กลุ่มประเทศผลิตน้ำมันหรือรวมถึงพันธมิตรประเทศอื่นๆ อย่างรัสเซีย มาเลเซีย คาซัคสถาน (OPEC+) เตรียมที่จะลดกำลังการผลิตลงอีกมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล โดยจะมีการประชุมระหว่างประเทศส่งออกน้ำมันในสัปดาห์นี้ที่กรุงเวียนนาเพื่อหารือถึงกำลังการผลิต
แหล่งข่าวของ Reuters ได้กล่าวว่า “ช่วงเวลาการประชุมดังกล่าวนี้ถือเป็นที่จับตามองทั่วโลกอย่างมาก” และยังเป็นการประชุม OPEC ที่จัดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
โดยราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันอยู่ในช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งลดลงจากในช่วงไตรมาส 3 มาแล้วกว่า 23% หลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มสูงจากการบุกยูเครนโดยรัสเซีย ซึ่งราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงได้เพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจหลายประเทศ และเป็นสาเหตุสำคัญของเงินเฟ้อในหลายประเทศ และถ้าหากกลุ่ม OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตอีกครั้ง ยิ่งเพิ่มโอกาสทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
การปรับลดกำลังการผลิตนั้นส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากราคาที่ลดลงจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ประเทศส่งออกน้ำมันหลายประเทศประสบปัญหาค่าเงินอ่อนลงส่งผลต่อรายได้เข้าประเทศเหล่านี้
สำหรับประเทศแรกที่ส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบคือซาอุดีอาระเบีย โดยประเทศจากตะวันออกกลางรายนี้ได้ส่งสัญญาณในเดือนสิงหาคมมาแล้วว่าจะปรับลดกำลังการผลิต และล่าสุดรัสเซียเป็นอีกประเทศที่ส่งสัญญาณอยากให้กลุ่ม OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
OPEC+ เคยปรับลดกำลังการผลิตมาแล้วช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 เนื่องจากความต้องการน้ำมันลดลงอย่างมาก ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมีราคาต่ำมาแล้ว