ถือเป็นปีที่มีแต่ซีอีโอบริษัทใหญ่ ๆ ออกมาพูดถึงภาวะ ‘เศรษฐกิจถดถอย’ ทั่วโลก เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งทาง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF (International Monetary Fund) ออกมาจวก รัสเซีย โดยระบุว่า สงครามกับยูเครนเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยในปีนี้ และอาจลากไปถึงปีหน้า
คริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า สงครามในยูเครนเป็น ปัจจัยลบที่สำคัญที่สุดเพียงปัจจัยเดียว สำหรับเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และเป็นไปได้มากว่าจะกลายไปเป็นปัญหาในปี 2566 ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก, ค่าครองชีพที่สูงขึ้น, ความมั่นคงด้านอาหาร และพลังงาน
“เราตัดสินว่าสงครามในยูเครนเป็นปัจจัยลบที่สำคัญที่สุดเพียงปัจจัยเดียวสำหรับเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และเป็นไปได้มากว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในปีหน้าด้วย เพราะสิ่งใดก็ตามที่สร้างความวิตกกังวลมากขึ้นย่อมสร้างความเสียหายต่อโอกาสในการเติบโต”
ก่อนหน้านี้ IMF ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการกระจายตัวของเศรษฐกิจโลกอันเป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และลดการคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 ลงเหลือ 2.7% จากที่จะเดิมที่คาดไว้ว่าจะเติบโต 3.2% พร้อมกับระบุว่า อัตราการเติบโตดังกล่าวนับเป็นการเติบโตที่ อ่อนแอที่สุด นับตั้งแต่ปี 2544 หากไม่นับวิกฤตการเงินโลกและการระบาดของ COVID-19
“เนื่องจากสงครามในยูเครนและการระบาดของ COVID-19 ทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัด และสร้างความเสียหายต่อการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยิ่งกระทบหนักในประเทศที่กำลังพัฒนา”
IMF ย้ำว่า หากโลกไม่ต้องการที่จะสูญเสียเงินระหว่าง 1.4 – 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี เพราะผลกระทบจากสงคราม ลองนึกดูว่าจะสามารถทำอะไรกับเงินจำนวนนี้ได้บ้าง