ลาซาด้า เปิดความสำเร็จของผู้ขายในช่วงครึ่งปีแรก ด้วยคำสั่งซื้อและยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง พร้อมลูกค้า Gen Z เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว

  • ข้อมูลจากงานสัมมนาออนไลน์เพื่อผู้ขายของลาซาด้า ประจำปี 2565 พบว่าร้านค้ามีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 40% จากการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า Gen Z ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์ม
  • ลาซาด้าเปิดตัวเครื่องมือและโซลูชันการตลาดใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ขายสร้างการมีส่วนร่วมและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ผู้ขายสร้างธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและเติบโตในระยะยาว

ลาซาด้า ประเทศไทย เผยข้อมูลในงานสัมมนาออนไลน์ “Lazada Seller Conference 2022: The Next Chapter เปิดความสำเร็จบทใหม่ไปกับลาซาด้า” ถึงความสำเร็จของผู้ขายที่สร้างการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยพบว่าร้านค้าที่มียอดขายต่อเนื่องมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 50% ส่วนผู้ขายรายใหม่ที่สร้างรายได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 75% และมีลูกค้ากลุ่ม Gen Z บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวในช่วงครึ่งปีแรก นอกจากนี้ยังได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยพบว่าคนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก คือโดยเฉลี่ย 5 ชั่วโมง 28 นาทีต่อวัน โดยกิจกรรมยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ การรับชมความบันเทิง การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการสื่อสาร และการช้อปปิง ซึ่งลาซาด้าได้นำข้อมูลเชิงลึกดังกล่าวมาปรับกลยุทธ์ในการสนับสนุนผู้ขายด้วยเครื่องมือและโซลูชันใหม่ๆ เช่น การผสานการช้อปปิงเข้ากับความบันเทิงเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และช่วยให้ผู้ขายประสบความสำเร็จไปกับลาซาด้า

ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลาซาด้ายังช่วยให้ผู้ขายปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด รวมทั้งช่วยให้ผู้ขายรักษาการเติบโตได้อย่างยั่งยืนหลังจากโควิด-19 สิ้นสุดลง

ดร. วีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคของลาซาด้า พบว่าผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซจากทุกช่องทางโดยเฉลี่ย 4 คำสั่งซื้อต่อเดือน ลาซาด้ามั่นใจว่าด้วยการสนับสนุน และเครื่องมือ รวมถึงโซลูชันต่างๆ ของเรา จะช่วยให้ผู้ขายสร้างความสำเร็จทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพราะลาซาด้ามีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อปรับตัวตามความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับร้านค้าและผู้ขายในไทย รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ดิจิทัล”

ภายในงานยังเผยเทรนด์อีคอมเมิร์ซที่ต้องรู้ในยุคหลังโควิด-19 ที่จะช่วยให้ผู้ขายประสบความสำเร็จไปกับลาซาด้า อีกทั้งยังแบ่งปันกลยุทธ์การตลาดเพื่อพิชิตใจผู้บริโภค Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัวในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขายอีกมากมาย เช่น สมการที่ช่วยให้ผู้ขายประสบความสำเร็จในโลกอีคอมเมิร์ซ เครื่องมือ โซลูชัน และโปรแกรมส่งเสริมการขาย รวมถึงกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้ขายประสบความสำเร็จในแคมเปญ 11.11 และ 12.12 ที่กำลังจะมาถึง

ลาซาด้ายังเผยสถิติของมูลค่าอีคอมเมิร์ซทั้งตลาด B2C และ C2C ในประเทศไทยปี 2565 ที่มีมูลค่ารวม  818,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 14% จากในปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 2570 จะมีมูลค่าแตะ 1.6 ล้านล้านบาท สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนเพื่อการเติบโตในระยะยาว ซึ่งการสนับสนุนผู้ขายก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ลาซาด้าให้ความสำคัญในลำดับต้น ๆ

ดังนั้น ลาซาด้าจึงเตรียมพร้อมสร้างความสำเร็จให้กับผู้ขาย โดยมุ่งเพิ่มการมองเห็น อัตราการซื้อ และปริมาณการซื้อให้กับร้านค้า ผ่านโปรแกรมสนับสนุนใหม่ให้กับผู้ขาย ดังนี้

  • โปรแกรมร้านค้าแนะนำ ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้ขายที่มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมด้วยสิทธิประโยชน์มากมายบนลาซาด้า เช่น ป้ายพิเศษที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า นอกจากนี้ยังเพิ่มการมองเห็นให้สินค้าและกระตุ้นยอดขาย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นต้น
  • โปรแกรม Social Seller โปรแกรมพิเศษที่สนับสนุนอัตราค่าคอมมิชชั่นให้กับร้านค้าที่แนบลิงก์ Affiliate ในทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย ผู้ขายจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 50% เมื่อดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามาและสั่งซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์ม และ 5% หากเป็นลูกค้าปัจจุบัน โดยมีผู้ขายที่ได้รับค่าคอมมิชชั่นจากโปรแกรมนี้สูงสุดกว่า 300,000 บาทต่อเดือน
  • โปรแกรมส่งเร็วพิเศษ ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิงออนไลน์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น สำหรับร้านค้าที่มีการจัดส่งรวดเร็วอย่างสม่ำเสมอ โดยจะแสดงตราสัญลักษณ์พิเศษสำหรับร้านค้าที่มีการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็เพิ่มโอกาสในการขายและการมองเห็นสินค้าได้มากขึ้น

นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนผู้ขายรายใหม่ให้คว้าโอกาสในช่วงแคมเปญ 11.11 และ 12.12 ซึ่งเป็นมหกรรมช้อปครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีที่กำลังจะมาถึง ลาซาด้าได้เตรียมสิทธิประโยชน์ 8 รายการ* ให้แก่ผู้ขายรายใหม่ ดังนี้

  1. ยกเว้นค่าธรรมเนียมการชำระเงินเป็นเวลา 30 วัน
  2. ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการมาร์เก็ตเพลสเป็นเวลา 30 วัน
  3. โปรแกรมส่งฟรีพิเศษเป็นเวลา 30 วัน
  4. โปรแกรมเงินคืนทุกวันเป็นเวลา 30 วัน
  5. คูปองกระตุ้นยอดขาย
  6. แคมเปญสนับสนุนผู้ขาย “ลาซาด้าช่วยไทย”
  7. ทีมงานดูแลร้านค้าส่วนตัว สูงสุด 90 วัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  8. เข้าอบรมเทคนิคการขายที่ Lazada University ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.Lazada.co.th

“ลาซาด้าตระหนักดีว่า นอกเหนือจากการซื้อสินค้า ผู้บริโภคยังมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ อยู่เสมอ เราจึงมุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่เหนือกว่าแค่การช้อปปิง เราหวังสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ทุกการสั่งซื้อของลูกค้ามีความหมายและเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ตามจุดยืนของแบรนด์คือ “Add to Cart. Add to Life. ช้อปสิ่งที่ชอบ เพิ่มสิ่งที่ใช่ให้ชีวิต” ดร. วีระพงศ์ กล่าวสรุป

ผู้สนใจสามารถชมงานสัมมนาพิเศษ “Lazada Seller Conference 2022: The Next Chapter เปิดความสำเร็จบทใหม่ไปกับลาซาด้า” ย้อนหลัง ได้ทางเฟซบุ๊กเพจ Lazada Happy Selling ที่ลิงก์  https://bit.ly/3SYjy6S