อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA; HKEX: 9988) เปิดฉากมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ครั้งที่ 14 (“11.11” หรือ “มหกรรม”) อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมด้วยผู้ประกอบการเข้าร่วมผนึกกำลังมากกว่า 290,000 แบรนด์ สำหรับปีนี้ อาลีบาบาได้เตรียมสนับสนุนเครื่องมือและโซลูชั่นต่าง ๆ มากมายให้กับผู้ประกอบการ เพื่อขยายฐานสมาชิกใน Loyalty Programs ของแบรนด์ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งแสดงออกถึงความคิดริเริ่มต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ค้าประสบความสำเร็จตลอดและหลังช่วง 11.11 โดย ณ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการมากกว่า 40 แบรนด์บนทีมอลล์ (Tmall) มีจำนวนสมาชิกใน Loyalty Programs แล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ขณะที่อีก 600 แบรนด์ มีจำนวนสมาชิกใน Loyalty Programs มากกว่าหนึ่งล้านคน
“11.11 ปีนี้จะทำให้นักช้อปได้ตื่นตาไปกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่สุดในประวัติศาสตร์ของงาน โดยมีผลิตภัณฑ์มากถึง 17 ล้านรายการ รอคอยที่จะถูกส่งมอบให้แก่ผู้บริโภคในประเทศจีนไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านคน ซึ่งใช้บริการจากแพลตฟอร์มของเราเป็นประจำทุกปี ภายใต้การสนับสนุนจากแบรนด์และผู้ค้าของเราจากทั่วโลก” ชุย เฉีย ประธานศูนย์พัฒนาและปฏิบัติการอุตสาหกรรมของเถาเป่าและทีมอลล์ แห่งอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “11.11 ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของผู้ค้าของเราทุกปี การเปลี่ยนสถานะผู้บริโภคมาเข้าสู่ Loyalty Programs จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุด โดยนอกจากการแนะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางธุรกิจแก่ผู้ค้าแล้ว เรายังมีการปรับปรุงระบบการจับคู่อุปสงค์-อุปทาน และการบริหารสมาชิกใน Loyalty Programs เพื่อสนับสนุนแบรนด์และพันธมิตรทางการค้าของเราทุกราย ในท้ายที่สุด เราได้ตั้งเป้าหมายที่จะเปลี่ยนเม็ดเงินในมือลูกค้า ให้กลายเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดต่อการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวของผู้ประกอบการ”
ช่วงพรีเซล 11.11 บนทีมอลล์ได้เริ่มขึ้นในเวลา 20.00 น. (เวลาปักกิ่ง) ของวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะแบ่งกิจกรรมการขายออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเริ่มในเวลา 20.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคม และสิ้นสุด ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน ขณะที่ช่วงที่สองจะเริ่มตั้งแต่เวลา 20:00 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน และยาวไปจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน
ส่งเสริมแบรนด์ในการสร้างฐานลูกค้าคุณภาพสูง
อาลีบาบาจะสนับสนุนผู้ค้าในด้านการสรรหาสมาชิกเข้าสู่ Loyalty Programs รวมถึงด้านความคิดริเริ่มอื่น ๆ เพื่อผลักดันการใช้ระบบสมาชิกให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง และกลายเป็นเครื่องมือดึงดูด สร้างการมีส่วนร่วม และรักษาลูกค้าประจำของแบรนด์บนแพลตฟอร์ม
สำหรับในส่วนของ 88VIP โปรแกรมสมาชิกระดับพรีเมียมของระบบนิเวศอาลีบาบานั้น ณ ปัจจุบัน มีสมาชิกมากกว่า 25 ล้านคน สร้างการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 57,000 หยวน[1] สะท้อนถึงฐานผู้บริโภคคุณภาพสูงที่อุดหนุนสินค้าบนแพลตฟอร์มเป็นประจำ ด้วยสถานะอันแข็งแกร่งของอาลีบาบา เรามุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการสร้างฐานสมาชิกของตนเอง เพื่อทำให้พวกเขาสามารถกำหนดเป้าหมาย และให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้นตลอดทุกช่วงการบริโภคของลูกค้า แบรนด์ชั้นนำมากมาย รวมทั้งไนกี้ (Nike) และ ยูนิลีเวอร์ (Unilever) ก็ได้มีการจัด Loyalty Programs ผ่านหน้าร้านบนทีมอลล์ของพวกเขา เพื่อพัฒนาการเข้าถึงลูกค้าเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฐานผู้บริโภคที่ใช้บริการบนแพลตฟอร์มเป็นประจำกว่า 123 ล้านรายต่อปี รวมการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 10,000 หยวนต่อปี[2] บนเถาเป่าและทีมอลล์
ไลฟ์สตรีมยังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ค้าและผู้บริโภค โดยอาลีบาบาจะสนับสนุนผู้ค้าที่มีความสามารถในการจัดเซสชันไลฟ์สตรีมด้วยตนเองตลอดช่วง 11.11 ผ่านเถาเป่า ไลฟ์ (Taobao Live)
เตรียมพบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวใน 11.11 ปีนี้ รวมถึงแฟชั่นและเครื่องประดับจากแบรนด์หรูชั้นนำ อาทิ มองเคลอร์ (Moncler) และ เฟอร์รารี่ (Ferrari) ที่เพิ่งเปิด Flagship stores บนทีมอลล์เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยหลายแบรนด์ได้เตรียมจัดแสดงผลงานนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งได้นำข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมโดย Tmall Innovation Center (TMIC) มาศึกษาต่อยอดจนกลายเป็นชิ้นงานใหม่ๆ
สนับสนุนผู้ค้าทั้งในและต่างประเทศ
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ค้าและอินฟลูเอนเซอร์ที่โฮสต์เซสชันไลฟ์สตรีม อาลีบาบาได้ใช้วิธีการหลากหลายเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมบนแพลตฟอร์ม โดยความพิเศษของ 11.11 ปีนี้ คือ อาลีบาบาจะนำเสนอช่องทางการตลาดและความช่วยเหลือในการกำหนดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้กับผู้ค้าที่เพิ่งเริ่มจัดไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์มเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ อาลีบาบายังพร้อมสนับสนุนให้ผู้ค้าสามารถเข้าถึงเครื่องมือทางธุรกิจและด้านธุรกรรมการเงิน ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือวิเคราะห์การตลาด ซึ่งจะให้บริการแก่ผู้ค้าทุกรายบนเถาเป่าและทีมอลล์เป็นครั้งแรกในช่วง 11.11 นี้ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ของผู้ค้า นอกจากนี้ เถาเป่าและทีมอลล์ยังจะสร้างกระบวนการโอนเงินที่สะดวกรวดเร็วขึ้นแก่ผู้ค้า เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของพวกเขาในช่วง 11.11 กระบวนการนี้จะทำให้รอบบัญชีลูกหนี้ลดลงเหลือ 7 วันโดยเฉลี่ย สำหรับผลิตภัณฑ์บางรายการ
เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์สำหรับผู้ค้าข้ามพรมแดน ไช่เหนี่ยว (Cainiao) ได้ปรับปรุงพัฒนาคลังสินค้า พิธีการทางศุลกากร การขนส่งระหว่างคลัง และการจัดจำหน่ายสินค้า สำหรับ 11.11 ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเพิ่มจำนวนเส้นทางขนส่งสินค้าขาเข้าขึ้น 20 เปอร์เซนต์ และเพิ่มความจุในคลังสินค้าที่เราบริหารเองเป็นสองเท่า นอกจากนี้ ไช่เหนี่ยวยังได้เปิดตัวบริการขนส่งระหว่างคลังอีก 400 เส้นทาง ทั้งทางอากาศ ทะเล ถนน และทางรถไฟ เพื่อให้ครอบคลุมตลาดสินค้านำเข้าทุกประเทศ สำหรับการส่งออกจากประเทศจีนนั้น ไช่เหนี่ยวได้ร่วมมือกับอาลีเอ็กซ์เพลส (AliExpress) อย่างใกล้ชิด เพื่อนำเสนอบริการจัดส่งสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด ในตลาดต่างๆ ซึ่งการันตีด้วยการจ่ายค่าชดเชยกรณีจัดส่งล่าช้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ประกอบการและผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นจากระบบโลจิสติกส์ของเรา
สำหรับตลาดกำลังพัฒนา เถาเป่าดีลส์ (Taobao Deals) ได้เตรียมทำงานร่วมกับคลัสเตอร์อุตสาหกรรมมากกว่า 1,800 แห่งในจีนตลอดช่วง 11.11 เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าเงินในกระเป๋า เราพร้อมนำเสนอสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคส่งตรงจากโรงงานผู้ผลิตมากกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ
สัมผัสประสบการณ์การบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อีกหนึ่งความพิเศษของปีนี้ คือ ความริเริ่มต่างๆ ในด้านการสร้างชุมชน 11.11 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยอาลีบาบา กรุ๊ป ได้วางเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำซึ่งจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการใน 11.11 นี้ สำหรับทีมอลล์ เราได้กระตุ้นให้มีการติดฉลากผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำให้ครอบคลุมหมวดหมู่รายการช้อปปิ้งที่หลากหลายขึ้น เพิ่มเติมจากหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ประหยัดพลังงาน เช่น หมวดเครื่องแต่งกาย อาหาร และเครื่องสำอาง เพื่อส่งเสริมวิถีการบริโภคอย่างยั่งยืน ฉลากผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำบนแพลตฟอร์มได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกเขารับทราบถึงผลกระทบของการซื้อที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น
ทีมอลล์ยังได้ร่วมมือกับผู้ค้ากว่า 40 แบรนด์ ในการจัดแคมเปญสีเขียวเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำผ่านความคิดริเริ่มต่างๆ โดย 10 จากทั้งหมด 40 แบรนด์ เช่น Procter & Gamble, Haier, ThinkPad และ Yili ได้ร่วมกับทีมอลล์ จัดทำถุงช้อปปิ้งสร้างสรรค์และยั่งยืน เป็นของขวัญแจกฟรีสำหรับผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ข้อมูลของทีมอลล์ระบุว่า กระเป๋าครอสโอเวอร์หนึ่งใบของพวกเขา ทำมาจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล 6 ขวดซึ่งสามารถหาได้ง่าย นอกจากนี้ ทีมอลล์ยังร่วมกับอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) เทคโนโลยีดิจิทัลและแกนหลักอัจฉริยะของอาลีบาบา กรุ๊ป ในการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มบริหารจัดการคาร์บอน Energy Expert เพื่อจัดทำแบบจำลองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ออนไลน์ คำนวณและรับรองปริมาณ สำหรับผู้ค้า 40 แบรนด์ข้างต้น เพื่อให้พวกเขาสามารถตรวจสอบปริมาณคาร์บอนในผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ และมีข้อมูลจากการดำเนินงานตามแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืน
ด้วยความร่วมมือจากผู้ค้าหลายพันราย ไช่เหนี่ยวมุ่งมั่นที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการขนส่งและบรรจุภัณฑ์ เพิ่มเติมจากความพยายามในการรีไซเคิลกล่องพัสดุผ่านสถานีบริการไช่เหนี่ยวโพสต์ (Cainiao Post) เกือบ 100,000 แห่ง
[1] ข้อมูล ณ สิ้นสุดเดือนมิถนายน
[2] ข้อมูล ณ สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ระบุว่า ในจำนวนฐานลูกค้ากว่า 1 พันล้านคนของอาลีบาบาในประเทศจี