องค์การการค้าโลก (WTO) ได้ออกมาปรับคาดการณ์การเติบโตของการค้าทั่วโลกในปีหน้า (2023) เหลือเพียงแค่ 1% เท่านั้น ซึ่งปัจจัยสำคัญนั้นเกิดจากหลายวิกฤตรุมเร้ามาก่อนหน้านี้ เช่น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันการบุกยูเครนโดยรัสเซียนั้นได้เพิ่มปัญหาที่มีก่อนหน้านี้ให้หนักมากขึ้นไปอีก
ในช่วงที่ผ่านมาวิกฤตหลายเรื่องได้สร้างผลกระทบต่อการค้าโลกอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการหยุดชะงักของซัพพลายเชน การแพร่ระบาดของโควิด-19 สภาวะโลกร้อน ไปจนถึงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ นอกจากนี้สภาวะเงินเฟ้อที่สูงในประเทศกำลังพัฒนาก็ยังส่งผลกระทบต่อการค้าโลกด้วยเช่นกัน
Ngozi Okonjo-Iweala ผู้อำนวยการทั่วไปของ WTO กล่าวว่า “ภาพการค้าในปี 2023 นั้นมืดมนลงอย่างมาก” นอกจากนี้เธอยังกล่าวเสริมว่า ถ้าหากสงครามในยูเครนเลวร้ายลง ยิ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง
เธอยังได้กล่าวว่า โลกต้องการฐานการผลิตสินค้าและบริการที่มีความหลากหลายมากขึ้นและกระจุกตัวน้อยลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโต เพิ่มความยืดหยุ่น และส่งเสริมเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาวรวมถึงบรรเทาผลกระทบจากความรุนแรงของสภาวะอากาศหรือแม้แต่การหยุดชะงักในพื้นที่นั้นๆ
นอกจากนี้เธอยังได้กล่าวว่าการกีดกันทางการค้ายังเป็นการเพิ่มความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันทางเงินเฟ้อ หรือแม้แต่มาตรฐานการครองชีพที่ต่ำลง ซึ่งเธอได้ยกตัวอย่างมาตรการกีดกันทางการค้าในกรณีการส่งออกอาหารรวมถึงปุ๋ยเคมีว่าปัจจุบันได้เพิ่มมากขึ้นอยู่ที่ 53 ประเทศ จากเดือนกันยายนอยู่ที่ 42 ประเทศ
ผู้อำนวยการทั่วไปของ WTO ยังได้ให้มุมมองว่าการค้าเสรีนั้นจะช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกได้ เช่น การเปิดกว้างการค้าด้านอาหาร ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันของเงินเฟ้อได้