเกมผ่าน 5G ลื่นไหล รวดเร็วมากแค่ไหน ยิ่งเรื่องความหน่วงยิ่งหายห่วง ในเรื่องนี้ชาวโซเชียลแนะนำบริการของทั้ง 3 ค่าย ที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ได้เหมือนกัน
อันดับสามคือ การเรียนและการทำงาน ตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น Work from Home และต่อมาก็เป็นแบบ Hybrid ที่เปิดโอกาสให้คนทำงานได้จากทุกที่ ส่วนนักเรียนนักศึกษาบางกลุ่มก็ยังเรียนออนไลน์ ชาวโซเชียลที่ใช้งานด้านนี้เทใจให้ค่าย True และ AIS
แม้จะเป็นอันดับสุดท้าย แต่น่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ยอดนิยมของคนทุกยุค นั่นคือ การท่องเที่ยวและการกิน ซึ่งเน้นเรื่องการเสิร์ชหาเส้นทางไปสถานที่ท่องเที่ยว การค้นหาร้านอาหาร รวมไปถึงการอัปโหลดรูปภาพ และคลิปลงบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไลฟ์สไตล์สุดสนุกแบบนี้ ชาวโซเชียลยกให้ค่าย True โดดเด่นเพียงค่ายเดียวเท่านั้น
ไม่ว่าชาวโซเชียลจะชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบไหน เมื่อได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน 5G แล้ว ก็จะถูกใจในความเร็วและแรง ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ครบ และสนุกกับการใช้ชีวิตได้ไม่สิ้นสุด
สรุปความคิดเห็นของชาวโซเชียล
จากข้อมูลความคิดเห็นของชาวโซเชียล อาจสรุปได้ว่า ชาวโซเชียลชื่นชอบ True ที่มีสัญญาณ 5G เสถียรที่สุด ครอบคลุมไปถึงต่างจังหวัดและแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย และลูกค้าสามารถใช้ 5G ได้ทุกแพ็กเกจในราคาเริ่มต้นแค่ 299 บาท ด้าน AIS มีเสียงชื่นชมว่า อินเทอร์เน็ต 5G สัญญาณแรง โหลดไว ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนอีกทางว่า สัญญาณไม่ค่อยเสถียรนัก และลูกค้าที่จะใช้บริการ 5G ได้ ต้องสมัครแพ็กเกจสำหรับ 5G เท่านั้น ซึ่งถ้าเปรียบเทียบค่าบริการแล้วลูกค้าเก่าต้องจ่ายแพงกว่าลูกค้าใหม่และลูกค้าย้ายค่าย ส่วน DTAC ชาวโซเชียลแชร์กันว่า เริ่มมีพื้นที่สัญญาณ 5G มากขึ้น แต่ถ้าเทียบแล้วก็ยังน้อยกว่าค่ายอื่น สำหรับในแง่คุณภาพแล้ว สัญญาณ 5G ยังค่อนช้างช้า โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้แพ็กเกจที่ต่ำกว่า 699 บาท
ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนของชาวโซเชียลที่ใช้งาน 5G ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังสนใจอยากเปลี่ยนมาใช้ 5G ในการพิจารณาเลือกใช้บริการของค่ายมือถือที่สามารถตอบโจทย์ตรงใจไลฟ์สไตล์และมอบความคุ้มค่าได้มากที่สุด
หมายเหตุ: ข้อมูลจากการรวบรวม Public Post บนช่องทาง Facebook, Twitter, Instagram และ Pantip ที่มี Keywords ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 โดยใช้เครื่องมือ Social Listening