ราคา ‘น้ำมันดิบ’ พุ่ง 2% หลัง OPEC+ ยันลดกำลังการผลิตและ ‘จีน’ ผ่อนคลายโควิด

ราคา น้ำมันดิบ พุ่งขึ้นมากถึง 2% หลังจากจีนส่งสัญญาณการผ่อนคลายการควบคุมโควิดในวงกว้างขึ้น ทำให้หลายคนมีความหวังที่จีนจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ขณะที่ OPEC+ ยืนยันคงเป้าหมายการลดกำลังการผลิต และการจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบทั้งสองพุ่งขึ้นมากกว่า 2% โดย ราคาน้ำมันดิบ เบรนท์ ซื้อขายล่าสุดที่ 86.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 80.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจาก OPEC+ ตกลงที่จะคงนโยบายปัจจุบันในการลดการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 2% ของความต้องการทั่วโลกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงสิ้นปีหน้า

นอกจากนี้ กลุ่ม G7 ได้กำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียที่ขนส่งทางทะเลอยู่ที่ 60 ดอลลาร์ และการห้ามใช้น้ำมันดิบของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์จาก National Bank of Australia มองว่า ผลกระทบจากการกำหนดเพด้านราคาน้ำมันของรัสเซียนั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะส่งผลต่อการส่งออกของรัสเซียอย่างไร รวมถึงยังไม่ชัดเจนว่ารัสเซียจะตอบสนองอย่างไร แต่รัสเซียเคยขู่ว่าจะ ไม่ส่งน้ำมันให้กับประเทศที่กำหนดเพดานราคา

“ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับ OPEC+ ที่จะรักษาเสถียรภาพไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่รู้ว่าการผลิตของรัสเซียจะลดลงเท่าไรหลังจากวันนี้” อมริตา เซ็น หัวหน้าฝ่ายวิจัยของที่ปรึกษาด้านพลังงาน Energy Aspects กล่าว

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการที่ จีน ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังผ่อนปรนการควบคุมโควิด

“ตลาดเคลื่อนไหวเพราะมองในแง่ดีเกี่ยวกับการเปิดประเทศของจีน และความกังวลเกี่ยวกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเฟดอาจลดอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

Source