บริการ คลาวด์เกมมิ่ง (Cloud gaming) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Gaming on Demand หรือ Gaming as a Service ที่มีแนวคิดที่ต้องการให้ผู้ใช้เล่นเกมใหม่ล่าสุดได้จากอุปกรณ์ที่หลากหลาย เพียงแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นอีกบริการในฝันของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายราย แต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะทำสำเร็จ เพราะ Google เองก็ยังล้มเหลว
หลังจากที่ให้บริการมาแล้ว 3 ปี Stadia บริการคลาวด์เกมมิ่งของบริษัทเทคคอมปานียักษ์ใหญ่อย่าง Google กำลังจะ ปิดให้บริการ โดย Google ระบุว่า จะคืนเงินให้ลูกค้าที่ซื้อฮาร์ดแวร์จาก Stadia อาทิ คอนโทรลเลอร์ รวมถึงเกมที่ซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ โดยผู้เล่นจะสามารถเข้าถึงบริการได้จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2023 นี้เท่านั้น
“มันไม่ได้มีผู้ใช้มากอย่างที่เราคาดหวัง ดังนั้น เราจึงตัดสินใจที่จะเริ่มยุติการให้บริการเกมสตรีมมิ่ง Stadia” Phil Harrison รองประธาน Google กล่าว
สำหรับบริการ Stadia นั้น Google ได้ให้บริการโดยมีแนวคิดที่ว่า ที่อยากให้ผู้คนเข้าถึงการเล่นคุณภาพระดับคอนโซลได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีคอมที่สเป็กแรง หรือมีเครื่องเกมคอนโซลอย่าง Play Station หรือ Xbox แต่แค่จ่ายค่าบริการรายเดือนก็สามารถเล่นเกมผ่านคลาวด์ได้เลย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคอนเซ็ปต์จะดี เพราะเหล่าเกมเมอร์จะสามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องเกม แต่ปัญหาคือ Google ไม่มีเกมของตัวเอง แม้ว่า Google จะพยายามปิดช่องว่างนี้ด้วยการ สร้างสตูดิโอเกมของตัวเอง แล้วก็ตาม แต่ Stadia Games and Entertainment กลับมีอายุแค่ 2 ปีก็ต้องปิดตัวไป แถมยังไม่ได้เปิดตัวเกมของตัวเองด้วยซ้ำ
“Stadia พวกเขามีความคิดที่ดี แต่มีรูปแบบธุรกิจที่ไม่ดี พวกเขาพยายามเสนอบริการแบบสมัครสมาชิกโดยไม่มีเกม” Michael Pachter นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของ Wedbush กล่าว
นอกจากนี้ คอนเซ็ปต์คลาวด์เกมมิ่งไม่ได้มีแค่ Google ที่ทำ แต่ Microsoft ผู้ผลิต Xbox ได้เสนอบริการ Game Pass ที่มีเกมมากมายให้เลือกมากกว่า จนปัจจุบัน Game Pass มีสมาชิกประมาณ 25 ล้านคน ในขณะที่ Stadia มีน้อยกว่าหนึ่งล้านคน และล่าสุด Microsoft เพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Samsung ในการเล่นเกม Xbox บนสมาร์ททีวีของ Samsung
“เราอยู่ในภารกิจที่จะนำความสุขและชุมชนของเกมมาสู่ทุกคนบนโลกใบนี้ และการนำแอป Xbox มาสู่สมาร์ททีวีเป็นอีกก้าวหนึ่งในการทำให้วิสัยทัศน์ของเราเป็นจริง” Phil Spencer หัวหน้า Microsoft Gaming กล่าว