– ชี้พฤติกรรมและมุมมองที่มีต่อการใช้หูฟังเปลี่ยนแปลงไปจากอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเป็นแก็ดเจ็ทที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ ด้วยดีไซน์และสีสันที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
– ย้ำประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานมีความสำคัญทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ ความรู้สึก และการได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
– ดัน Skullcandy ลุยตลาดหูฟังและแก็ดเจ็ทต่อด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและเทคโนโลยีจัดเต็ม
บริษัท เมนทาแกรม จำกัด (Mentagram) ผู้จัดจำหน่ายหูฟัง Skullcandy เปิดเผยถึงตลาดหูฟังและกลุ่มเป้าหมายในไทย ปี 2566 ว่า พฤติกรรมการใช้หูฟังของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่เดิมมีการมองว่า หูฟังเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ตอนนี้หูฟังได้กลายเป็นแก็ดเจ็ทที่สามารถสวมใส่ และมีส่วนเสริมภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน ซึ่งในจุดนี้ทาง Skullcandy ได้ริเริ่มนำเสนอหูฟังที่เข้ากับไลฟ์สไตล์มาตั้งแต่ยุคแรกเมื่อ 19 ปีที่แล้ว
ด้วยความที่เมนทาแกรมมองว่า หูฟังเป็นมากกว่าหูฟัง จากดีไซน์และลุคที่น่ามอง สีสันที่แม็ทช์กับสไตล์การแต่งตัว การใช้ชีวิตประจำวัน และปัจจุบันได้กลายเป็นแก็ดเจ็ทที่ขาดไม่ได้ เพราะใช้ได้ทั้งการสื่อสาร และเป็นเพื่อนให้ความบันเทิง รวมทั้งการออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการทำงานและการเรียน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มประเภทของหูฟัง ไม่ว่าจะเป็น True Wireless, Full Size, Gaming และ Sport In-Ear ซึ่งจะเห็นได้จากการขยายตัวของตลาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่า ตลาดทั่วโลกจะขยายตัวถึง 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 2565 – 2571
เทรนด์การร่วมมือกับศิลปินหรือพาร์ทเนอร์ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสดใหม่
Mentagram ยังคงใช้รูปแบบการร่วมมือกับศิลปิน, KOL หรือพาร์ทเนอร์แบรนด์ในการทำตลาด เนื่องจากการทำตลาดในรูปแบบนี้ได้รับความสนใจจากตลาดอยู่เสมอ และทำให้แบรนด์มีความสนุกสนานและความสดใหม่
นอกเหนือไปจากการร่วมมือกับศิลปินหรือพาร์ทเนอร์แบรนด์แล้ว ทาง Skullcandy ยังได้ทำ CSR Marketing ด้วยการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยลดขนาดแพ็คเกจของสินค้าลง และตั้งเป้าในการลดคาร์บอน ฟุตพรินท์ (Carbon footprint) เช่น รุ่น Dime ที่ใช้แพ็คเกจที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% และยังลดขนาดของแบตเตอรี่ลง ตอบรับกับกระแสการตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม โดย Skullcandy ได้ใช้ CSR Marketing มาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปีแล้ว
ทั้งนี้ Mentagram ยังได้ใช้สื่อในการทำตลาดแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ ความรู้สึก และการได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ Skullcandy
โดยในกลุ่มสินค้าประเภท Audio ของ Mentagram ในปี 2566 นั้น บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายที่มั่นใจว่า จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2565 โดยไลน์สินค้าในปี 2566 ก็มีความพร้อมทุกประเภท ผลิตภัณฑ์หลักคือ Skullcandy ซึ่งจะมีสินค้ามากขึ้น ดีไซน์สดใหม่ ทั้งรุ่นท็อปอย่าง Crusher Evo และ รุ่นทรูไวร์เลส Push Active หรือ Gaming ที่กำลังจะวางตลาด ถึง 3 รุ่นพร้อมกัน ด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นและเป็นจุดเด่นของ Skullcandy ในราคาที่เข้าถึงง่ายและมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จัดเต็ม เช่น การรองรับคำสั่งเสียง การปรับจูนเสียงตามการได้ยินของผู้ใช้ Personal Sound, Multipoint pairing, คุณสมบัติในการกันน้ำและเงื่อ, เฟิร์มแวร์อัปเดท เกมมิ่ง ตอบโจทย์การใช้งานไม่ว่าผู้ใช้งานจะใช้เพื่อความบันเทิง การออกกำลังกาย หรือทำงาน
Mentagram ได้เตรียมฟเปิดตัวหูฟังรุ่น Krist Perawat Limited Edition Crusher Evo และ Crusher ANC ซึ่งมีความพิเศษในเรื่องของฟีเจอร์ Sensory Bass ที่เปลี่ยนเสียงเบสเป็นแรงสั่นสะเทือนเหมือนมีซับวูฟเฟอร์ และยังมี Personal Sound ปรับจูนเสียงได้ตามการได้ยินของผู้ใช้ได้
รายละเอียดของหูฟังทั้ง 2 รุ่น
– Crusher Evo (Sensory Bass, Personal Sound, 40 Battery Life) ในลุคที่ทันสมัย เท่ สปอร์ต
– Crusher ANC (ANC + Sensory Bass + Personal Sound) หูฟังพรีเมียมลุค สไตล์เมทัลลิก
โดยความพิเศษของรุ่น Krist Perawat Limited Edition ที่มี คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ จะมาพร้อมสกรีนโลโก้ และของที่ระลึกเฉพาะรุ่นในจำนวนจำกัดเพียง 200 ชุดเท่านั้น